| กองบรรณาธิการCentrip

โทไคโดเซกิจูกุ ทริปเที่ยวใน 1 วันที่สนุกได้จากสถานที่ไม่ไกลจากนาโกย่า⑥

หากคุณต้องการท่องเที่ยวแบบได้สัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ก็จะเหมาะเป็นอย่างมากหากคุณลองแวะเมืองประวัติศาสตร์ที่ซึ่งอดีต เคยเป็นเมืองสำหรับการพักระหว่างการเดินทางของญี่ปุ่น เซกิจูกุที่อยู่ในเส้นทางโทไคโดนั้นถือเป็นเมืิองแห่งที่พักในยุคเอโดะที่ได้รับการอนุรักษ์แบบดีที่สุด เมื่อคุณมาถึงเซกิจูกุ คุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณย้อนเวลากลับไปในช่วงยุคเอโดะเลยทีเดียว

ความเป็นมาและปัจจุบันของโทไคโดเซกิจูกุ

การเดินทางระหว่างโตเกียว・เกียวโตและโอซาก้าโดยรถไฟชินคันเซ็นสาย“ โทไกโด” ถือเป็นความสนุกที่แท้จริงของการเดินทาง มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่นิยมใช้เส้นทางการเดินทางนี้ ระยะทาง 492 กม. นี้เริ่มต้นที่ ฮมบะชิของโตเกียวและจุดหมายปลายทางคือซันโจโอฮะชิของเกียวโต ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สำคัญที่สุดที่เรียกว่าโกะไคโดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์เอโดะก็ว่าได้ ในปัจจุบันผู้คนสามารถเดินทางระหว่างโตเกียวและเกียวโตโดยชินคันเซ็นในเวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง แต่ผู้คนในเวลานั้นต้องเดินเท้าซึ่งว่ากินว่าใช้เวลาประมาณ 13-15 วัน

อุมิโยเอะ ภาพวาดในซะสึจูกุ
อุมิโยเอะ ภาพวาดในซะสึจูกุ

ในช่วงที่ถนนของเมืองเข้ารับการปรับปรุง นักท่องเที่ยวก็หยุดมาเที่ยว จึงเป็นโอกาสดีที่เมืองแห่งที่พักนี้จะไดัรับการปรับปรุงไปด้วย บนเส้นทางโทไคโดมีเมืองแห่งที่พักมากถึง 53 แห่ง เรียกว่า "โทไคโด โกะจูซัง จิ" ทิวทัศน์ของเมืองนี้ ถูกวาดโดยอุตะกาวะ ฮิโระชิเกะในสไตล์แบบอิมิโยะเอะ ซึ่งเป็นที่โด่งดังเป็นอย่างมาก
โทไกโดยังคงพัฒนาต่อไปในด้านของการคมนาคมญี่ปุ่นและเมืองแห่งที่พักหลายแห่งได้ปรับสิ่งต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยให้มากขึ้นจากที่กล่าวมา โทไคโดเซกิจูกุเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ถนนและบรรยากาศให้คงอยู่เหมือนในสมัยก่อน อยู่ในระดับเดียวกับ ซึมาโกะจูกุและมะโกะเมะจูกุบนเส้นทางนะกะยามะมิจิ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของสมัยเอโดะได้

ประตูโทริิอิที่ตั้งอยู่ปลายสุดด้านตะวันออกของเซกิจูกุ
ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์ยังมีให้เห็นเรื่อย ๆ
 

วิธีเดินทางไปยังเซกิจูกุ

สถานีJRเซกิจูกุและศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว

หากคุณมาจากนาโกย่าให้ขึ้น JR คันไซ Main Line ไปยังคาเมะยามะ จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นคันไซ Main Lineอีกคันเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีถัดไปคือสถานีเซกิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการไปถึงคาเมะยามะและจากคาเมะยามะไปยังเซกิ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ราคาอยู่ที่ 1170 เยน
นอกจากนี้คุณสามารถไปยังสถานีอิกะอูเอะโนะซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องนินจาได้ในเวลาประมาณ 40 นาทีโดยนั่งรถไฟสาย JR คันไซ Main Line จากสถานีเซกิ
อีกทั้งหากคุณมาโดยทางด่วนพิเศษ คุณสามารถเดินทางจากเมืองนาโกย่ามาถึงที่หมายได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้นรถเช่าก็ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่สามารถใช้รถได้ที่เซกิจูกุเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ไปเที่ยวที่ปราสาทคาเมะยามะ ศาลเจ้าโนโบโนะแบบชิว ๆ ได้อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเซกิจูกุ

