| กองบรรณาธิการCentrip

ปราสาทมัตสึโมโต้ในฤดูซากุระ: เผยสถานที่ลับที่สามารถชมภูเขาที่มีทั้งดอกซากุระและหิมะ

มีปราสาทมากมายในญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วมีปราสาทเพียง 12 แห่งเท่านั้นที่มีการสร้างหอคอยปราสาทซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปราสาท และในปราสาททั้งหมดนี้มีปราสาทเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่มีหอคอยปราสาทห้าชั้น ได้แก่ ปราสาทมัตสึโมโตะและปราสาทฮิเมจิ ปราสาทมัตสึโมโตะตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุหรือตอนกลางของญี่ปุ่น ด้วยสีดำและขาวของผนังที่ดูตัดกันอย่างเป็นเอกลักษณ์ทำให้ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ผลิถือเป็นฤดูที่ดีที่สุดในการมาเยี่ยมชมปราสาทมัตสึโมโตะ ในช่วงนี้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพเงาที่สวยงามของปราสาทมัตสึโมโตะพร้อมกับดอกซากุระที่ถูกปลูกไว้รอบตัวปราสาทพร้อมกับฉากหลังของภูเขาที่หิมะยังคงหลงเหลืออยู่ เป็นภูเขาที่ได้รับฉายาว่า "เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ" ในบทความนี้เราจะมาแนะนำจุดชมซากุระที่เป็นที่แนะนำในเมืองมัตสึโมโตะซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ปราสาทมัตสึโมโตะให้ทุกคนได้รู้จักกัน

ถึงแม้ว่าตอนที่ฉันเขียนบทความนี้ ดอกซากุระจะร่วงไปแล้ว แต่อยากให้ทุกคนใช้ข้อมูลจากบทความนี้สำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่นและมัตสึโมโตะในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโควิด 19 จะจบลงก่อนฤดูซากุระปีหน้า เพื่อที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะได้กลับมาเยี่ยมชมมัตสึโมโตะได้อีกครั้ง

1. ปราสาทมัตสึโมโตะ

สำหรับจุดเริ่มต้นทริปชมซากุระที่มัตสึโมโตะนั้น ฉันอยากไปที่ปราสาทมัตสึโมโตะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึโมโตะก่อน
ก่อนจะเข้าไปชมหอคอยปราสาท ขอแนะนำให้ลองมาเดินเล่นรอบ ๆ คูน้ำที่ล้อมรอบหอคอยปราสาท ถ้าได้ชมเงาของหอคอยปราสาทอันแสนสวยงามที่สะท้อนลงมาบนผิวน้ำในคูเมืองที่ตัดกับวิวของภูเขาที่ยังมีหิมะหลงเหลืออยู่ที่อยู่ไกลออกไปแล้ว รับรองว่าคุณจะรู้สึกตื่นเต้นกับที่นี่ขึ้นแน่นอน

รอบ ๆ ปราสาทมีดอกซากุระปลูกอยู่ทั่วบริเวณ เนื่องจากการบานของดอกซากุระจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่มาเยี่ยมชม ดังนั้นอย่าลืมมาเดินเล่นพร้อมกับหาจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่คุณสามารถถ่ายภาพดอกซากุระพร้อม ๆ กับรูปหอคอยปราสาทได้กันเถอะ

หากคุณโชคดีคุณสามารถพบกับซามูไรนินจาและเจ้าหญิงจาก "คณะต้อนรับประจำสมบัติของชาติปราสาทมัตสึโมโตะ" ในวันนั้นฉันได้พบกับ "นาโอะมะสะ มัตสึไดระ" ที่เกิดในปี ค.ศ. 1601 เป็นหลานชายของโทะคุกาวะ อิเอะยะสึ และเป็นเจ้าของปราสาทมัตสึโมโตะรุ่นที่ 7 แม้เขาจะเป็นซามูไรผู้กล้าหาญที่เคยต่อสู้กับขุนพลชื่อดังอย่าง "ซานาดะ ยูคิมูระ" แต่เขาก็เป็นมิตรกับผู้คนเป็นอย่างมาก ดังนั้นอย่าลังเลที่จะขอภาพที่ระลึกกับเขาด้วยนะ

