|Emily Chang
KAGOME NASU: สนุกไปกับการเก็บมะเขือเทศ
เมื่อพูดถึงน้ำมะเขือเทศแล้ว คำแรกที่ปรากฎขึ้นมาใจในดิฉันคือ "คาโกเมะ" เพราะคาโกเมะคือ ชื่อของบริษัทผู้ผลิตอาหารที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นาโกย่า และหนึ่งในความภาคภูมิใจของภูมิภาคญี่ปุ่นตอนกลาง
อย่างที่อาจจะเป็นที่ทราบกันดี บริษัทคาโกเมะมีโรงงานและศูนย์วิจัยอยู่มากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติ์ที่ได้มาเยี่ยมชมหนึ่งในโรงงานเหล่านั้น ซึ่งก็คือโรงงานของคาโกเมะที่นะสุ แต่อันที่จริง บริษัทคาโกเมะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่มีความสนใจเกี่ยวกับความลับเบื้องหลังความสดใหม่และรสชาติแสนอร่อยของน้ำมะเขือเทศของบริษัทอยู่แล้ว
นี่คือภาพของทิวทัศน์จากสถานีในวันหน้าร้อนที่มีเมฆมาก ดิฉันอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ของเมืองที่สมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้
ที่ประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของดิฉันผู้คนไม่ค่อยดื่มน้ำผักกัน ตัวดิฉันเองเพิ่งได้ลองดื่มน้ำมะเขือเทศก็ตอนที่มาอยู่ที่ญี่ปุ่นและเพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำให้ลองชิม ดิฉันถึงได้ทราบว่าน้ำมะเขือเทศอร่อยแค่ไหน
ดิฉันทราบมาว่าน้ำผักไม่เพียงแต่จะมีดีที่ความอร่อย แต่ร่างกายเรายังซึมซับสารอาหารการดื่มน้ำผักได้ง่ายกว่าการทานผักสด บริษัทคาโกเมะเป็นผู้พัฒนาวัตถุดิบทุกอย่างที่นำมาประกอบเป็นน้ำมะเขือเทศคาโกเมะ และยังก่อตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับสารอาหารและแนวคิดที่ได้จากมะเขือเทศและผักชนิดอื่นๆ คาโกเมะจึงไม่ได้เป็นเพียงบริษัทผู้ผลิตอาหาร แต่ยังเป็นห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
พันธุ์ของมะเขือเทศที่นำมาผลิตเป็นน้ำมะเขือเทศคาโกเมะมีชื่อว่า "Lylyco" ซึ่งมีสารไลโคปินเยอะกว่ามะเขือเทศสายพันธุ์ทั่วไปที่ปลูกไว้ทานสดกว่า 2-3 เท่า ไลโคปินคืออะไร? ไลโคปินคือสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จึงสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และต้องการให้ดูแลผิวให้ขาวใสมากขึ้น
มะเขือเทศสายพันธุ์นี้แค่ทานสดๆก็อร่อยค่ะ!
เนื่องจากผักที่ประเทศจีนมีราคาที่ถูก ผู้คนจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญต่อการรับสารอาหารโดยการทานผัก บริษัทคาโกเมะกำลังหาทางเพิ่มสารอาหารที่จะได้รับจากการทานผักให้ได้มากที่สุด จากผลการวิจัย ทางบริษัทได้พบวิธีที่จะทำให้เราได้รับสารอาหารจากผักมากขึ้นในปริมาณที่น้อยลง น่าเหลือเชื่อจริงๆใช่ไหมคะ
ได้เวลาลองเก็บมะเขือเทศกันแล้วค่ะ ไปที่ไร่กันเลยค่ะ
มาถึงแล้วค่ะ!
พอใส่ถุงพลาสติกครอบรองเท้าแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจนรอไม่ไหว อยากออกไปลองเก็บมะเขือเทศแล้วค่ะ! ไปกันเลย!
เจ้ากบตัวน้อยกำลังสงสัยอยู่แน่เลยว่าพวกเรามาทำอะไรกันที่นี่
ทุกปีไร่แห่งนี้จะเป็นแหล่งเก็บเกี่ยวมะเขือเทศกว่า 20 ตัน มะเขือเทศ "Lylyco" สามารถเก็บได้ด้วยมือเปล่าโดยไม่ต้องใช้กรรไกรต่างจากมะเขือเทศชนิดอื่นๆ
บริษัทคาโกเมะร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ที่จะพัฒนาไปด้วยกัน โดยการเปิดโครงการสัญญาให้เกษตรกรนำพันธุ์ไปปลูกและยังให้ความรู้พวกเขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเกษตรต่างๆและเกร็ดต่างๆที่ทางบริษัทค้นพบเอง เพราะบริษัทคาโกเมะเลือกที่จะแบ่งปันความรู้กับเกษตรกรแทนที่จะเก็บไว้เอง ทั้งเกษตรกรและสังคมจึงมีชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ นอกจากนี้บริษัทคาโกเมะยังลงพื้นที่ตามครัวเรือนเพื่อตรวจหาสารพิษตกค้างเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ
ดิฉันอยากจะเก็บมะเขือเทศทั้งหมดกลับจริงๆค่ะ
พอได้มาลองเก็บมะเขือเทศท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้แล้ว ดิฉันก็นึกถึงข้อความที่บอกถึงพันธกิจของบริษัทที่ว่า "พัฒนาให้ทรัพยากรธรรมชาติมีรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นและทำให้ผู้คนมีความสุขยิ่งขึ้น" ซึ่งดิฉันว่าตรงมากค่ะ
เก็บเพลินๆอยู่ถุงที่ใส่มะเขือเทศก็เต็มขึ้นมา
ก่อนที่เราจะกลับ คุณไกด์ถ่ายรูปให้พวกเราทั้งคู่หน้าป้าย เรายิ้มแล้วพูดอย่างสดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่า "สวัสดีมะเขือเทศ"
ครั้งหน้าดิฉันอยากไปชมโรงงานของคาโกเมะที่นะสุมากเลยค่ะ