| Dan Lewis
ออกไปปั่นจักรยานในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยที่ชินชิโระกันเถอะ มาเปิดประสบการณ์ใหม่และพักผ่อนในชินชิโระ พื้นที่ออนเซนยูยะที่สวยงามกันเถอะ
โคโรน่าไวรัสได้บังคับให้เราเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวัน เราต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออกไปที่ชุมชน เราต้องล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังมีพลาสติกกั้นทุก ๆ ที่ที่เราไป สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณเครียดและกังวลได้!
ตุ๊กตาบาร์บี้อาจคิดว่าชีวิตแบบพลาสติกเป็นเรื่องสุดวิเศษแต่ตอนนี้ฉันแอบเหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้วล่ะ ตั้งแต่การระบาดของไวรัส ฉันรู้สึกเหมือนเห็นสิ่งเหล่านี้ในทุก ๆ ที่ เป็นการแบ่งแยกเราออกจากคนอื่น ๆ เป็นความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติและไม่ค่อยเป็นกันเองสักเท่าไหร่ ฉันคิดว่าชาวต่างชาติที่อยู่ในไอจิ (และส่วนอื่นของญี่ปุ่น) ก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน
ฉันคิดว่าฉันโชคดีมาก ๆ ที่ไม่ได้ติดไวรัส (เอานิ้วไขว้ ขอให้ไม่เป็นด้วยเถอะนะ) และฉันพยายามทำทุกอย่างตามสมควร ความเหนื่อยก็คือ เราจะต้องพยายามป้องกันตัวเองจากสิ่งที่อาจจะไม่ได้มีอยู่ตรงนั้นจริง ๆ และถ้ามี คุณก็มองไม่เห็นมัน! ฉันเช้าใจความจำเป็นในการป้องกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก หน้ากากอนามัย การใช้แอลกอฮอล์ แต่มันมากกว่านั้น เมื่อมีความร้อนในฤดูร้อนของไอจิ คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายและคุณไม่มีทางหนีจากมันไปได้ง่าย ๆ !
ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนเคน แฟนของบาร์บี้และต้อง "ปาร์ตี้" ตลอดเวลาเพื่อความผ่อนคลายแต่ ฉันพร้อมที่จะพักจากวงจรชีวิตปกติของฉัน แล้วเราจะทำยังไงเพื่อให้เกิดระยะห่างทางสังคม และเมื่อไอจิประกาศขอให้เราไม่เดินทางออกนอกจังหวัด ฉันจึงเดินทางไปชินชิโระในจังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาระหว่างโทโยฮาชิ จังหวัดไอจิและฮามามัตสึ จังหวัดชิซุโอกะ
ฉันพบทางอินเตอร์เน็ตว่าเมืองชินชิโระมีระบบการเช่าจักรยานและมีการจัดทำ "เส้นทางแนะนำ" สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อใช้เดินทางรอบพื้นที่ออนเซนยูยะ มันฟังดูดีมาก ๆ และทำให้ฉันตัดสินใจจะไปเที่ยวที่นี่
คุณสามารถเดินทางไปออนเซนยูยะด้วยรถไฟ แต่ฉันรู้สึกอยากขับรถไปมากกว่า และอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าถ้าอยากรักษาระยะห่างทางสังคม และหากคุณไปด้วยทางพิเศษ ก็อาจใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากนาโกย่า (เร็วกว่าเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 30 นาที)
เมื่อเปิดแอร์เย็นที่สุด เปิดเพลงโปรด ฉันก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าโคโรน่าไวรัสและ "ชีวิตพลาสติก" เริ่มไกลออกไป การออกเดินทางบนทางพิเศษในวันแดดออกเป็นอะไรที่ดีมากจริง ๆ แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกเหมือนเคนตอนที่ลงจากทางพิเศษด้วยดนตรีเพลงโปรดของฉัน