หลังจากสำรวจปราสาทแล้ว ลองไปที่ศาลาว่าการมัตสึโมโตะ ศาลากลางมัตสึโมโตะตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของปราสาทมัตสึโมโตะ แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักแต่จริง ๆ แล้วที่นี่ก็มีหอชมวิวบนดาดฟ้าของอาคารรัฐบาลซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ฟรีด้วย
หอชมวิวนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งที่คุณสามารถมองลงไปเห็นหอคอยปราสาทของปราสาทมัตสึโมโตะจากด้านบนแม้ว่าจะมีตึกสูงอยู่รอบ ๆ ก็ตามได้ มาชมปราสาทมัตสึโมโตะแบบพาโนรามาพร้อมกับทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นจากที่นั่งพิเศษกันเถอะ

2.สุสานเก่าโคโบยามะ

ห่างจากปราสาทมัตสึโมโตะไปทางทิศใต้ประมาณ 3 กม. มีเนินเขาเล็ก ๆ ที่จะถูกย้อมไปด้วยสีชมพูในช่วงซากุระบาน เนินเขานี้เป็นสุสานโบราณที่มีชื่อว่า “สุสานเก่าโคโบยามะ” ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ถึงกลางศตวรรษที่ 4 ซึ่งยาวนานก่อนยุคซามูไร。

สุสานเก่า โคโบยามะเป็นสถานที่สำคัญในด้านโบราณสถาน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับดอกซากุระที่เป็นที่ภาคภูมิใจของมัตสึโมโตะ สุสานตั้งอยู่บนยอดเขาโคโบที่ระดับความสูง 650 เมตรและที่ลานกว้างด้านบนสุดของสุสานก็ปกคลุมด้วยดอกซากุระเป็นจำนวนมาก

อุโมงค์ซากุระก็สวยงามและน่าประทับใจไม่แพ้ภูเขาของเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่อยู่ตรงข้ามลานกว้างสีชมพู

3. สวนสาธารณะแอลป์

ต่อไปเราจะมาแนะนำสวนสาธารณะแอลป์
สวนสาธารณะแอลป์เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมืองมัตสึโมโตะ อยู่บริเวณรอบ ๆ "พิพิธภัณฑ์ภูเขาและธรรมชาติ" ที่มีเอกลักษณ์เป็นสนามหญ้าสีเขียวและต้นซากุระโซเมะอิโยชิโนะประมาณ 500 ต้นที่ถูกปลูกอยู่ทั่วบริเวณ

เวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระของที่นี่นั้นจะช้ากว่าในใจกลางเมืองเล็กน้อยอาจเป็นเพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ที่นี่มีสวนสัตว์ขนาดเล็กและสไลเดอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "แอลป์ ครีม คอสเตอร์" ทำให้มีหลายครอบครัวที่พาลูก ๆ มาเที่ยวด้วย คุณสามารถชมซากุระพร้อมกับใช้เวลาสบาย ๆ ได้ทั้งวัน
จริง ๆ แล้วที่นี่อยู่ห่างจากปราสาทมัตสึโมโตะไปทางเหนือประมาณ 3 กิโลเมตรซึ่งไม่ไกลเกินไปสำหรับการเดิน แต่ทางลาดชันอาจจะทำให้หมดแรงได้จึงอยากแนะนำให้ขับรถมามากกว่า รถประจำทางก็มีให้บริการแม้ว่าจะมีจำนวนน้อยก็ตาม

4. สวนสาธารณะโจยามะ

สวนสาธารณะโจยามะตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองมัตสึโมโตะเล็กน้อย ซึ่งนอกจากสวนสาธารณะแอลป์แล้ว สวนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองมัตสึโมโตะอีกด้วย
เช่นเดียวกับสวนสาธารณะแอลป์ ที่นี่เองก็มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองมัตสึโมโตะและภูเขาทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ได้เช่นกัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามพร้อมกับชมต้นซากุระในสวนได้ในเวลาเดียวกัน มัตสึโมโตะมีประวัติอันยาวนานในเรื่องของการเป็นจุดชมซากุระ ว่ากันว่าในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ขุนนางในเวลานั้นได้เริ่มปลูกดอกซากุระและเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาชมดอกซากุระได้

