| Centrip Editorial Board

ค้นพบความงดงามของกระเช้าลอยฟ้าโกไซโชและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงในจังหวัดมิเอะ ฉบับจบใน 1 วัน

ในภูเขาโกไซโชของจังหวัดมิเอะ กระเช้าลอยฟ้าโกไซโชมีความโดดเด่นจากความสูงที่ทำลายสถิติในบรรดากระเช้าลอยฟ้าของญี่ปุ่น ที่แห่งนี้ ดึงดูดผู้มาเยือนด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่งของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว หากคุณขับรถเพียงหนึ่งชั่วโมงจากสถานีนาโกย่าหรือสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ คุณก็จะได้พบกับความงามของธรรมชาติและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ สถานที่ที่ได้รับความนิยม ​​และทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่น่าหลงใหล มาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกรอบภูเขาโกไซโชที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ภายในหนึ่งวันกันเถอะ

กระเช้าลอยฟ้าโกไซโช: สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในทุกฤดูกาล

ตื่นตาไปกับเกล็ดน้ำแข็งในฤดูหนาว
ดื่มด่ำกับสีสันของฤดูใบไม้ร่วง

ภูเขาโกไซโชที่มีความสูงถึงประมาณ 1,212 เมตร ถือเป็นสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่มีความงดงามเฉพาะตัวของแต่ละฤดูกาล เช่น กุหลาบพันปีภูเขาสีสันสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เขียวขจีในฤดูร้อน สีสันของฤดูใบไม้ร่วงอันตระการตา และการก่อตัวของน้ำแข็งอันน่าทึ่งในฤดูหนาว ภูเขาแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชอบดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติในญี่ปุ่น

หากคุณไม่ชอบการเดินป่า กระเช้าลอยฟ้าโกไซโชเป็นทางเลือกที่ดีซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีผ่านความชันถึง 780 เมตร ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินเล่นบนท้องฟ้า เมื่อคุณขึ้นไป ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้คุณได้เห็นภาพ ตั้งแต่ความเขียวขจีที่เชิงเขาไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อเข้าใกล้ยอดเขา ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

ลิฟต์ยอดเขา
ในวันที่อากาศแจ่มใส คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากหอดูดาวฟูจิมิอิวะบนยอดเขา

เมื่อคุณไปถึงยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าแล้ว คุณจะได้เดินป่าเป็นเวลา 30 นาทีซึ่งจะนำคุณไปสู่จุดชมวิวแบบพาโนรามาแห่งนี้ การเดินทางจะผ่อนคลายยิ่งขึ้น เราแนะนให้ใช้ลิฟต์ที่จะพาคุณตรงไปยังยอดเขาและคุณจะได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามตามที่คุณต้องการ

ร้านอาหารที่จุดชมวิว: Nature
อุด้งแกงกะหรี่โกไซโช

เมื่อเดินเล่นจนเหนื่อยแล้ว แวะไปที่ 'ร้านอาหาร Nature' ร้านอาหารเสิร์ฟอาหารเลิศรสของจังหวัดมิเอะไปพร้อมกับทิวทัศน์อันงดงามผ่านหน้าต่าง สิ่งที่ต้องลองคือ 'อุด้งแกงกะหรี่โกไซโช' ซึ่งมีอิเสะอุด้ง ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดมิเอะที่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นบะหมี่ที่นุ่ม เสิร์ฟมาในน้ำซุปแกงกะหรี่ที่มีเอกลักษณ์ เป็นอาหารมื้ออร่อยหลังจากทำกิจกรรมมาตลอดทั้งวัน

AQUAIGNIS: จุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบ่อน้ำพุร้อนและอาหาร

การตกแต่งของ AQUAIGNIS

ขับรถเพียง 10 นาทีจากกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช ก็จะพบกับรีสอร์ทน้ำพุร้อน 'AQUAIGNIS' อันทันสมัย สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่มีน้ำพุร้อนและโรงแรมเท่านั้น แต่ยังมีร้านอาหารให้เลือกมากมายและยังมีกิจกรรมการเก็บสตรอเบอร์รี่อันน่ารื่นรมย์