พื้นที่ของเซกิจูกุนั้นครอบคลุมประมาณ 1.8 กม. ไปในทางทิศตะวันออก จากสถานี JR เซกิมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ หลังจากออกจากถนนที่มีบ้านเมืองเรียงรายแล้ว ให้ไปสุดทางทิศตะวันออก ไปยัง "ทางสามแพร่งทิศตะวันออก"จากนั้น มุ่งหน้าไปยัง "ทางสามแพร่งทิศตะวันตก" แล้วลองเดินบนเส้นทาง 1.8 กิโลเมตรดู หากคุณมีเวลาครึ่งวัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับเซกิได้อย่างเต็มที่ เราขอแนะนำให้คุณซื้อตั๋ว 500 เยนที่สามารถเข้าได้ทั้ง 3 ที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ หอแสดงรถไม้ของเซกิ พิพิธภัณฑ์ผังเมืองเซกิและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เซกิจูกุ ฮาทาโกะ ทามายะซึ่งเราจะมาเล่าเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ให้ฟังหลังจากนี้ค่ะ

หอแสดงรถไม้ของเซกิ(เซกิโนะยามะไคคัง)

หอแสดงรถไม้ของเซกิเป็นสถานที่ที่ใหม่ที่เปิดในปี 2019 มีการจัดแสดงรถไม้ที่ใช้ใน "เทศกาลฤดูร้อน เซกิยะโดะกิอง" ที่จัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคม ในเทศกาลทาคายาม่า คำว่า "山車" ถูกอ่านว่า "ดะชิ" แต่ใน เทศกาลเซกิยะโดะ คำนั้นจะถูกอ่านว่า "ยามะ" ในญี่ปุ่นมีคำว่า "เซกิโนยามะ" ซึ่งมีความหมายว่า "ทำให้เต็มที่จนสุดความสามารถที่มี" กล่าวคือด้วยความที่รถไม้ของเซกินั้นใหญ่ ถ้าใหญ่มากกว่านี้กลัวว่าจะไม่สามารถนำแสดงบนถนนได้ จึงเกิดเป็นคำ ๆ นี้ขึ้นมา

รถลากที่ถูกแกะสลักอย่างประนิีต
ศาลเจ้าแบบใช้คนหามที่เคยถูกใช้ในสมัยก่อน

สามารถดูบรรยากาศของเทศกาลฤดูร้อนเซกิจูกุกิออนในเดือนกรกฎาคมได้ในวิดีโอด้านล่าง

 

พิพิธภัณฑ์ผังเมืองเซกิ

พิพิธภัณฑ์เมืองเซกิตั้งอยู่ในใจกลางของเซกิจูกุ สถานที่แห่งนี้เปิดให้ประชาชนเข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการอนุรักษ์ทิวทัศน์ของเมืองเซกิจูกุได้ เพดานที่อยู่ต่ำของที่นี่ถือเป็นจุดเดินอย่างหนึ่ง บันไดถูกออกแบบมาเป็นพื้นที่เก็บข้าวของต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่แคบ ๆ ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด การได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในเวลานั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

บันไดแบบมีช่องเก็บของ
บรรยากาศของชั้น 2

เฮียคุโระคุริเท・โชกันเท

ถัดจากพิพิธภัณฑ์ผังเมืองเซกิมีสวนขนาดเล็กที่เรียกว่าสวนเฮียคุโระคุริเท และมีหอดูวิวเซกิจูกุที่เรียกว่าโชกันเทอยู่ ซึ่งสามารถใช้บริการได้ฟรี อย่าลืมแวะที่นี่กันด้วยนะคะ
คำว่า "⾥(ริ)" เป็นหน่วยนับของญี่ปุ่นในสมัยเก่า 1ริเทียบเท่ากับประมาณ 3.9 กิโลเมตร และสวนเฮียคุโระคุริเท ตั้งชื่อตามระยะทางของเซกิจูกุที่อยู่ห่างจากเอโดะ (โตเกียว) 106 ริ นั้นเอง (เฮียคุโระคุแปลว่า 106)

ทิวทัศน์จากโชกันเท

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เซกิจูกุฮาตะโกะทามะยะ

หลังจากออกจากโชกันเทและไปทางซ้ายคุณจะเห็น "ทามะยะ" โรงแรมเล็ก ๆ ในสมัยเอโดะที่ตอนนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ในการเดินทางของผู้คนในสมัยเอโดะ พวกเขาจะสวมรองเท้าแบบเรียบง่ายที่ทำจากฟางเรียกว่า "วะระจิ" แต่เนื่องจากเวลาเดินทาง เท้าของพวกเขาจะเลอะดินจึงต้องล้างเท้าในอ่างซะก่อน ก่อนที่จะขึ้นไปที่โรงแรม ที่นี่ยังจัดแสดงอ่างล้างเท้าที่ถูกใช้ในสมัยนั้นอีกด้วย

อ่างล้างเท้า
ห้องดินสำหรับเตรียมอาหาร

แม้ด้านหน้าของทางเดินจะดูไม่กว้างนัก แต่เมื่อคุณลองมองเข้าไปข้างใน คุณจะต้องประหลาดใจกับความลึกของที่นี่ หลังจากปีนบันไดที่สูงชันจากชั้นแรกขึ้นมาที่ชั้นสอง คุณจะพบห้องนอนและห้องอาหารที่ผู้เดินทางในสมัยเอโดะเคยใช้

