| กองบรรณาธิการCentrip

ทริปสองวันในมัตสึโมโตะและอะซูมิโนะ

นักท่องเที่ยวมากมายอาจคิดว่ามัตสึโมโตะแห่งนากาโนะเป็นจุดพักหนึ่งคืนระหว่างเดินทางไปคามิโคจิหรือทาเทยามะ คุโรเบะในภูมิภาคชูบุ แต่มัตสึโมโตะมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหา เพราะเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันอย่างแน่นอน มัตสึโมโตะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน และยังมีความใกล้ชิดกับบรรยากาศชานเมืองที่สวยงามของญี่ปุ่นอย่างอะซูมิโนะ

วันที่ 1: เดินเล่นรอบมัตสึโมโตะอันสวยงามและอุดมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์

มัตสึโมโตะอยู่ห่างจากโตเกียวและนาโกย่าประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าคุณออกแต่เช้าประมาณ 7 โมง คุณจะถึงมัตสึโมโตะประมาณ 10 โมงและคุณจะได้เริ่มทริปของคุณทันที

มัตสึโมโตะแห่งจังหวัดนากาโนะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีห้างร้านค้ามากมาย ซึ่งต่างจากเมืองอื่นตรงที่เป็นที่ตั้งของสมบัติของชาติอย่างปราสาทมัตสึโมโตะและเมืองปราสาท พร้อมกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์จำนวนมากที่รักษาไว้ระหว่างสงคราม ถนนและวิวของเมืองสมัยใหม่ตัดกับความขลังในประวัติศาสตร์ เป็นบรรยากาศที่หรูหราของเมืองมัตสึโมโตะที่ทำให้คุณหลงใหล

สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองมัตสึโมโตะอยู่ในระยะเดินได้ เรามาลองเดินดูว่าจะเจออะไร

แหล่งโบราณสถาน: ปราสาทมัตสึโมโตะ ปราสาทที่เป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่น/span>

จากสถานี Matsumoto เดินไปปราสาทมัตสึโมโตะเพียง 15 นาที สร้างขึ้นในช่วงสงครามระหว่างรัฐ (1504) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อปราสาทคาราสึ (ปราสาทแห่งอีกา) เพราะมีกำแพงสีดำโดดเด่น ถึงแม้มีปราสาทอีกมากมายในญี่ปุ่น แต่หลายแห่งก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ ปราสาทที่รักษาของเดิมไว้มีเพียง 12 หลังเท่านั้น ปราสาทห้าชั้นแห่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในสองอาคารที่ยังคงเหลืออยู่และถูกรักษาให้เป็นสมบัติประจำชาติ

ความโอ่อ่าของปราสาทมัตสึโมโตะนั้นควรค่าแก่การเยี่ยมชม แม้ว่าคุณจะไม่ค่อยรู้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหรือไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของปราสาทญี่ปุ่น คูน้ำที่เป็นกระจกสะท้อนความยิ่งใหญ่น่าทึ่งของกำแพงสีดำล้วนซึ่งจะสว่างไสวยามค่ำคืน

ถ้าคุณมามัตสึโมโตะในฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้พบกับซากุระตัดกับฉากหลังของเจแปนแอลป์ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ช่วงฤดูหนาวคุณจะได้เห็นปราสาทมัตสึโมโตะปกคลุมด้วยหิมะพร้อมกับการแสดงงานแกะสลักน้ำแข็ง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ปราสาทมัตสึโมโตะน่าสัมผัสในทุกฤดู

ถนนดั้งเดิมสองสาย นาคามาจิโดริและนาวาเตะโดริ

นาคามาจิโดริ เมืองปราสาทที่มีประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี อยู่ห่างจากปราสาทมัตสึโมโตะเพียง 6 นาที อาคารในเมืองนี้เป็นสไตล์โบราณรูปแบบสีขาวดำ ช่วงเอโดะ บ้านเรือนเสียหายจากเพลิงไหม้ คนจึงรวมตัวกันสร้างกำแพงนามาโกะ (ปลิงทะเล) เพื่อป้องกันพื้นที่จากเพลิงไหม้ รูปแบบของพื้นผิวทำเป็นรูปเพชรเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับเมืองแห่งนี้