เมนูแนะนำ: ไท (ปลาทรายแดง) ชาสึเกะ
อาหารจานเดียวที่ให้ประสบการณ์ถึงสามรสชาติ

ร้านอาหารทุกแห่งภายใน AQUAIGNIS ได้รับการดูแลโดยเชฟชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น 'Kasaan Sanpiryoron' เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ มาสะฮิโระ คาสะฮาระ ผู้อยู่เบื้องหลังการทำอาหาร 'Sanpi Ryoron' ในเอบิสุของโตเกียว คุณจะได้ทานอาหารรสเลิศ โดยอาหารกลางวันราคาระหว่าง 1,000 เยนถึง 3,000 เยน ซึ่งรับประกันทั้งคุณภาพและความคุ้มค่า

เค้กซิกเนเจอร์ของ ConfitureH คือ 'C'est la vie' และ เค้กมัทชะ 'Rikyu'
แยมสูตรพิเศษมีจำหน่ายที่ร้านของหวาน
Mariage de farine' Bakery
ครัวซองต์อบสดใหม่ที่ร้านเบเกอรี่

ฮิโรโนบุ สึจิกุจิ เชฟทำขนมชื่อดังเป็นเจ้าของร้านขนมหวาน 'ConfitureH' และร้านเบเกอรี่ 'Mariage de farine' ร้านอาหารเหล่านี้ไม่ได้ขายเพียงแค่เค้กที่สวยงามตระการตาเท่านั้น พวกเขายังมุ่งมั่นที่จะใช้ส่วนผสมของแท้อีกด้วย เค้กของพวกเขามักจะขายหมดก่อนหมดวันซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความนิยมของพวกเขา

คาตะโอกะออนเซ็นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้ไผ่

คาตะโอกะออนเซ็น จะมอบประสบการณ์การอาบน้ำที่ยอดเยี่ยมจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ 100% พร้อมกลิ่นกำมะถันอันละเอียดอ่อน ช่วยให้ผิวของคุณรู้สึกเรียบเนียนอย่างน่าอัศจรรย์ ห้องอาบน้ำกลางแจ้งที่ AQUAIGNIS คาตะโอกะออนเซ็นมีขนาดกว้างขวางเป็นพิเศษ ซึ่งหาได้ยากสำหรับออนเซ็นแบบญี่ปุ่นที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่จึงต้องจำกัดบ่อน้ำกลางแจ้ง ที่นี่รายล้อมไปด้วยต้นไผ่และท้องฟ้าเปิดกว้าง คุณสามารถเพลิดเพลินกับอ้อมกอดของธรรมชาติได้ ออนเซ็นแห่นี้มีราคาไม่แพงโดยราคาเริ่มต้นเพียง 600 เยนในวันธรรมดา และ 800 เยนในวันหยุดสุดสัปดาห์

เก็บสตรอเบอร์รี่ที่ AQUAIGNIS

การเก็บสตรอเบอร์รี่เป็นกิจกรรมที่คุณจะสนุกได้ที่ 'ฟาร์มสึจิกุจิ' ในช่วงตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน สตรอเบอร์รี่เหล่านี้ปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์เก็บได้ไม่จำกัดในระยะเวลา 40 นาที สตรอเบอร์รี่ที่เก็บสดในตอนเช้าตรู่เหล่านี้ถูกนำมาใช้ในเค้กที่ร้าน 'ConfitureH' ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพระดับพรีเมียมของผลผลิต

Rokkaen: แหล่งวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศที่ผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกและญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

Rokkaen มีเอกลักษณ์ที่องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมตะวันตกและญี่ปุ่นเชื่อมโยงถึงกัน
สวน Rokkaen อันกว้างใหญ่

หลังจากขับรถจาก AQUAIGNIS ประมาณ 30 นาที เราก็มาถึงจุดต่อไป Rokkaen Rokkaen สร้างขึ้นในปี 1913 เป็นบ้านใหม่ของนักธุรกิจที่มีชื่อว่าโมโรโตะ เซโรคุที่ 2 หรือเรียกกันว่า 'ราชาแห่งขุนเขาและป่าไม้' พื้นที่ด้านตะวันตกได้รับการออกแบบโดย โจซาห์ คอนเดอร์ สถาปนิกชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น 'บิดาแห่งสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสมัยใหม่' ในยุคที่ญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มเปิดรับอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงสมัยเมจิและไทโช Rokkaen ยืนหยัดเป็นข้อพิสูจน์ถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมนี้ โดยการผสมผสานอาคารสไตล์ตะวันตกเข้ากับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างมีเอกลักษณ์

วิวสวนจากอาคารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
โถงทางเดินที่หรูหราในอาคารสไตล์ตะวันตก

ด้วยความเคารพต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ สถาปนิกได้รวมอาคารสไตล์ญี่ปุ่นควบคู่ไปกับอาคารแบบตะวันตก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เชื่อมต่อกันด้วยผนังเพียงด้านเดียว ทำให้เกิดการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยาก ดูเหมือนว่าตระกูลโมโรโตะ เซโรคุจะอาศัยอยู่ในส่วนอาคารญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ Rokkaen มีความก้าวหน้าอย่างมากในยุคนั้น โดยมีการติดตั้งท่อน้ำในสมัยที่น้ำบาดาลเป็นเรื่องธรรมดา กระเบื้องปูพื้นและกระจกโค้งซึ่งยังไม่ได้ผลิตในญี่ปุ่นถูกนำเข้ามา เน้นย้ำถึงความมั่งคั่งของเจ้าของ

Rokkaen เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ อาคารที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสวนแบบญี่ปุ่น มักได้รับเลือกสำหรับการถ่ายภาพแต่งงานและพิธีบรรลุนิติภาวะ และเป็นสถานที่ถ่ายทำยอดนิยมสำหรับภาพยนตร์และละครต่างๆ

Rokkaen มอบประสบการณ์การเข้าร่วมพิธีชงชาแบบดั้งเดิม
เพลิดเพลินกับชุดชามัทฉะและขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในราคา 500 เยน

ใน Rokkaen มีห้องชงชาพร้อมวิวสวนญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการเตรียมมัทฉะ (กระบวนการผสมน้ำร้อนกับผงมัทฉะโดยใช้ที่ตีไม้ไผ่) ในราคาเพียง 500 เยนเท่านั้น

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโรงงานยกไกจิ: การแสดงแสงสียามค่ำคืนอันน่าหลงใหล

เส้นขอบฟ้าของอุตสาหกรรมยามค่ำคืนของยกไกจิ

ขับรถเพียง 20 นาทีจาก Rokkaen คุณจะไปถึงยกไกจิ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอุตสาหกรรมที่โดดเด่น เมืองยกไกจิในจังหวัดมิเอะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่คึกคัก เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์จำนวนมาก โรงงานต่างๆ ซึ่งมักจะเปิดทำการตลอดทั้งคืน จะส่องสว่างท้องฟ้าพร้อมผสมผสานกับควันสีขาวและแสงไฟที่เปล่งประกายราวกับความฝัน ทำให้ 'ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโรงงานยกไกจิ' ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

อาคารท่าเรือยกไกจิ

แม้ว่าจะมีสถานที่มากมายให้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโรงงานในเมืองยกไกจิ แต่อาคารท่าเรือยกไกจิก็มีความโดดเด่น จุดชมวิวบนชั้น 14 มองเห็นวิวแสงไฟยามค่ำคืนได้ ที่แห่งนี้อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้องได้ ทำให้มีโอกาสถ่ายภาพได้มากมาย (การเปิดทำการในเวลากลางคืนของอาคารนั้นมีเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

โรงงานในเมืองยกไกจิที่เปิดทำการในเวลากลางคืน

มีบริการล่องเรือ 60 นาทีรอบท่าเรือยกไกจิ มองเห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างใกล้ชิด

บทสรุป

แม้ว่ากระเช้าลอยฟ้าโกไซโชและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่สถานที่เหล่านี้ก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมช่วงสุดสัปดาห์สำหรับชาวญี่ปุ่น ลองใช้เวลาหนึ่งวันในจังหวัดมิเอะและค้นพบความงามทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และอาหารเลิศรส แนะนำให้เช่ารถจากบริการเช่าที่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์เมื่อเดินทางมาถึงเพื่อการเดินทางที่ราบรื่นและสนุกสนาน

Related Articles Related Articles