| กองบรรณาธิการCentrip

6ของกินที่พลาดไม่ได้หากมาคานาซาว่า พร้อมแนะนำร้านที่คนท้องที่ยังบอกว่า “อร่อยสุด ๆ ”!

จุดเด่นของอาหารคานาซาว่า

写真提供:金沢市

คานาซาว่าเมืองหลักที่ใหญ่ที่สุดในแถบโฮะคุริคุ มีทั้งความงามแบบญี่ปุ่นโบราณแบบเกียวโต จนได้รับขนานนามว่าเกียวโตน้อย เรียงรายไปด้วยทิวทัศน์เมืองเก่า และศิลปะหัตถกรรมแบบโบราณที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าหลัก ๆ แล้วจุดประสงค์ของคนที่มาเที่ยวคานาซาว่าจะเป็นสวนเค็นโระคุเอ็งหรือเมืองเก่าอย่างจะยะไก แต่ขอบอกเลยว่าต้องไม่พลาดของกินเด็ด ๆ ของที่นี่นะคะ!

写真提供:金沢市

คานาซาว่าหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่มีปริมาณของอาหารทะเลเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประวัติอันยาวนานในเรื่องของการปลูกข้าว อาหารที่อร่อยจึงเป็นส่วนหนึ่งในพลังสำคัญที่ช่วยทำให้ผู้คนที่นี่มีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต ถ้าพูดถึงอาหารคานาซาว่าแล้ว สิ่งที่เราอยากแนะนำมากที่สุดน่าจะเป็นร้านซูชิเวียนและอาหารที่ทำจากปลา,แกงกะหรี่และโอเด้ง,เกี๊ยวซ่าไปจนถึงอาหารพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีไอศครีมทองคำเปลว หนึ่งในของดังของคานาซาว่าอีกด้วย สเน่ห์ของของกินคานาซาว่าคืออะไร แล้วถ้าไปคานาซาว่าจะไปหาของกินเด็ด ๆได้ที่ไหน ใครอยากรู้คำตอบล่ะก็ ตามมาเลยค่ะ

6 อาหารดังของคานาซาว่า

1.ซูชิเวียน

เนื่องจากคานาซาว่าเป็นแหล่งอาหารทะเลจึงทำให้สามารถจับปลามาทำหน้าซูชิได้หลากหลายสายพันธุ์ แถมราคาก็ย่อมเยาว์ จึงทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการกินซูชิหน้าต่าง ๆ แบบที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนได้ที่ร้านซูชิเวียนในคานาซาว่า วัตถุดิบที่นิยมใช้กับซูชิคานาซาว่าคือ ปลาโนะโดะกุโระกับกุ้งกะสึ โนะโดะกุโระเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ปลากระพงที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ปลาโอทาโร่เนื้อขาว” เนื้อเนียนนุ่มและหวานมันเหมาะกับการนำมาทำเป็นหน้าซูชิ กินดิบก็ได้ จะเอาไปย่างแล้วโรยพริกกับเกลือก็อร่อย กุ้งกะสึเป็นกุ้งที่แหล่งกำเนิดในแถบโฮะคุริคุ มีเปลือกสีออกไปทางน้ำตาล และมีเนื้อที่หวาน ยิ่งทานแบบดิบยิ่งสัมผัสความหวานของกุ้งได้มากขึ้น เนื่องจากกุ้งกะสึเป็นกุ้งที่เก็บรักษาได้ยาก จึงไม่นิยมส่งขายไปยังที่ต่าง ๆ ถ้าอยากจะลิ้มรสเจ้ากุ้งกะสึสักครั้งล่ะก็ ต้องมาที่ภูมิภาคโฮะคุริคุ

