| กองบรรณาธิการCentrip

จากสวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คสู่โลกแห่งนิทานของจิบลิ

สวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คเป็นสวนสาธารณะในเมืองนะกะเทะจังหวัดไอจิ สวนนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานไอจิคิวฮาคุนะกะงานในปี 2005 ซึ่งเป็นการจัดขึ้นภายใต้ความคิดของเรื่อง “รักโลก”

สวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 1.85 ตารางกิโลเมตร กล่าวกันว่าเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดไอจิเลยทีเดียว ภายในสวนมีรถรับส่งคอยให้บริการวนรอบสวนฟรีอีกด้วย เป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากมาย ทั้งทางด้านวัฒนธรรม กีฬาและการพักผ่อน เป็นสถานที่ที่สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัว

นอกจากมีเครื่องเล่นที่โดนใจเด็ก ๆ แล้วที่สวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คยังมีจุดเด่นอีกอย่างนึงนั่นคือ “บ้านของซะสึกิและเม”จากภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังอย่าง “โตโตโร่เพื่อนรัก”ที่อยู่ภายในสวน และเพื่อเป็นการดึงดูดแฟน ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ในปี 2022 ที่นี่จะกลายเป็น “จิบลิปาร์ค”

จิบลิปาร์คจะสร้างเสร็จในปี 2022!

ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2022สวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คทั้งสวนจะกลายเป็นจิบลิปาร์ค โดยมีกำหนดจะแบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน โดย 3 โซนที่จะเปิดก่อนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงคือ โซนเซย์ชุนโนะโอกะ (เนินแห่งวัยแรกแย้ม),โซนจิบลิโนะไดโซะโคะ (โกดังจิบลิ)และโซนดนโดะโคะโมริ(ป่าดนโดโคะ)และอีก 2 โซนที่จะตามมาในปี 2023 คือ โซนมะโจโนะทะนิ (หมู่บ้านแม่มด)และ โซนโมะโมะโนะเคะโนซะโตะ (หมู่บ้านโมะโมะโนะเกะ)

จิบลิปาร์คไม่เหมือนกับสวนสนุกอย่างดิสนีย์แลนด์ที่สร้างโดยสิ่งก่อสร้างทั้งหมด สวนจิบลิจะไม่มีการตัดต้นไม้และแทนที่จะใช้การทำลายต้นไม้ที่มีอยู่ก็เลือกใช้ส่วนที่ว่างในสวนสาธารณะและใช้วิธีการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่แล้วแทน ทำให้ที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสวนสนุกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แค่นี้ก็ดูน่าสนุกแล้วใช่มั้ยคะ งั้นก่อนอื่นเรามาดูการแปลนดีไซน์ของโซนต่าง ๆกันเลย

1.เซย์ชุนโนะโอกะ (เนินแห่งวัยแรกแย้ม)

ในส่วนของ “หอลิฟท์” จะสร้างโดยการนำไอเดียจากภาพยนตร์เรื่อง “ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์”ภาพยนตร์อนิเมะแนวไซไฟปลายศตวรรตที่ 19 มาเป็นแบบ รวมถึงประตูทางเข้าด้วย
นอกจากนี้ รอบ ๆหอลิฟท์ มีการสร้างทางลาดที่มีความต่ำสูงที่ต่างกันไป ชวนให้นึกถึง “ร้านขายของเก่าEarth Shop” จากเรื่อง “วันนั้น วันไหนหัวใจสีชมพู”

2.จิบลิโนะไดโซะโคะ (โกดังจิบลิ)

ที่นี่ใช้พื้นที่ของสระว่ายน้ำอุ่นที่หยุดให้บริการไปในปี 2018 ปรับปรุงเป็นสวนสนุกในร่มที่จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศ

ที่โกดังของจิบลิมีห้องแสดงผลงาน และห้องฉายผลงานภาพยนตร์ ที่วิ่งเล่นสำหรับเด็ก ๆ โกดัง ฯลฯ เรียกได้ว่ามีผลงานมากมายเกี่ยวกับจิบลิเก็บไว้มากมาย

3.ดนโดะโคะโมริ(ป่าดนโดโคะ)

เพื่อที่จะให้ทุกคนได้เห็นฉากจากใน “โตโตโร่เพื่อนรัก” อีกครั้ง บริเวณรอบ ๆ “บ้านของซะสึกิกับเม” จะถูกปรับปรุง รวมไปถึงป่าบริเวณหลังเขาอีกด้วย

4.หมู่บ้านโมะโนะโนะเกะ

บริเวณทุ่งนาที่มีชื่อว่า”ไอจิซะโตะระโบะ”จะถูกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในฉากหมู่บ้านโมะโนะโนะเกะของภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร” โดยมีการวางแพลนที่จะให้ “ทะทะริกะมิ” และ “โอคโคะโตะ” เป็นธีมหลักของบริเวณลานกว้างนี้

