| Paul Deckret

เส้นทางเดินเขาโอกิซาวะ: 3 วันกับการเดินเท้าที่น่าตื่นเต้นตามเส้นทางแอลป์ตอนเหนือ

เมื่อวันหยุดเทศกาลโอบงสิ้นสุดลง นักเรียนเริ่มกลับเข้าเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และเส้นของซิคาเดียนก็ค่อย ๆ เบาบางหายไปตามฤดูกาล เหมือนฤดูกาลได้สิ้นสุดลง แต่จริง ๆ แล้ว ฤดูร้อนยังไม่ได้หายไปไหน แม้ว่าเราจะได้ผ่านจุดพีคของฤดูกาลอันแสนอบอ้าวไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าเดือนกันยายนถูกจัดเป็นเดือนที่ร้อนและชื้นเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น เมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงของญี่ปุ่นนั้น ทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าวและฝันอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นสักพักในเดือนกันยายน

กันยายนเป็นเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินป่า

หันหลังให้ภูเขาทาเทยามะขณะที่เดินหน้าเข้าสู่ภูเขาจิอิ

การเดินทางบนภูเขาสูงเป็นอีกวิธีที่ดีในการหลีกหนีจากความร้อนได้เป็นอย่างดี และเดือนกันยายนก็เป็นเดือนที่ดีในการใช้อากาศที่อุ่นกำลังดีก่อนที่ฤดูใบไม้ร่วงจะมาเยือน ซึ่งเหล่ากระท่อมและรถบัส ยังเปิดให้บริการอยู่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ถ้าเป้าหมายของคุณคือการเอาชนะไอร้อนแล้วละก็ การปีนเขาเพื่อพิชิตยอดไม้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเพราะด้านบนอุณหภูมิจะลดลงประมาณ 6 องศาสำหรับทุก ๆ ความสูง 1,000 เมตร และเมื่อคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์แล้ว ถ้าแลกการเดินบนถนนในเมืองระดับน้ำทะเลกับการขึ้นไปยอดเขาระดับ 2,000+ เมตรเป็นการบอกลา "สายลม" และกล่าวต้อนรับ "ความหนาวสดชื่น"

ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขาฮาริโนกิ ในเช้าที่อากาศเย็นสบายแห่งเดือนกันยายน

แม้ว่าในช่วงกลางวันอากาศบนภูเขาจะดูเย็นสบายในฤดูนี้ แต่ช่วงเช้าตรู่และกลางคืน อุณหภูมิอาจลดลงต่ำกว่า 0 องศา การเตรียมอุปกรณ์แคมปิ้งที่เหมาะสมและเสื้อผ้าที่อบอุ่นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก

แอลป์ตอนเหนือ คือ ที่สุด

เมื่อมองจากกระท่อมบนยอดเขาฮาริโนกิจะเห็นเมฆยามบ่ายเริ่มรวมตัวกันตามแนวเทือกเขา

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขามากกว่า 70% ทำให้มีทางเลือกสำหรับการปีนเขาที่น่าสนใจมากมาย แต่ตัวฉันชอบการปีนภูเขาหินเหนือทิวไม้และวิวมุมกว้าง ภูมิภาคชูบุโดยเฉพาะจังหวัดนากาโนะเป็นที่ตั้งของเทือกเขาที่สูงที่สุดและน่าประทับใจที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ กลางและใต้ เป็นที่ดีที่สุดสำหรับการปีนเขา แต่ละแอลป์มีอะไรมากมายให้คุณค้นหา เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือเป็นเทือกเขาที่ฉันต้องกลับไปซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า

เพียงเทือกเขาแอลป์เหนือเพียงเทือกเขาเดียวก็มียอดเขามากกว่าร้อยยอดและมีอาณาเขตกว้างใหญ่มาก ถ้าต้องการจำกัดจุดหมายปลายทางให้แคบลงอาจจะทำได้ยาก แต่เราได้ทำเส้นทางแนะนำการเดินป่าแบบหลายวันเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับพื้นที่ให้มากที่สุด (เดินทางสะดวก เส้นทางเดินที่ไม่ยากเกินไป และวิวที่งดงาม) ที่แห่งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากเมื่อเทียบกับเส้นทางที่มีชื่อเสียง อย่าง คามิโคจิ นอกจากนี้ เส้นทางยังเป็นวงกลมซึ่งทำให้การเดินทางโดยรถยนต์สะดวกสบาย