5. วัดอันโย

สถานที่ที่เราจะแนะนำต่อไปก็คือ “วัดอันโย” วัดพุทธเก่าแก่ในเขตมัตสึโมโตะ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากตัวเมืองเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้มาชมซากุระหลาย ๆ ท่านในช่วงซากุระบาน

ในบริเวณวัดมีต้นซากุระเก่าแก่ขนาดยักษ์ 2 ต้น ที่ว่ากันว่ามีอายุถึง 500 ปี ที่มีความใหญ่โต อลังการและดึงดูดสายตา หอระฆังที่ปกคลุมไปด้วยดอกซากุระและดอกซากุระที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำของบ่อเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนและควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก

6. ปราสาทมัตสึโมโตะ : ไฟประดับช่วงค่ำคืน

หลังจากใช้เวลาทั้งวันในการชมดอกซากุระในเมืองมัตสึโมโตะแล้วเราก็กลับมาที่ปราสาทมัตสึโมโตะอีกครั้งหลังพระอาทิตย์ตกดิน แม้ว่าตารางเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปีแต่ปราสาทมัตสึโมโตะจะมีการประดับไฟในตอนกลางคืนของทุกปีในช่วงฤดูซากุระบาน

สีที่ตัดกันระหว่างท้องฟ้าสีครามและดอกซากุระสีชมพูที่เห็นในตอนกลางวันนั้นก็ว่าสวยงามมากแล้ว แต่ดอกซากุระที่ประดับไฟในตอนกลางคืนก็จะแสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากซากุระในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะเงาของดอกซากุระที่สะท้อนอยู่ในคูเมืองนั้นน่าประทับใจเป็นอย่างมาก。

มัตสึโมโตะมักจะมีอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูดอกซากุระโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพระอาทิตย์ตกดินดังนั้นอย่าลืมป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็นเพื่อที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินชมดอกซากุระในยามค่ำคืนได้เต็มที่

7. อาหารกลางวันที่แนะนำสำหรับการมาเที่ยวในมัตสึโมโตะ: ซันโซะคุยะกิ

ถ้าพูดถึงตัวแทนอาหารกลางวันในมัตสึโมโตะแล้ว ก็จะนึกถึง "โซบะ" ที่เป็นอาหารมาตรฐานที่มีชื่อเสียงชองจังหวัดนากาโนะ แต่ในวันนี้ฉันลองทาน "ซันโซะคุยะกิ” ที่ร้านใกล้ ๆ ปราสาทมัตสึโมโตะดู

ซันโซะคุยะกิเป็นไก่ที่ยังไม่ได้หั่นที่หมักในซอสขิงและกระเทียมแล้วนำลงทอด เป็นอาหารพื้นเมืองยอดนิยมในแถบนี้ มีร้านค้ามากมายในมัตสึโมโตะที่เสิร์ฟซันโซะคุยะกิ โดยแต่ละร้านมีเมนูหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง เช่น "แกงกะหรี่ซันโซะคุยะกิ" , “แฮมเบอร์เกอร์ซันโซะคุยะกิ” ฯลฯ ขอบอกเลยว่าปริมาณเยอะมาก จึงเหมาะสำหรับการทานเพื่อเพิ่มพลังงานหลังจากเดินชมดอกซากุระมาแล้วหนึ่งวันเต็ม

สรุป

จากนาโกย่าคุณสามารถไปที่มัตสึโมโตะได้ด้วยรถไฟไวด์วิวชินาโนะ limited express โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (จากโตเกียวขึ้นรถไฟสายชูโอ Main Line limited express จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ~ 3 ชั่วโมง)

ในบทความนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะแนะนำเกี่ยวกับปราสาทมัตสึโมโตะและดอกซากุระเป็นหลัก แต่มัตสึโมโตะที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือรวมถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นไปพร้อม ๆ กันนี้ มีบรรยากาศพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์และละครอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นบ้านเกิดของคุซามะ ยาโยะอิ ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผลงานของเธอถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะมากมายหลายชิ้น (ปิดปรับปรุงในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021) อยากให้ทุกคนได้มาที่นี่ดูสักวันนะ

Related Articles Related Articles