ในปัจจุบันนาคามาจิโดริเป็นที่ตั้งของร้านฝีมือและคาเฟ่ยอดนิยมมากมาย ลองมาเดินไปรอบ ๆ แล้วคุณจะพบสิ่งที่คุณหลงรักอย่างแน่นอน

ใกล้ ๆ นาคามาจิโดริ เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ ชื่อว่านาวาเตะโดริ มีลักษณะเป็นอาคารไม้ ร้านค้าของเก่า ของขึ้นชื่อ ร้านขนมดึงดูดให้ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก เมื่อคุณมาที่นาวาเตะโดริ อย่าลืมมองหาร้านค้าที่คุณสนใจ

กบถูกพบในแม่น้ำโทบะที่อยู่ใกล้เคียง แต่สูญพันธุ์ไปเพราะมลพิษ ศาลเจ้าถูกสร้างบริเวณโจมงโดริเพื่อบูชาเทพเจ้ากบไดเมียวจิน และมีรูปปั้นกบสุดน่ารักให้ชมตลอดทางเพราะหวังว่าจะฟื้นฟูแม่น้ำและหวังให้กบกลับมา

ถ้าคุณชื่นชอบงานของยาโยอิ คุซามะ คุณห้ามพลาดพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ

สำหรับคนที่ชื่นชอบศิลปะสมัยใหม่และประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะเป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
ยาโยอิ คุซามะ ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เกิดที่เมืองมัตสึโมโตะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะมีเซทผลงานที่สำคัญของเธอ ประติมากรรมขนาดใหญ่มีชื่อว่า มาโบโรชิ โนะ ฮานะซึ่งสร้างสรรค์โดยยาโยอิ คุซามะ ซึ่งตั้งอยู่ตรงห้องโถงหน้าพิพิธภัณฑ์ มีลายจุดและสีสันสดใสเป็นสัญลักษณ์

ลวดลายแบบจุดของยาโยอิ คุซามะ มีอยู่บนม้านั่งและเครื่องขายของอัตโนมัติอีกด้วย คุณจะหลงใหลเสน่ห์ของศิลปินท่านนี้เมื่อได้มาเยือนมาเยือน

อาหารของมัตสึโมโตะที่ห้ามพลาด

หนึ่งในอาหารจานหลักของมัตสึโมโตะ คือ ซันโซกุยากิ หรือน่องไก่หมักซอสกระเทียมทอดกรอบ ซึ่งเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไก่ทอด

โซบะเป็นอีกเมนูยอดนิยม น้ำบริสุทธิ์จากนากาโนะทำให้โซบะรสชาติดีขึ้นไปอีกระดับ มีร้านโซบะทุกซอกมุมของมัตสึโมโตะ ทำให้มัตสึโมโตะเป็นจังหวัดที่มีร้านโซบะมากที่สุดในญี่ปุ่น

โอยากิเป็นเป็นอาหารท้องถิ่นยอดนิยมที่ทำสืบต่อกับมาหลายชั่วอายุคนในนากาโนะ โอยากิมีรูปร่างกลมทำจากข้าวสาลีหรือบัควีทมีเนื้อเหนียวหนึบและไส้ผัก

วันที่ 2: ปั่นจักรยานในอะซูมิโนะ ชานเมืองญี่ปุ่นที่สวยที่สุด

อะซูมิโนะเป็นที่รู้จักเพราะเป็นชานเมืองที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เดินทางโดยรถไฟประมาณ 30 นาทีจากเมืองมัตสึโมโตะ บรรยากาศนอกหน้าต่างเปลี่ยนจากเมืองเป็นความงดงามของธรรมชาติเมื่อรถไฟผ่านภูเขา อะซูมิโนะรอบล้อมด้วยชานเมืองที่งดงามของญี่ปุ่น มีแม่น้ำสายเล็ก ๆ และภูเขามากมาย