เส้นทางเดินเขาโอกิซาวะ 3 วัน

ทะเลเมฆระหว่างปีนเขาอะคาซาวะ

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเส้นทางเดินเขา

โอมาจิตั้งอยู่ที่ฐานเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือใกล้กับใจกลางเทือกเขา และได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในประตูสู่เทือกเขาแอลป์มาเป็นเวลานาน จุดยอดนิยม คือ สถานีโอกิซาวะ จุดขึ้นรถทางฝั่งนากาโนะมุ่งหน้าเขื่อนคุโรเบะและเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะเป็นเส้นทางที่ได้คนพลุกพล่าน นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของเส้นทางเดินป่าหลายแห่งซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ปีนเขาที่ยอดเยี่ยม ยอดเขาฮาริโนกิ (針ノ木岳) และภูเขาจิอิ (爺ヶ岳) เป็นไฮไลท์ของเส้นทางการปีนเขาบริเวณนี้ โดยการปีนเขายังทำได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับและค้างคืนตามแนวสันเขาที่สวยงามซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นวงใหญ่ที่ต้องใช้เวลาเดิมเป็นเวลากว่า 3 วันและบนเส้นทางเส้นนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในตัว นี่คือเส้นทางที่ฉันเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "เส้นทางเดินเขาโอกิซาวะ"

รายละเอียดเส้นทาง

ในช่วงสามวันเต็มบนเส้นทางตามที่อธิบายไว้ในย่อหน้าต่อไปนี้ คุณจะขึ้นยอดเขาหกยอดแยกกัน โดยแต่ละยอดมีความสูงกว่า 2,600 เมตร โดยมีตัวเลือกให้เพิ่มอีกหนึ่งยอด โดยรวมแล้วนี่เป็นการเดินป่าที่ยาก แต่ให้รางวัลเป็นพิเศษ เต็มไปด้วยทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ ยอดเขาที่ตระการตา และการเดินบนสันเขาที่น่าพึงพอใจ เป็นไปได้ที่จะพักค้างคืนและรับประทานอาหารในกระท่อมบนภูเขา หรือพกพาเต็นท์และอาหารไปเอง และตั้งแคมป์ที่จุดกางเต็นท์ที่กำหนดซึ่งอยู่ติดกับกระท่อม อ่านข้อมูลสรุปเส้นทางแบบวันต่อวัน

วันที่ 1 - 5.3 กม. / +1,115 ม. / ประมาณ 5 ชั่วโมง

ป้ายจุดเริ่มต้นการปีนเขาฮาริโนกิ

เริ่มออกเดินที่สถานีโอกิซาวะที่ความสูง 1433 ม. เส้นทางขึ้นเขาฮาริโนกิอยู่ทางซ้ายของสถานีด้านข้างที่จอดรถ จากตรงนั้น นักเดินป่าเดินผ่านป่า ซึ่งในช่วงกิโลเมตรแรกเส้นทางขนานกับถนนอยู่บ่อย ๆ ก่อนจะเข้าสู่บริเวณป่าไม้อย่างจริงจัง ต่อไปจะพบกับแม่น้ำเล็ก ๆ (ที่กว้างเต็มไปด้วยหิน) ก่อนเดินถึงกระท่อมโอซาวะ (大沢小屋) ตรงนี้เป็นครึ่งทางของการเดินทางวันแรกในเชิงระยะทาง และเป็นสถานที่ดีสำหรับการหยุดพัก ในช่วงปกติ กระท่อมเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นกันยายน แต่ตอนนี้กระท่อมแห่งนี้ปิดมาสองฤดูกาลแล้วเพราะการระบาดของโควิด 19

เมื่อมองจากเส้นทางเดิน ฤดูใบไม้ร่วงสีสันสดใสสวยงามตามระดับน้ำตกที่ลาดลงตามไหล่เขา

ความสูงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดนี้ แต่หลังจากนี้ความชันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และชันต่อเนื่องถึงกระท่อมฮาริโนะกิ (針ノ木小屋) เมื่อออกจากกระท่อมโอซาวะแล้วเส้นทางพาคุณไปยังจุดศูนย์กลางของหุบเขารูปตัววี เมื่อเดินลัดลงไปอีกหนึ่งกิโลเมตรพบกับก้นแม่น้ำตรงกลางหุบเขา ช่วงเวลานี้ของปี คุณจะได้พบกับลานหิมะขนาดใหญ่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ (北アルプス三大雪渓) ช่วงเดือนกันยายน หิมะส่วนใหญ่จะละลายไปหมดแล้วและเส้นทางเดินป่าก็หลีกเลี่ยงในการเดินทางไปดังจุดดังกล่าว ยกเว้นเพียงหนึ่งถึงสองเส้นทางเท่านั้น เราแนะนำให้คุณตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง หรือควรจะเตรียมเดือยลูกโซ่หรือตะปู 4 จุดไปด้วย

ช่วงต้นฤดูร้อน ทุ่งที่เต็มไปด้วยหิมะ แต่ในเดือนกันยายนหิมะละลายหายไปหมด

ทางเดินตามแม่น้ำและเส้นขอบฟ้า และเส้นทางจะแคบลงเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงยอดเส้นทางกลับมาเดินได้สบายๆและคุณจะได้พบกระท่อม ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคุณในวันแรก คุณควรใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง และถ้าคุณมีเวลาและแรงเหลือก็ทิ้งกระเป๋าเอาไว้และเดินเล่นไปที่ยอดเขาใกล้ ๆ อย่างภูเขาเร็นเกะ (蓮華岳) ซึ่งให้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง

เมื่อมองลงไปที่กระท่อมและแคมปิ้งของฮารินะกิจากเส้นทางที่มุ่งหน้าไปที่ภูเขาเร็นเกะ

วันที่ 2 - 10.2 กม. / +800 ม. / ประมาณ 8 ชั่วโมง

มองย้อนกลับไปยังยอดเขาฮารินะกิที่สวยงามตราตรึงใจ

วันนี้เป็นวันแห่งการปีนเขา เมื่อเดินผ่านทางเดินหินพร้อมวิวกว้างขวางตลอดทาง ระยะทางของวันนี้เป็นสองเท่าของวันแรก แต่ความชันเพิ่มขึ้นเพียง 2/3 เท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าเส้นทางนี้ไม่น่าเป็นปัญหา แต่ความชันของเส้นทางวันนี้เป็นเหมือนรถไฟเหาะที่ต้องขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้ง คุณควรเผื่อเวลาไว้ประมาณ 8 ชั่วโมง และควรออกตั้งแต่เช้าตรู่

ยืนระพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาฮาริโนกิ

เมื่อออกจากกระท่อม คุณจะปีนขึ้นยอดเขาฮาริโนกิทันที โดยมีความชันกว่า 250 เมตรในระยะทางน้อยกว่าหนึ่งกิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ยากแต่เมื่อเห็นวิวบนยอดเขาสึรุงิและทาเทยามะที่อยู่เหนือน้ำสีฟ้าของทะเลสาบคุโรเบะและช่วยให้คุณลืมความอ่อนล้าไปได้ ถ้าคุณเริ่มเดินตอนกลางคืนและใช้เวลาตามกำหนด คุณจะได้ชมอาทิตย์ขึ้นเป็นเฉดสีชมพูพาสเทลจากบนเขาทาเทยามะ

แสงแดดยามเช้าสาดส่องเหนือยอดเขาทาเทยามะ โดยมีแสงสะท้อนจากทะเลสาบคุโรเบะด้านล่าง

จากตรงนี้ คุณเดินลงเขาไปตามทางเดินหินก่อนปีนขึ้นยอดเขาซุบาริ (スバリ岳) เส้นทางจะซ้ำแบบเดิมอีกรอบหนึ่งก่อนปีนขึ้นเขาอะคาซาวะ (赤沢岳) และเขานารุซาวะ (鳴沢岳) ซึ่งเป็นครึ่งทางของการปีนเขาวันนี้

ทางลงเขาซุบาริมีความขรุขระของภูเขาหิน

วันที่ 2 เป็นการเดินตามสันเขาที่สวยงามซึ่งมาพร้อมวิวของภูเขาชิโรอุมะในวันที่อากาศดี

จากนารุซาวะเดินไปเพียง 30 นาทีจะถึงกระท่อมชินโคชิ (新越山荘) ที่พักสุดสบายให้คุณค้างคืนได้ในช่วงฤดูเดินป่าอย่างฤดูร้อน น่าเสียดายที่กระท่อมแห่งนี้ปิดให้บริการช่วงกลางเดือนสิงหาคม ถ้าที่แห่งนี้ปิดให้บริการ คุณจะต้องพกอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเดินป่า