เมื่อลงจากทางพิเศษแล้ว ขับต่ออีกประมาณ 20 นาทีไปทางถนนหลวง 151ไปออนเซนยูยะ ระหว่างทางคุณจะได้เห็นภูเขาสีเขียวและแม่น้ำยูเระ โคโรน่าไวรัสจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันนึกถึง
หลังจากที่ได้ข้ามแม่น้ำมาหลายต่อหลายครั้ง ก็ผ่านที่จอดรถใหญ่และถนนก็แคบลงอย่างเห็นได้ชัดและเราก็ได้เข้าส่วนหมู่บ้านที่มีชื่อว่า "ยูยะออนเซน" JR Lida Line ก็วิ่งตามแม่น้ำอูเระและข้ามถนนฝั่งถนนทางใต้ของสถานียูยะออนเซน และเมื่อฉันมาถึงก็มียามได้กั้นไว้เพื่อใช้รถไฟขบวนเล็ก ๆ ผ่านไปก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วฉันก็ปั่นต่อไปอีก 400 เมตรจนมาถึงที่จอดรถของโรงแรมยูยะคังโค
มีที่จอดรถเยอะแยะมากมายแต่อย่าลืมถามเจ้าหน้าที่ก่อนว่าจะให้จอดตรงไหน ถ้าไม่มีที่จอดรถของโรงแรมว่าง คุณจะลงมาจอดริมถนนห่างออกไป 200 เมตรก็ได้ และยังฟรีอีกด้วย
ภายในโรงแรม มีเจ้าหน้าที่สุดน่ารักเข้ามาทักทานและช่วยเหลือในการจัดการกับจักรยาน ชายสูงอายุได้สนทนากับฉันเป็นภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ เพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ ในโรงแรม แต่เขาก็เปลี่ยนเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าฉันพูดได้
ถ้าคุณอยากเช่าจักรยาน ก็เพียงแค่กรอกฟอร์มง่าย ๆ พร้อมเงิน 500 เยน และเอาจักรยานไปได้เลย!
จักรยานกึ่งไฟฟ้าเป็นอะไรที่ปั่นง่ายมาก เมื่อคุณเริ่มปั่น จักรยานก็จะออกตัวไปอย่างง่ายดาย และคุณจะได้ชมบรรยากาศสุดสวยงามรอบ ๆ ตัวได้ จักรยานเหล่านี้ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อความเร็ว และอาจไปได้เร็วที่สุดเพียง 20 กม./ชม. แต่ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางรอบเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ และอย่าลืมเปิดเครื่องก่อนปั่นกันล่ะ
การปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ค่อนข้างสนุก วิวแม่น้ำสวย มีเกสต์เฮาส์ที่สะดุดตาอยู่ คือ ฮูฮูเกสต์เฮาส์ ซึ่งมีจุดแช่เท้าและเปลญวนที่ดูผ่อนคลายมาก ๆ ฉันต้องอยากพักที่นี่อย่างแน่นอนถ้ามาถึงตอนกลางคืน
เมื่อผ่านสถานี JR ยูยะออนเซน ฉันก็ตกหลุมรักสถานีเล็ก ๆ ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เหล่านี้ คุณเดินเข้าออกได้เลย (แต่อย่าลืมซื้อตั๋วนะ) เมื่อได้เห็นชานชาลาเล็ก ๆ กับทางรถไฟรางเดียว ฉันกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างไร้เหตุผล
ที่แห่งนี้มีแผนที่ใหญ่ ๆ หลายอันที่แสดงพื้นที่ต่าง ๆ ไว้ ถ้ามาด้วยรถไฟก็แค่ถ่ายรูปไว้และคุณก็พร้อมที่จะไปกันแล้วล่ะ
ถนนถัดจากแม่น้ำ จะเป็นวิวของก้อนหิน และใกล้ๆ กับที่จอดรถก็มีวิวที่สวยงามของสายน้ำที่ไหลผ่านก้อนหินด้วยเสียงที่ไพเราะ
แผนที่ที่หยิบมาจากร้านเช่าจักรยานแสดงให้เห็นเส้นทางลงไปทางแม่น้ำซึ่งเป็นที่ที่จะผ่อนคลายได้ ซึ่งอยู่ทางใต้ของทางรถไฟและมีร้านอาหารอยู่ด้านหลัง ร้านแห่งนี้มีกลิ่นอายความเก่าแก่อยู่