เราขอแนะนำให้คุณเช่าจักรยานขี่ในอะซูมิโนะเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด คุณจะได้พบกับอากาศบริสุทธิ์ น้ำใส และภูเขาที่สวยงามซึ่งจะสัมผัสได้โดยประสาทสัมผัสทั้งห้า

บรรยากาศของอะซูมิโนะ

อะซูมิโนะรอบล้อมไปด้วยเจเปนแอลป์ และทุกที่ที่คุณไป คุณจะพบกับภูเขาและความเขียวชะอุ่ม ภาพที่คุณเห็นระหว่างปั่นจักรยานนั้นจะเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจคุณไปอีกนาน

ลิ้มลองอาหารจากวาซาบิ: ฟาร์มวาซาบิไดโอะ

ฟาร์มวาซาบิไดโอะเป็นฟาร์มเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและตั้งอยู่ในอะซูมิโนะ ฟาร์มได้ปรับจากเป็นฟาร์มเพื่อการเกษตรเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักซึ่งคุณเยี่ยมชมได้ฟรี ๆ ไร่วาซาบิขนาดใหญ่ในอะซูมิโนะตั้งอยู่ตีนเขาเจแปนแอลป์ ซึ่งหิมะในฤดูหนาวจะละลายไหลลงมาเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่ทำให้วาซาบิเติบโตได้จำนวนมาก เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปลูกวาซาบิ

นอกจากได้เห็นต้นวาซาบิแล้ว คุณจะยังได้ชมกังหันน้ำจากภาพยนตร์เรื่อง "Dream" ของอากิระ คุโรซาวะระหว่างทานอาหารจากวาซาบิที่มีรสชาติพิเศษและจับจ่ายซื้อของฝาก

ร้านอาหารมีให้บริการอาหารจากวาซาบิมากมาย ชุดอาหารประกอบด้วยวาซาบิดิบชิ้นนึง คุณลองเพื่อรสชาติที่สดใหม่ด้วยตนเองได้อีกด้วย รสชาติของวาซาบิดิบนั้นเบาและอร่อย เป็นรสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เรามั่นใจว่าคุณไม่เคยได้ทานวาซาบิรสชาติแบบนี้อย่างแน่นอน

ไอศกรีมวาซาบิเป็นสิ่งที่ต้องลองทานเมื่อคุณมาเยี่ยมฟาร์มแห่งนี้ น้ำซุปครีมข้นวาซาบิสุดสดชื่นเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก ๆ

ประสบการณ์การสร้างเครื่องแก้ว: สตูดิโอเครื่องแก้วอะซูมิโนะ

นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว อะซูมิโนะยังมีความโดดเด่นทางศิลปะอีกด้วย ในภูมิภาคอะซูมิโนะมีหอศิลป์ถึง 19 แห่ง และมีศิลปินจำนวนมากย้ายมาทำงานในภูมิภาคนี้

สตูดิโอเครื่องแก้วอะซูมิโนะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะเป็นพื้นที่ทำงานของศิลปินในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานของพวกเขา ดังนั้น ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลของแก้วในร้านศิลปะ คนที่มาบรรยายเรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นตัวศิลปินเองเลยล่ะ

ที่สตูดิโอเครื่องแก้วอะซูมิโนะมีกิจกรรมทำเครื่องแก้วให้คุณทำ คุณเข้าไปในโรงงานผลิตแก้วและแจกัน ถ้วยแก้วหรือเครื่องแก้วอื่น ๆ ใต้คำแนะนำของศิลปินหน้าใหม่ (ชั้นเรียนเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ)

