| กองบรรณาธิการCentrip
แน่ใจนะว่าชาติเดียวกัน!มาดูจุดเด่นที่น่าสนใจของชาวไอจิ (นาโกย่า)กัน!
ญี่ปุ่นประเทศที่ยาวจากทิศเหนือไปทิศใต้และมีภูเขามากมาย ด้วยความที่สภาพทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศแตกต่างกันไปในแต่ละที่เป็นอย่างมาก ทำให้เกิดประเพณีและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงมีหลายครั้งที่คนญี่ปุ่นพบว่าวัฒนธรรมในบ้านเกิดของตัวเองไม่มีในเมืองอื่นๆ
ในครั้งนี้เราได้เลือก จังหวัดไอจิ(เมืองนาโกย่า) ภูมิภาคชูบุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านวัฒนธรรมมาแนะนำให้กับทุกคน เรียกได้ว่าเป็นบทความที่คนจังหวัดไอจิแล้วต้องเผลอพยักหน้าพร้อมกับคิดว่า “ใช่เลย” บอกเลยว่าอ่านแล้วจะรู้สึก “อยากลองไปจังหวัดไอจิ(นาโกย่า)ดูสักครั้ง”
Table of Contents
- ดอกไม้อวยพรวันเปิดร้านที่วางอยู่หน้าร้าน จะเอากลับไปก็ได้จริงหรอ⁉
- คน 3 ชั่วอายุอาศัยอยู่ในจังหวัดไอจิแบบถาวร♡เปอร์เซ็น จังหวัดบ้านเกิดสูงเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นมากถึง71.2%
- “นาโกย่าโทบาชิ” อะไรที่เขาฮิตกันมักมาถึงเป็นที่สุดท้ายจริงหรอ
- เมืองแห่งการกิน “ปีกไก่” ให้สวยงาม (อาหารดังประจำนาโกย่า)
- สถานที่นัดในสถานีนาโกย่า「ทอง?เงิน?นานะจัง?」
ดอกไม้อวยพรวันเปิดร้านที่วางอยู่หน้าร้าน จะเอากลับไปก็ได้จริงหรอ⁉
ในประเทศญี่ปุ่นนั้นในวันของการเปิดร้านใหม่ จะมีการวางดอกไม้ประดับอันสวยงามเพื่อเป็นการอวยพร ซึ่งมักจะตั้งเรียงรายอยู่บริเวณหน้าร้าน ที่จังหวัดไอจิ บางครั้งก็ได้เห็นผู้คนที่่นำดอกไม้เฉลิมฉลองการเปิดร้านกลับบ้านกันอย่างอิสระเสรี แต่คุณจะไม่เห็นภาพเหล่านี้ในโตเกียว โอซาก้า หรือในพื้นที่อื่นๆ แต่ที่ไอจิคุณสามารถนำดอกไม้เฉลิมฉลองจากร้านกลับไปได้ เป็นเพราะว่ามีความเชื่อที่ว่า “ยิ่งดอกไม้หมดเร็วเท่าไหร่ร้านก็จะยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นเท่านั้น”และหากมีร้านไหนที่ดอกไม้ยังเหลือมาก คนที่นี่ก็จะคิดว่า “เอากลับบ้านไปซะหน่อย” จังหวัดไอจิถือเป็นแหล่งผลิตดอกไม้ในการเฉลิมฉลองอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ได้ยินอย่างนี้แล้วก็เดาว่าคนชอบดอกไม้อาจจะมีเยอะก็ได้นะคะ
(※มีบางร้านที่ไม่อนุญาตให้นำดอกไม้กลับ หากไม่แน่ใจกรุณาชมอย่างเดียวแต่ไม่ต้องเอากลับบ้านน่าจะดีที่สุดค่ะ)
คน 3 ชั่วอายุอาศัยอยู่ในจังหวัดไอจิแบบถาวร♡เปอร์เซ็น จังหวัดบ้านเกิดสูงเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นมากถึง71.2%
เมื่อเรียนจบมัธยมปลายแล้ว คนญี่ปุ่นหลายๆคนก็ตัดสินใจที่จะต่อเข้ามหาวิทยาลัยที่ห่างจากบ้านเกิดเช่นโตเกียวหรือพื้นที่อื่น แต่สำหรับที่จังหวัดไอจิแล้ว คนที่เกิดและโตในที่นี่จำนวนมากเลือกที่จะต่อมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงมากถึง 71.2%!(ข้อมูลตั้งแต่ปีพ. ศ. 2561 มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยในจังหวัด) ซึ่งหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ ชาวไอจิมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอย่างมาก ที่จังหวัดไอจิ ครัวเรือนที่มีคนสามช่วงอายุอาศัยอยู่ด้วยกันนั้นมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น (จากสถิติการสำรวจพื้นฐานการใช้ชีวิตของพลเมืองประจำปี 2559) ชาวจังหวัดนี้รักครอบครัว มักจะหาเวลาออกไปทานข้าวกันแบบพร้อมหน้าหรือไม่ก็ซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆพ่อแม่ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ชาวจังหวัดไอจิไม่ค่อยออกไปตั้งถิ่นฐานในที่ไกลนัก
“นาโกย่าโทบาชิ” อะไรที่เขาฮิตกันมักมาถึงเป็นที่สุดท้ายจริงหรอ