ร้านอาหารแนะนำ:ร้านโมะริโมะริซูชิ

ถ้าอยากสนุกกับการรับประทานซูชิเวียนล่ะก็ แนะนำให้ไปร้านโมะริโมะริซูชิ มีสาขาทั้งที่สถานีคานาซาว่าและที่ตลาดโอมิโจอิจิบะ และถือเป็นร้านที่ดังที่สุดที่นี่ คุณจะได้ลิ้มรสซูชิที่ทำจากปลาสด ๆ ปั้นตรงหน้าพร้อมเสิร์ฟให้คุณ เรียกได้ว่าถ้ามาคานาซาว่าต้องไม่พลาดมาร้านซูชิเวียนร้านนี้

หากมาร้านโมะริโมะริซูชิแล้วเมนูที่ต้องสั่งให้ได้คือ ปลาโนะโดะกุโระ,รวมมิตร3กุ้งโฮะคุริคุ,รวมมิตรข้าวปั้นห่อสาหร่ายหน้าปูหิมะและรวมมิตรข้าวปั้นห่อสาหร่ายหน้าปลาหมึกโฮตารุ เมนูรวมมิตร3กุ้งโฮะคุริคุ จะมีกุ้ง 3 แบบในจานได้แก่ กุ้งหวานสด,กุ้งกะสึ,และกุ้งชิโระเอะบิจากโทยามะ ในส่วนของเมนูปูหิมะจะใช้ปูที่จับได้ในภูมิภาคโฮะคุริคุ แนะนำให้ทานทานไข่กุ้งและมันกุ้งที่เป็นสีส้มเพราะอร่อยมากจริง ๆ อ่าวโทยามะโด่งดังในเรื่องของปลาหมึกโฮตารุ เมนูรวมมิตรปลาหมึกโฮตารุจะประกอบไปด้วย ซาชิมิ ปลาหมึกราดซอสและหมึกของปลาหมึกให้ท่านได้สนุกไปกับการลองชิมซูชิหน้าต่าง ๆ นอกจากนี้ที่โมะริโมะริซูชิยังมี เมนูปลาบุริหอยซึบุปรุงรส และหอยอาวาบิที่มีสัมผัสที่เนียนนุ่มอีกด้วย

2.อาหารทะเล

ทะเลในแถบจังหวัดอิชิกาว่าเป็นทะเลที่มีทั้งกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นจึงทำให้สามารถเจอได้ทั้งปบาเมืองร้อนและปลาเมืองหนาวถือเป็นแหล่งประมงที่ดีที่สุดเพราะมีสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์มาอาศัยอยู่ด้วยกันまนอกจากนี้อิชิกาว่ายังเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมอาหารจากหลายแหล่งตั้งแต่สมัยฮันเซ อาหารที่นี่จึงถูกปรุงขึ้นด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพและได้รับการปรุงอย่างประณีต นอกจากนี้ชามที่ใส่ก็ยังเป็นภาชนะที่ทำขึ้นด้วยความละเอียดละออช่วยเพิ่มสีสันให้อาหารดูน่ารับประทานมากขึ้น หากใครอยากซื้ออาหารทะเลสด ๆ แนะนำที่ตลาดโอมิโจ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1721 ตลาดโอมิโจอิจิบะเป็นตลาดที่รักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมมานานกว่า 300 ปีเป็นตลาดที่ถูกเรียกว่า “ห้องครัวของชาวเมือง” นอกจากอาหารทะเลในคานาซาว่าแล้วยังสามารถซื้ออาหารทะเลที่มาจากแหล่งอื่นในญี่ปุ่นได้อีกด้วย

ร้านอาหารแนะนำ:ร้านอิตารุ ฮนเต็ง

ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารทะเลที่มีแทบทุกอย่างล่ะก็ ขอแนะนำ”ร้านอิตารุ ฮนเต็ง”อิซากายะที่มีชื่อเสียงที่สุดในคานาซาว่า มีทั้งอาหารพื้นเทืองและเหล้าสาเกพร้อมให้บริการ เปิดทำการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988ทั้งความอร่อยของเนื้อและบรรยากาศที่ดูเป็นญี่ปุ่นมาก ๆ ทำให้ร้านนี้เป็นอิซากายะที่ชาวเมืองคานาซาว่าเองก็ชื่นชอบ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเองก็ยังยกนิ้วให้กับความอร่อยของร้านนี้