5.หมู่บ้านแม่มด

บริเวณที่ไม่ได้ถูกใช้ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทุ่งหญ้าลานกว้างจะถูกสร้างเป็นหมู่บ้านแม่มดในขณะเดียวกันจะมีการสร้างปราสาทของฮาวล์จากภาพยตร์อนิเมะเรื่อง “ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์”และ “ร้านรับส่งของแม่มด”ซึ่งเป็นบ้านของแม่มดน้อยกิกิอีกด้วย

ไปสวนสาธารณะแล้วไปชม “บ้านของซะสึกิกับเม” กัน!

“บ้านของซะสึกิกับเม”เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์คโดยมีแบบมาจากบ้านของครอบครัวคุสะคะเบะที่ปรากฎในภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่อง “โตโตโร่เพื่อนรัก”ที่นี่เป็นบ้านญี่ปุ่นสไตล์ยุคโชวะ 30ที่ผสมผสานทั้งความเป็นญี่ปุ่นและความเป็นยุโรปเข้าไว้ด้วยกัน สวยงามมากทีเดียวค่ะบ้านหลังเล็กที่ถอดแบบมาจากในอนิเมะแบบเป๊ะ ๆจนคุณอาจจะสงสัยว่าคุณอาจจะได้เจอกับซะสึกิผู้สดใสกับเมผู้มีความแจ่มใสร่างเริงโผล่มาให้เห็นหรือเปล่า ต่อไป ตามฉันเข้ามาในโลกแต่งนิยายกันนะคะ!

เวลาทำการของบ้านของซะสึกิกับเม10:00-16:30(เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ9:30-16:30)、สามารถเข้าชมได้รอบละ 30 นาที และสามารถเข้าชมได้สูงสุดที่ 50 คนเท่านั้น ตอนที่ซื้อตั๋วพนักงานจะให้บัตรเข้าสถานที่กับคุณ ตอนเข้าชมให้คุณห้อยบัตรที่คุณได้รับไว้ที่คอ ก่อนเวลาเข้าชม 15 นาทีต้องไปรวมตัวกันที่เต้นท์สีขาวและฟังข้อควรระวังต่าง ๆจากสต๊าฟ ข้อควรระวังข้อหนึ่งคือภายนอกบ้านสามารถถ่ายรูปได้อย่างอิสระแต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภายในบ้าน

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในสนาม คุณก็จะได้พบกับบ้านหลังเล็ก ๆ ลมที่พัดผ่านให้ความรู้สึกเหมือนกับว่านั่นคือซะสึกิและเมที่เต็มไปด้วยความซุกซนและความอยากรู้อยากเห็นวิ่งผ่านคุณไป เท่านี้การเดินทางอันแสนพิเศษของเริ่มขึ้นแล้วค่ะ

ทั้งสองสาววิ่งไปเจอคันโยกน้ำแบบโบราณที่อยู่ในสวนหลังบ้าน หากคุณลองกดคันโยกลงก็จะมีน้ำไหลออกมาจากตัวปั๊มด้วย และนอกจากนี้ยังมีถังน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ ที่เมไปพบเข้า ลองเอาถังน้ำนั้นมาสวมหัวเพื่อที่จะได้เห็นมุมมองโลกของเมกันนะคะ

และนี่ก็คือเจ้าภูตจิ๋วที่เมไปพบเข้า แม้จะไม่ได้เป็นตัวดำ ๆ แบบเจ้าฝุ่นในการ์ตูน แต่ลูกโอ๊คที่มีอยู่มากมายก็ทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้เหมือนกัน

จำระเบียงตรงนี้กันได้มั้ยคะ เป็นที่ ๆสองพี่น้องได้พบกับคุณยายเป็นครั้งแรกค่ะ

แล้วเราก็ยังได้เจอกับรถจักรยาน รองเท้าแตะที่วางอยู่นอกห้อง รวมไปถึงชามข้าวอีกด้วย

เนื่องจากในภาพยนตร์ตัวละครพ่อเป็นนักโบราณคดี จุดเด่นหลัก ๆจึงเป็นห้องหนังสือในบ้าน เป็นห้องหนังสือที่มีทั้งหนังสือภาษาอังกฤษ หนังสือพิมพ์ หนังสือภาพเกี่ยวกับหิน หมวกลูกโลกจำลอง ปฏิทินที่ถูกเขียนด้วยมือ ฯลฯ วางกระจัดกระจายอยู่ มีข้อควรระวังอยู่นิดหน่อยค่ะ นั่นคือเราไม่สามารถเข้าไปในห้องนี้ได้ สามารถถ่ายรูปได้จากข้างนอกเท่านั้น คุณพ่อต้องลำบากแน่ถ้าเราเผลอไปทำหนังสือของคุณพ่อกระจัดกระจาย