“นาโกย่าโทบาชิ” เป็นคำที่ชาวจังหวัดไอจิใช้ในการพูดแบบติดตลก แม้ว่าจังหวัดไอจิจะถูกเรียกเป็น 1 ใน 3 เมืองใหญ่ของญี่ปุ่น แต่กลับมีหลายครั้งที่โดนล้อว่าทัวร์คอนเสิร์ตไม่มานาโกย่า ร้านดังๆก็ไม่มาตั้งที่จังหวัดนี้ ว่ากันว่าเรื่องฮิตๆทั้งหลายที่เริ่มต้นที่โตเกียว จะถูกส่งต่อไปยังโอซาก้า โดยผ่านเลยจังหวัดไอจิไป ลงไปยังฟุกุโอกะ ฯลฯ คิวชู ย้อนขึ้นกลับไปทางโทโฮคุ แล้วไปไหนอีกหลายๆที่ก่อนที่จะมาถึงนาโกย่า สงสัยใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ มีทฤษฎีที่ว่าชาวจังหวัดไอจิมีจิตใจที่มั่นคงและค่อนข้างยากกับการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แต่ในอีกที่หนึ่งก็บอกว่า โตเกียวกับโอซาก้าห่างกันเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งหากนั่งชิงกันเซน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไปได้สะดวกมากกว่า
เมืองแห่งการกิน “ปีกไก่” ให้สวยงาม (อาหารดังประจำนาโกย่า)
ปีกไก่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศรสสไปซี่และซอสหวานอมเผ็ด หรือเป็นอาหารดังประจำนาโกย่าที่กินแล้วจะหยุดไม่ได้ ในสมัยก่อน ปีกไก่ถูกใช้เป็นแค่ส่วนประกอบในการทำซุปเท่านั้น แต่เมื่อลองเอามาทาซอสแล้วย่าง ขายในราคาถูกแถมยังมีรสชาติที่อร่อย ทำให้เมนูนี้เป็นที่นิยมขึ้นมา และเมนู”ปีกไก่”ที่มีเรื่องราวเหมือนซินเดอเรล่าที่ว่านั้นก็กลายเป็นเมนูหลักประจำร้านกินดื่มในจังหวัดไอจิ รสชาติอร่อยมากแต่ด้วยความที่เป็นปีกไก่ทาซอสทำให้ไม่ว่าทานยังไงบริเวณรอบปากก็จะเลอะอยู่ดี คุณรู้หรือไม่ว่าคนจำนวนมากในจังหวัดไอจิได้เรียนรู้เทคนิคการกินปีกไก่ที่ง่ายแถมยังไม่เลอะอีกด้วย
หักปีกไก่ออกเป็น 2 ท่อน โดยใช้นิ้วมือกดลงไปบริเวณข้อต่อ จากนั้นนำปีกไก่เข้าปากและใช้ฟันกับส่วนที่เป็นเนื้อออกมาจัดกระดูก เพียงชั่วพริบตาปีกไก่ก็จะเหลือเพียงกระดูกผอม ๆ เป็นวิธีการกินที่วัยและสะอาดจนคนพื้นที่อื่นเห็นยังต้องตกใจและร้องว่า “สุโก้ย(สุดยอด)”
สถานที่นัดในสถานีนาโกย่า「ทอง?เงิน?นานะจัง?」
หากคนที่ไม่ใช่ชาวจังหวัดไอจิได้ยินว่า “ทอง?เงิน?นานะจัง?”ก็คงจะแอบงงว่า “เขาพูดเรื่องอะไรกันอยู่นะ” จริงๆแล้วนั่นคือการถามถึงสถานที่พี่จะนัดพบในสถานีนาโกย่า
ทอง,เงิน,นานะจัง ที่ว่านั้นจริงๆแล้วถือเป็นจุดนัดพบหลักในสถานีนาโกย่า “ทอง” คือหอนาฬิกาสีทองบริเวณทางเข้าออกตรงวงเวียนที่อยู่ใกล้กับ Jr นาโกย่าทาคาชิมายะ ส่วน “เงิน” คือหอนาฬิกาสีเงินที่อยู่บริเวณหน้าช่องซื้อตั๋วของรถไฟชินคันเซ็น และ” นานะจัง” คือหุ่นผู้หญิงสูงประมาณ 6 เมตรที่ตั้งอยู่หน้าบริเวณตึก ห้างเมเทะทสึ ขอเพิ่มเติมว่า นานะจังเปรียบเสมือนกับหุ่นฮาจิโกะ ของชิบูย่าโตเกียว ถือเป็นสัญลักษณ์ที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยดี ว่ากันว่าหักเดินลอดใต้กระโปรงจะโชคดีแต่หากคู่รักใดเดินลอดใต้กระโปรงของเธอ จะต้องจบลงด้วยการเลิกกันด้วยล่ะค่ะ
สรุป
จังหวัดไอจิคือเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมเป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่เพียงแต่มีเมืองเศรษฐกิจ “นาโกย่า” เท่านั้น แต่ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของจังหวัดไอจิ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตในเมืองแบบมีสไตล์และการใช้ชีวิตอย่างสงบกับธรรมชาติ นอกจากนี้นาโกย่า ยังถูกกล่าวขานว่าเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็น ปาจิงโกะ,คาเฟ่มังงะ,ศูนย์ออนเซ็นครบวงจร (มีหลายทฤษฎี) จังหวัดไอจิเป็นจังหวัดที่เป็นมิตร ยิ่งรู้จักมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งได้เจออะไรใหม่ๆมากขึ้นเท่านั้น
Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information