ปลาที่ร้านอิตารุฮนเต็งนำมาปรุง เป็นปลาสดที่ส่งตรงจากอ่าวคานาซาว่า อ่าวชินมินาโตะและอ่าวอุชิสึทุกวัน เนื่องจากเมนูหลักของร้านมีไม่มากจะเปลี่ยนไปตามปลาที่จับได้ในฤดูต่าง ๆ รอเชฟปรุงอาหารไม่นาน ท่านก็จะได้ลิ้มรสอาหารสุดอร่อย นอกจากอาหารทะเลแล้ว เราอยากให้ท่านลองผักจากเมืองคะกะด้วย ผักของเมืองคะกะเป็นผักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดอิชิกาว่า หนึ่งในผักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ว่านท้องใบม่วง(ซุยเซ็นจินะ)และหัวไชเท้าจิ๋ว(เก็นสึเกะไดคง)
เมนูที่ถือเป็นหน้าเป็นตาของร้านคือ รวมมิตรปลาดิบทะเลญี่ปุ่น ท่านจะได้ปลาดิบจานใหญ่ยักษ์ที่ประกอบไปด้วยปลาหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้เมนูที่ทำจากปลาโนะโดะคุโระ อย่างเมนู “ข้าวหน้าโนะโดะกุโระ” (ปลาโนะโดะคุโระแล่บาวางเรียงบนข้าวนุ่ม ๆ) หรือจะเป็นเมนูปลาโนะโดะคุโระย่างเกลือ ที่แค่เปิดฝา กลิ่นหอมก็พร้อมเรียกน้ำย่อยของท่านให้ทำงานได้

3.แกงกะหรี่คานาซาว่า

写真提供:金沢市

ตามชื่อเลยค่ะ แกงกะหรี่คานาซาว่าก็คือแกงกะหรี่ที่มีต้นตำหรับมาจากคานาซาว่า จุดเนของแกงกระหรี่คานาซาว่าคือมีรสชาติที่แตกต่างจากแกงกะหรี่ในพื้นที่อื่นจุดเด่นอยู่ที่ความเข้มข้นของน้ำแกงและปริมาณน้ำแกงที่ราดลงบนข้าวขาวหอมนุ่มจนแทบมองไม่เห็นข้าวข้างล่าง ข้างจนโรยด้วยกระหล่ำปลีหั่นละเอียดและเสิร์ฟบนจานสแตนเลส

ร้านอาหารแนะนำ:ร้านแกงกะหรี่แชมป์เปี้ยน
写真提供: oyaji_no_golf_2018

ใครที่อยากลิ้มรสแกงกะหรี่แท้ ๆ ของคานาซาว่าล่ะก็ แนะนำให้ไปที่ร้านที่เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวคานาซาว่านั่นคือ “ร้านแกงกะหรี่แชมป์เปี้ยน” ร้านนี้เริ่มเปิดทำการในปี ค.ศ. 1961 ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาร้านแกงกะหรี่แชมป์เปี้ยนใส่ใจในทุกกระบวนการการปรุงและเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ ว่ากันว่าถ้าได้มารับประทานแกงกะหรี่ที่ร้านแกงกะหรี่แชมป์เปี้ยนแล้ว จะไม่มีวันลืมรสชาติของที่นี่ น่าจะเป็นเพราะความข้นของน้ำแกงกำลังดีกับรสชาติเผ็ดนิด ๆและความกลมกล่อมที่จะเติมเต็มความฟินของคุณ หากมาร้านนี้เป็นครั้งแรก แนะนำให้ลองเมนูออริจินอลของทางร้าน ซึ่งเป็นเมนูแกงกะหรี่ที่มีชื่อเสียงในคานาซาว่า ชื่อเมนูว่า“Lคัตสึคะเร (ราคา 790 เยน )”นอกจากนี้เมนูที่เราแนะนำก็จะมี แกงกะหรี่ไก่ทอด แกงกะหรี่กุ้งทอด แกงกะหรี่ครีมโคโระเกะ