บางจุดบนเส้นทางทาเทยามะ จะดูใกล้เหมือนเอื้อมมือไปจับได้

จากตรงนี้มองเห็นกระท่อมชินโคชิด้วย

เมื่อออกจากกระท่อมชินโคชิ คุณจะมุ่งหน้าไปยอดเขาอีกแห่ง ชื่อว่าอิวะโคะยาซาวะ (岩小屋沢岳) ข่าวดีก็คือ นี่เป็นการปีนเขาสุดท้ายของวันแต่ก็เป็นการปีนเขาที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ (~175 เมตร) แต่ก็ยังไม่ใช่เขาสุดท้ายของทริปนี้นะ คุณจะเห็นว่าพื้นหินเคยขรุขระเมื่อนานมาแล้ว ค่อยๆ เรียบขึ้นและกลมมนในที่สุด สิ่งนี้กลายเป็นการเดินทางอย่างยาวนานของอิวะโคะยาซาวะ

เมื่อหินน้อยลงและพบต้นไม้มากขึ้น เป็นลักษณะเฉพาะของเส้นทางนี้เมื่อใกล้จะถึงกระท่อมทาเนอิเกะ

ระหว่างทางบรรยากาศจะเปลี่ยนไปจากทิวเขา เปลี่ยนเป็นป่าดงดิบและผ่านบ่อน้ำขนาดเล็ก ๆ จากนั้นก็ต้องปีนเขา 80 เมตรเพื่อไปถึงกระท่อมทาเนอิเกะ (種池山荘) หลังคาสีส้มสดใส

กระท่อมทาเนอิเกะตั้งอยู่บนสันเขาที่งดงาม มีฉากหลังเป็นภูเขาจิอิปกคลุมด้วยเมฆ

วันที่ 3 - 8.9 กม. / +260 ม. / ประมาณ 4.5 ชั่วโมง

ช่วงต้นเดือนกันยายน คุณจะเห็นยอดเขาเขียวขจี

หลังเดินมาสองวันอย่างหนักหน่วง วันนี้เป็นวันสุดท้ายเพื่อพิชิตเขาแห่งนี้ เส้นทางไปยังโอกิซาวะลาดลงมาจากด้านหน้ากระท่อมแต่เพราะยอดเขาจิอิอยู่ใกล้จนไม่อาจทนมองข้ามไปได้ แทนที่จะทิ้งกระเป๋าไว้ที่กระท่อม ลองแพ็คสิ่งของจำเป็นและออกเดินเที่ยวระยะ 3 กม. โดยที่ไม่ต้องแบกสัมภาระทั้งหมดกันเถอะ เส้นทางนี้ใช้เวลาไปกลับเพียงชั่วโมงครึ่งเพราะเส้นทางถูกเตรียมไว้เป็นอย่างดี เมื่อกลับมาถึงกระท่อมแล้วอย่าลืมหยิบอาหารและเครื่องดื่มที่จำเป็นสำหรับการเดินทางกลับด้วยล่ะ เพราะระหว่างทางไม่มีอะไรให้ทานเลย

กระท่อมทาเนอิเกะและภูเขาอิจิ

ทางลงเขาระยะทาง 5 กม. เป็นที่รู้จักในชื่อ คาชิวาบาระ ชินโด (柏原新道) เส้นทางนั้นไม่ได้เดินยากแต่ก็มีความลาดเฉลี่ยมากกว่า 20 % บางครั้งก็เป็นพื้นหินที่เดินลงยากพอสมควร

นักปีนเขามุ่งหน้าไปยังทางเดินหินของคาชิวาบาระ ชินโดะ

คุณไม่ต้องรีบร้อนเมื่อเดินลงจากภูเขา ถ้าคุณมองด้านขวาของเส้นทางจะมองเป็นแนวเขาและกระท่อมทาเนอิเกะที่ค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ และก็ยังมีจุดวิวอีกหลายจุดที่คุณจะได้เห็นสถานีโอกิซาวะด้านหน้าของคุณ และคุณใช้ดูระยะทางที่คุณเดินผ่านไปได้ เมื่อคุณได้ยินเสียงแม่น้ำ แปลว่าคุณใกล้ถึงสุดหมายปลายทางแล้ว เส้นทางนี้ออกมาที่ถนนสายหลัก และคุณต้องเลี้ยวขวาจากนั้นข้ามสะพาน จากนั้นเดินไปตามทางเท้าซึ่งเป็นหลักกิโลเมตรสุดท้าย พอเลยจากอุโมงค์ก็ถึงลานจอดรถและป้ายรถประจำทาง