ภาชนะต่าง ๆ ถูกวางอยู่บนเสื่อทาทามิ
ฟุตงที่นักเดินทางใช้

วัดเซกิจิโซอิง

ออกเดินจากทิศตะวันออกของทางสามแพร่ง แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของเซกิจูกุ เดินเลาะไปริมทางแล้วคุณจะเห็นอุโบสถที่ดูยิ่งใหญ่อยู่ทางด้านซ้าย วัดเซกิจิโซอิงเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีผู้คนมากมายที่เดินทางในเส้นทางโทไคโดแล้วเดินทางไปนมัสการ ว่ากันว่าในประเพณีการเบิกเนตรพระพุทธรูป(การอัญเชิญพระพุทธเจ้ามาสถิต)หลังได้รับการซ่อมแซม มีพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีส่วนร่วมในพิธีนี้ด้วย ถือเป็นพิธีสำคัญระดับชาติเลยทีเดียว หอระฆังที่ทาสีแดงก็ถือเป็นอีกสมบัติทางวัฒนธรรมที่สวยงามอีกอย่างหนึ่ง

ระฆังภายในหอระฆัง
หอระฆังสีแดง

อาหารที่สามารถเพลิดเพลินได้ในเซกิจูกุ

ร้านไอซึยะ

ในระหว่างมุ่งหน้าไปยังวัดเซกิจิโซอิง คุณจะพบร้านแห่งนี้ ร้านไอซึยะเป็นร้านอาหาร ในสมัยเอโดะที่นี่ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่สำคัญที่สุดในเซกิจูกุ ภายนอกของร้าน ไม่ว่าจะเป็นป้ายหรือตัวอาคาร ก็จะทำให้คุณรู้สึกถึงประวัติศาสตร์และความเป็นบรรยากาศของเมืองเก่า จนอาจจะแอบเผลอมองเข้าไปในร้าน เมนูแนะนำของที่นี่คือข้าวอบผักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งใช้การหุุงแบบโบราณโดยหุงจากหม้อหุงน้ำ

บรรยากาศภายในร้าน
ชุดอาหาร 1500 บาท

"เซกิโนะโตะ"ของร้านฟุคาวายะ

ณ เมืองแห่งที่พักที่มีคนดังและนักเดินทางมากมายสัญจรไปมานี้ ยังเป็นถิ่นกำเนิดของขนมญี่ปุุ่น ร้านฟุคาวายะ ก่อตั้งขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 17 โดย ฮัตโตริ ยะสึชิเกะ ผู้สืบเชื้อสายนินจา ว่ากันว่าในยุคนั้น“ เซกิโนะโตะ” ได้รับการเสนอให้เป็นขนมที่เอาไว้ใช้กินกับชาที่พระราชวังอิมพีเรียลในเกียวโต และในตอนนี้ก็ยังใช้วิธีการผลิตแบบเดียวกับในสมัยเอโดะอีกด้วย

บรรยากาศภายในร้าน
เซกิโนะโตะ

“ชิระทามะ” ของร้านมะเอะดะยะ

“ชิระทามะ” ของร้านมะเอะดะยะก็โด่งดังไม่แพ้"เซกิโนะโตะ"จากร้านฟุคาวายะเลยล่ะค่ะ ความอร่อยมาจากความหวานของถั่วแดงถูกห่อหุ้มด้วยแป้งที่นุ่มเหมือนโมจิ คุณสามารถซื้อ ทั้ง“ชิระทามะ” และ"เซกิโนะโตะ" ได้ในราคาประมาณ 100 เยนต่อชิ้น ยังไงก็ลองซื้อมาชิมทั้งคู่ดูนะคะ

ป้ายโฆษณา
ชิระทามะ

สถานที่ท่องเที่ยวหลักรอบ ๆ โทไคโดเซกิจูกุ

ปราสาทคาเมะยามะ

ศาลเจ้าโนโบโนะ

อิกะอุเอะโนะ

สรุป

มีหลายสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับเมืองเก่าของญี่ปุ่นเช่น ทาคายาม่า อะริมะทสึที่นาโกย่า,ทสึมาโกะจูกุและมาโกะเมะจูกุที่อยู่บนสายนะกะยามะมิจิ แต่สถานที่ใหญ่ ๆ ที่ทิวทัศน์ของสมัยเอโดะยังคงอยู่นั้น ถือว่าหาดูได้ยากมาก ที่เซกิจูกุ ผู้คนยังคงอาศัยอยู่ที่นี่ ปฏิบัติตามกฎระเบียบอาคารที่เข้มงวดเป็นอย่างดีและยังบำรุงรักษาทิวทัศน์ของเมืองนี้ไว้ เรียกได้ว่าการไปที่นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคเอโดะเลยล่ะค่ะ

Related Articles Related Articles