4.โอเด้ง

写真提供:金沢市

โอเด้งที่คานาซาว่าขายอยู่ตลอดทั้งปี และมีหลากหลายให้เลือกทั้ง ลูกชิ้นปลาแท่ง อะคะมะคิ หอยซะซะเอะและอีกมากมายหลายเมนู มีผู้คนมากมายแวะเวียนมาที่นี่
เมนูที่ถือเป็นโอเด้งประจำคานาซาว่าได้แก่ คะนิโนะเม็ง(เนื้อปู)และหอยซาซาเอะ คะนิโนะเม็งทำจากปูหิมะในชามประกอบด้วยกระดองปู มันปูและเนื้อปู นอกจากนี้ยังใช้ซุปที่ทำจากปูอีกด้วย ซึ่งขั้นตอนการปรุงพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ในส่วนของโอเด้งช่วงฤดูหนาวที่ทำจากปลาหน้าหนาวของคานาซาว่าถือเป็นของที่หารับประทานได้ยาก หอยซาซาเอะปกติแล้วนิยมกินแบบดิบแต่ที่คานาซาว่านิยมกินในแบบโอเด้ง สัมผัสอันยืดหยุ่นและความอร่อยของโอเด้งเข้ากับน้ำซุปอุ่น ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

ร้านอาหารที่แนะนำ:ร้านอะมะซึโบะ
写真提供: chikara.0923

หากอยากลองชิมโอเด้งแบบคานาซาว่าล่ะก็ แนะนำให้ไปที่ร้านอิซากายะชื่อ”อะมะซึโบะ”เป็นร้านที่เสิร์ฟทั้งอาหารพื้นเมืองคะกะและเหล้าสาเกรสเลิศของญี่ปุ่นมานานกว่าครึ่งศตวรรษ วัตถุดิบที่ถูกนำมาปรุงที่นี่ส่งตรงมาจากตลาดโอมิโจอิจิบะ เน้นที่ความสดและคุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลักเพื่อให้ได้อาหารรสเยี่ยม ในส่วนของโอเด้งก็ใช้วัถุดิบที่หาซื้อได้ในพื้นที่คานาซาว่า มีโอเด้งหลายแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นอะวะบุ อิชิดะโกะ(หมึกยักษ์) หอยมันจุ มีทั้งโอเด้งแบบทั่วไปและโอเด้งแบบคานาซาว่าให้เลือกถึง 40 แบบด้วยกัน โอเด้งเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปอุ่น ๆ ที่ทำจากคอมบุให้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม

5.เกี๊ยวซ่า

写真提供: minuano68

ถ้ามาคานาซาว่าแล้ว เมนูที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดคือ “เกี๊ยวซ่า” ตอนแรกที่คานาซาว่ามีร้านเกี๊ยวซ่าชื่อ “ร้านเกี๊ยวซ่า” อยู่ 7 ร้าน โดยชื่อร้านจะมีลำดับในการตั้งอยู่ด้วยตั้งแต่ 1 – 7 ปัจจุบันเหลือเพียงร้านลำดับที่ 5 – 7 เท่านั้น และร้านที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเป็นร้านหมายเลข 7