สถานีโอกิซาวะเป็นจุดสิ้นสุดของการเดินเขา และจากตรงนี้เป็นช่วงการเดินลงเขาส่วนสุดท้าย

รายละเอียดเส้นทาง

จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด: สถานีโอกิซาวะ
เส้นทางวันที่ 1 : สถานีโอกิซาวะ (扇沢駅) ~ ทางขึ้นฮาริโนกิ (針ノ木登山口) ~ กระท่อมโอซาวะ (大沢小屋) ~ กระท่อมฮาริโนกิ (針ノ木小屋)
เส้นทางวันที่ 2 : กระท่อมฮาริโนกิ (針ノ木小屋) ~ ภูเขาฮาริโนกิ (針ノ木岳) ~ ภูเขาซุบาริ (スバリ岳) ~ ภูเขาอะคาซาวะ (赤沢岳) ~ ภูเขานารุซาวะ (鳴沢岳) ~ ภูเขาอิวะโคะยาซาวะ (岩小屋沢岳) ~ กระท่อมทาเนอิเกะ (種池山荘)
เส้นทางวันที่ 3 : กระท่อมทาเนอิเกะ (種池山荘) ~ ภูเขาจิอิ (爺ヶ岳) ~ กระท่อมทาเนอิเกะ (種池山荘) ~ ทางขึ้นคาชิวะบาระ (柏原新道登山口) ~ สถานีโอกิซาวะ (扇沢駅)
ความชันรวม +2,175 ม.
ระยะทางรวม 24.4 กม.
เวลาเดินรวม 17.5 ชั่วโมง

วางแผนการเดินปีนเขา

การเดินทาง

วิธีการเดินทางที่เร็วที่สุดและง่ายที่ในการเดินทางไปโอมาจิจากนาโกย่าคือ นั่ง limited Express Wide-View Shinano บนสาย JR ไปยังสถานี Matsumoto และเปลี่ยนเป็นรถไฟสายท้องถิ่น สาย Oito มุ่งหน้า Shinano Omachi ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมงและราคาประมาณ 7,000 เยนต่อเที่ยวสำหรับตั๋วจองที่นั่ง

จากป้ายรถบัสหน้าสถานี Shinano Omachi ให้ขึ้นรถบัสที่มี 5 รอบต่อวันที่มุ่งหน้าไปสถานี Ogizawa (9:25 / 10:10 / 11:40 / 14:10 / 15:40) การเดินทางเที่ยวเดียวใช้เวลาประมาณ 35 นาที

กระท่อมภูเขา

ในยุคโควิด คุณต้องจองกระท่อมล่วงหน้าทั้งที่ฮาริโนกิและทาเนอิเกะ ทั้งสองที่มีพื้นที่บางส่วนสำหรับการแคมปิ้ง และถ้าคุณต้องการพักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการแล้วล่ะก็คุณจำเป็นต้องของล่วงหน้า กระท่อมทาเนอิเกะจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 16 ตุลาคม สำหรับฤดูกาล 2021 แต่ฮาริโนกิยังไม่ประกาศวันปิดบริการอย่างเป็นทางการ โดยมีเพียงประกาศว่าจะปิดทำการ "ในช่วงเดือนกันยายน" ดังนั้นจะสรุปแผนการเดินทางของคุณ อย่าลืมตรวจสอบกับกระท่อมเพื่อยืนยันสถานะของห้องพัก ห้องว่างและราคา (เว็บไซต์เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

Harinoki Hut: http://www.harinoki.com/hut.html

Taneike Hut: https://www.kasimayari.jp/annai.htm

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

ถ้าคุณเตรียมอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่เหมาะสม และถ้ากระท่อมยังเปิดให้บริการ คุณยังไปเดินป่าได้จนถึงกลางเดือนตุลาคม และอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าคุณวางแผนจะเดินเขาก่อนเดือนกันยายน ควรอุปกรณ์การปีนเขาบนหิมะไปด้วย

Related Articles Related Articles