ยังจำสถานที่ที่เจอซะสึกิเจอกับโตโตโร่ครั้งแรกได้มั้ยคะ มันคือที่ป้ายรถเมล์นี้ค่ะ ความประทับใจของสถานที่นี่คือในภาพยนตร์ในคืนที่ฝนตกซะสึกิแบกเมไว้บนหลังกับโตโตโร่และยืนเรียงกันที่ป้ายรถเมล์นี้

ที่นี่เป็นสถานที่ที่ลูกโอ๊คของโตโตโร่ถูกปลูกเอาไว้และซะสึกิกับเมก็รอคอยการเติบโตของเมล็ดพันธุ์อยู่ทุก ๆ วัน คืนหนึ่งโตโตโร่ได้พาโตโตโร่ตัวเล็กและโตโตโร่ตัวจิ๋วมายังที่สวน อีกทั้งยังชวนสองพี่น้องออกมาเต้นรำไปรอบ ๆบริเวณนั้น จนเกิดสิ่งน่าอัศจรรย์ที่นั่น มีก้านไม้และลำต้นโผล่ออกมาจากใต้ดินจนกลายเป็นต้นไม้ยักษ์อันสูงตระหง่าน
มีคุณพ่อคุณแม่ที่ชวนลูก ๆ มาเต้นและเล่นเลียนแบบฉากในภาพยนตร์ด้วยล่ะค่ะ

ต่อไปเราลองมาเข้าไปในตัวบ้านกันนะคะ
แม้ภายในห้องจะไม่สามารถถ่ายรูปได้แต่การเก็บรายละเอียดแม้แต่ส่วนเล็ก ๆ ทำให้เราตกใจ มีรองเท้าบู๊ทสำหรับเด็กในตู้รองเท้า บนโต๊ะมีหนังสือพิมพ์เก่าวางอยู่ มีเสื้อโค้ทของพ่อในตู้และมีผ้าห่มอยู่ในช่องเก็บของ เมื่อลองดึงลิ้นชักออกมาจะพบกระโปรงสีชมพู เสื้อสีขาวผ้าเช็ดหน้าที่มีชื่อของซะสึกิและเมปัก และลูกอมรสชาเขียววางอยู่ในลิ้นชักบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซ่อนอยู่หลังประตู แต่ที่นี่ไม่อนุญาตเราขึ้นไปยังชั้น 2 ได้ สงสัยจะกลัวพวกเราไปกวนเจ้าก้อนฝุ่นที่อาศัยอยู่บนบ้านแน่ ๆ เลย

ข้างในสุดของบ้านมีอ่างอาบน้ำที่นี่มีเตาเหล็กขนาดใหญ่และเล็กอยู่ 2 เตามีไว้เพื่อต้มน้ำในอ่างข้าง ๆห้องน้ำมีห้องครัวที่ไม่มีพื้นและเนื่องจากไม่มีน้ำประปา เวลาจะใช้น้ำต้องทำการปั๊มน้ำด้วยมือเอา บนตู้เก็บของมีน้ำมันงา โชยุ ฯลฯ แบบสมัยโชวะ วางเรียงอยู่ สัมผัสได้ถึงยุคสมัยเลยล่ะค่ะ
30 นาทีผ่านไปไวมาก ๆ เลยล่ะค่ะ รู้สึกเหมือนเวลาไม่พอเลยจริง ๆ

อยากมาชมบ้านของซะสึกิกับเมไว ๆ มั้ยคะ?ถ้างั้นก็รีบซื้อตั๋วกันเลยค่ะ ตั๋วจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ ตั๋ววันจริงกับตั๋วจองในกรณีที่คุณกังวลว่าจะไม่สามารถซื้อตั๋วในวันจริงล่ะก็ คุณสามารถทำการจองตั๋วล่วงหน้าได้ข้อควรระวังคือสามารถจองได้ล่วงหน้า 2 วันก่อนเข้าชม

แต่เนื่องจากการจองตั๋วทางอินเตอร์เน็ตต้องกรอกเบอร์โทรศัพท์กับที่อยู่ และต้องไปรับตั๋วที่ร้านสะดวกซื้อจึงถือเป็นเรื่องยากสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีทางเลือกในการซื้ออยู่อีก 2 ทางนั้นคือ ไปที่สวนสาธารณะเพื่อไปจองตั๋วในตอนเช้ากับกำหนดรอบการเข้าชมของวันที่ไป ฉันเองก็ไปซื้อตั๋วในตอน 9 โมงเช้าของวันเสาร์แต่ขอบอกเลยว่ายังเหลือตั๋วอีกเพียบค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆในสวน

1.หออนุสรณ์ไอจิคิวฮาคุ

หออนุสรณ์ไอจิคิวฮาคุเปิดในปี 2005เพื่อเป็นที่ระลึกของงานWorld Expoที่ถูกจัดขึ้นที่ไอจิ สามารถเข้าชมได้ฟรี ที่นี่คุณจะสามารถสัมผัสกับธีมงานเอ็กซ์โป “ภูมิปัญญาทางธรรมชาติ” ได้โดยตรง

ในห้องโถงนิทรรศการมีการแสดงผลงานจากผู้เข้าร่วมหลากหลายประเทศเป็นผลงานที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความกลัวของมนุษย์ที่มีต่อธรรมชาติ พรจากธรรมชาติมนุษย์ที่ได้รับและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์

หุ่นยนต์จากงานเอ็กซ์โปก็ถูกจัดแสดงไว้เช่นเดียวกัน

ด้านนอกมีมาสคอตของงานเอ็กซ์โปชื่อ “คิกโคะโระ”อีกด้วย

2.สวนญี่ปุ่น・สวนป่า

เมฆและหมอกในสวยญี่ปุ่นนั้นเปรียบเสมือนกับเขตแดน ในนั้นมีหินที่ตั้งเรียงรายและมีสะพานเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกัน ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ด้านในสวนมีห้องชงชาชื่อว่า “คะนะเระเท” เพียง 500 เยน คุณก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การชงชาญี่ปุ่น

ในส่วนของสวนป่า มีต้นไม้สูงที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นอุโมงค์เขียวชอุ่ม หากมาในฤดูใบไม้ผลิ คุณก็จะได้พบกับดอกไม้กว่า 100 สายพันธุ์บานสะพรั่ง

3.ลานดอกไม้

ถ้าเหนื่อยจากการเดินแล้วลองมาพักที่ลานดอกไม้ดูสิคะ รั้วดอกไม้ด้านนอกเหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆเลยล่ะค่ะ

ที่ชั้น 2 มีร้านอาหาร ก็มาแวะรับประทานอาหารที่นี่ให้อิ่มไปเลยค่ะ ของหวานก็โอเคอยู่นะคะ

4.เครื่องเล่นสำหรับเด็ก

ที่นี่คือศูนย์เด็กเล็กประจำจังหวัดไอจิ ที่นี่เด็ก ๆ จะได้เล่นเกมที่เป็นการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ทั้งในด้านสายตา การสัมผัส การได้ยิน รวมไปถึงควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย และพัฒนาทักษะทางด้านความคิดอีกด้วย
ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเข้าฟรี、ผู้ใหญ่ 300 เยน ผู้ปกครองก็สามารถสนุกไปกับเด็ก ๆ ได้

อุปกรณ์ที่เป็นธรรมชาติและเครื่องเล่นที่ใช้ประโยชน์จากสภาพภูมิประเทศ ทำให้แม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็สามารถเดินขึ้นลงบันไดและโถงได้ รวมไปถึงสามารถเล่นน้ำได้ด้วย

ชิงช้าสวรรค์สูง 88 เมตร วิวที่มองเห็นจากด้านบนนั้นสวยงามมาก ค่าบริการอยู่ที่ 600 เยนต่อคน (ผู้มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป) สามารถพาสัตว์เลี้ยงขึ้นไปได้

ซื้อสินค้าของจิบลิกัน

ถ้าอยากซื้อของฝากกลับไปล่ะก็ ซื้อสินค้าจาก “โตโตโร่ เพื่อนรัก” ได้ที่หน้าบ้านของซะสึกิและเม

แต่ถ้ายังไม่หนำใจล่ะก็ลองแวะไปร้านป่าดงกุริที่ซากาเอะดูนะคะ เพราะไม่ใช่แค่จะรวมสินค้าของจิบลิไว้อย่างเดียวเท่านั้น แค่ยังมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีของให้เลือกมากมาย แถมอะไรที่เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่นี่ก็มีเพียบเลยล่ะค่ะ ซื้อกลับบ้านไปซักชิ้นนะคะ

สรุป

ผู้กำกับมิยาซากิ ฮายาโอะได้กล่าวไว้ว่า การสร้างอนิเมชั่นจะช่วยปลอบประโลมจิตวิญญานของคุณขณะต่อสู้กับความจริงของโลกอันแสนโหดร้าย
และโลกนี้กำลังจะถูกสร้างขึ้นที่สวนไอจิคิวฮาคุเมมโมเรี่ยลปาร์ค อย่าลืมหัวใจความเป็นเด็กของคุณ มาที่นี่กันด้วยนะคะ

Related Articles Related Articles