写真提供: minuano68

ที่คานาซาว่ามีร้านที่ชาวพื้นเมืองเองก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ชื่อ “ร้านเกี๊ยวซ่าหมายเลข 7” หากได้ยินคนในพื้นที่พูดว่า “ไปหมายเลขเจ็ดกัน ” แสดงว่าพวกเขากำลังชวนกันมาที่ร้านเกี๊ยวซ่าหมายเลข7อยากรู้มั้ยคะว่าทำไมร้านนี้ถึงดังขนาดนั้น เหตุผลหลัก ๆ คือ เมนู “ไวท์เกี๊ยวซ่า” เนื่องจากคนที่สอนสูตรเกี๊ยวซ่านี้เป็นคนจีนชื่อคุณ白(แปลว่าสีขาว) จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อเมนูนี้ ไวท์เกี๊ยวซ่ามีรสชาติที่ค่อนข้างต่างจากเมนูเกี๊ยวซ่าจีนทั่วไปและมีลักษณะที่ต่างกับเกี๊ยวซ่าปกติอีกด้วย ไวท์เกี๊ยวซ่ามีขนาดใหญ่และถูกย่างน้ำมันจนกว่าจะได้เกี๊ยวซ่าที่มีความกรอบ อีกทั้งยังใช้แป้งที่หนา ต่างกับเกี๊ยวซ่าทั่ว ๆ ไป ภายในสอดไส้กระหล่ำปลี ต้นหอมและวัตถุดิบอื่น ๆ มากกว่า 40 ชนิด ขั้นตอนการทำมีดังนี้ ก่อนอื่นนำเกี๊ยวซ่าที่ปั้นเสร็จแล้วต้มในน้ำร้อนก่อนนำไปย่าง หลังจากที่ย่างน้ำมันเสร็จก็นำไปย่างต่ออีก 15 นาที วางทิ้งไว้ให้นำในเกี๊ยวซ่าระเหยประมาณ 15 นาที และสุดท้ายนำไปย่างให้ได้สีน้ำตาลแบบสุนัขจิ้งจอก ภายนอกจะได้สัมผัสที่กรอบจากแป้งตัดกับความนุ่มของไส้ภายในเกี๊ยวซ่า แค่กัดคำแรกความหอมของเกี๊ยวซ่าก็พร้อมจะทำให้น้ำย่อยคุณทำงานแล้ว

6.ไอศครีมคานาซาว่า

คานาซาว่าถือเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลว ปกติแล้วที่นิยมขายกันมากคือตะเกียบและจานที่ทำจากทองคำเปลว แต่ใครจะไปรู้ว่าทองคำเปลวก็สามารถนำมาทำเป็นไอศครีมได้ ไอศครีมทองคำเปลวถือเป็นของขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของเมืองคานาซาว่า ทองคำเปลวจะถูกโปะลงบนไอศครีมสีขาว แววววับน่ากินมากเลยล่ะค่ะ

ร้านที่แนะนำ:ฮะคุอิจิ
写真提供: tomoko_mano

หนึ่งในร้านขายไอศครีมทองคำเปลวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือร้านฮะคุอิจิ ไม่ใช่เพียงแค่เพลิดเพลินไปกับไอศครีมทองคำเปลวเท่านั้นยังสามารถเพลินเพลินไปกับการดูผู้ทำแปะทองคำเปลวได้อีกด้วยปกติแล้วไซส์มาตรฐานของแผ่นทองคำเปลวจะมีความยาวประมาณ 10 ซ.ม. แต่ละแผ่นจะถูกแปะอยู่กับกระดาศสีขาว ซึ่งผู้ทำจะใช้ตะเกียบคีบกระดาษนั้นแล้วแปะลงบนไอศครีมเมื่อแปะเสร็จแล้วจึงค่อยลอกกระดาษสีขาวออกเท่านี้ทองคำเปลวก็จะไปอยู่บนไอศครีมแล้วเรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ดูลื่นไลและน่าประทับใจสุด ๆ เลยล่ะค่ะ เนื่องจากทองคำเปลวไม่มีรสชาติจึงไม่ต้องกังวลว่ารสชาติของไอศครีมจะเพี้ยนไป ไอศครีมทองคำเปลวอันประณีตนี้ราคาเพียง 891 เยนเท่านั้น ห้ามพลาดนะคะ!

สรุป

เอาร้านน่าอร่อย ๆ มาให้เลือกมากมายขนาดนี้แล้ว อดใจไหวเหรอคะ!นอกจากซูชิเวียน อาหารทะเล โอเด้ง แกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่าและไอศครีมทองคำเปลวที่เราได้แนะนำไปด้านบนแล้ว ที่คานาซาว่ายังมีอีกหลากหลายเมนูที่รอให้คุณไปค้นหา ถ้ามีโอกาสแวะไปที่คานาซาว่าแล้ว อย่าลืมไปลองแวะชิมกันด้วยนะคะ

Related Articles Related Articles