ศาลเจ้าโฮทากะ ศาลเจ้าใหญ่ที่ทำการปกป้องจังหวัดนากาโนะ

ศาลเจ้าโฮทากะเป็นตัวแทนของจังหวัดนากาโนะ เพราะเป็นศาลเจ้าหลักของเทือกเขาเจแปนแอลป์ ซึ่งปกป้องแผ่นดินและทะเล ศาลเจ้าสำคัญแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่สำคัญสำหรับการขอพรเพื่อความปลอดภัยในเรื่องการเดินทาง

ประติมากรรมหินแกะสลักรูปชายหญิงที่พบในอะซูมิโนะเป็นเทพเจ้าผู้พิทักษ์แห่งอะซูมิโนะ หรือ โดโซจินซึ่งแต่ละองค์มีรูปร่างและขนาดที่เป็นเอกลักษณ์

ศาลเจ้าโฮทากะเป็นศาลเจ้าแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีเทพเจ้าแห่งสุขภาพและการมีชีวิตยืนยาวซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้ทำมาจากสแตนเลส คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าจะได้สัมผัสกับแผนสแนเลสเหล่านี้จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ๆ ได้ คุณยังสามารถซื้อโดโซจิน โกโซจูซึ่งให้พรความสุขแก่ทุก ๆ คนได้ และหาซื้อได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

อาหารที่ต้องลองที่อะซูมิโนะ

อะซูมิโนะมีการปลูกวาซาบิอย่างกว้างขวางจึงมีผลิตภัณฑ์วาซาบิหลายอย่าง เราอยากให้คุณลองน้ำสลัดวาซาบิ มันฝรั่งทอดวาซาบิ เหล้าวาซาบิ และสินค้าวาซาบิอื่น ๆ ตั้งแต่น้ำซุปวาซาบิดิบเข้มข้นซึ่งเอาไว้ทานกับซูชิ

ถ้าคุณมีเวลาเหลือ ห้ามพลาดสถานที่ยอดนิยมเหล่านี้!

ถ้าคุณตั้งใจจะเดินทางมากกว่าสองวันหนึ่งคืน เราแนะนำให้คุณแวะชมสถานที่ขึ้นชื่อใกล้ ๆ มัตสึโมโตะและอะซูมิโนะ เรามั่นใจว่าสถานที่เหล่านี้จะเพิ่มความสนุกให้ทริปของคุณอย่างแน่นอน

คามิโคจิ

คามิโคจิแห่งนากาโนะ เป็นที่รักจักในชื่อ "ที่ประทับของพระเจ้า" เพราะเป็นพื้นที่ภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ธรรมชาติอันล้ำค่าเหล่านี้ได้รับการดูแลปกป้องโดยคนในพื้นที่ นอกจากพันธุ์พืชหลากหลายสายพันธุ์ของภูเขาแล้วก็ยังมีทะเลสาบน้ำใสตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าอย่างน่าทึ่งพร้อมสะท้อนภูเขาโดยรอบ เหมือนอยู่ในความฝันจริง ๆ

การเดินทางจากสถานี Matsumoto ไปยังคามิโคจิใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณจะนั่งรถบัสตรงจากสถานี Matsumoto (มี 2 เที่ยวต่อวัน ต้องของล่วงหน้า) หรือนั่งรถไฟจากสถานี Matsumoto ไปสถานี Shimashima และต่อรถบัสไปคามิโคจิ (มี 12 เที่ยวต่อวัน ไม่ต้องจองล่วงหน้า)

กระเช้าลอยฟ้าชิน โฮทากะ (Shin-Hotaka Ropeway)

กระเช้าลอยฟ้าชิน โฮทากะ มีเส้นทางยาวกว่า 3,200 เมตร และเป็นกระเช้าลอยฟ้าสองชั้นเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น วิวที่ได้จากกระเช้านั้นงดงามมาก ช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวมีเส้นทางเดินปกคลุมด้วยหิมะซึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาเยี่ยมชม

จากสถานี Matsumoto มีบริการรถบัสตรงไปยังกระเช้าลอยฟ้าชิน โฮทากะ โดยรถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

คุโรเบะ ทาเทยามะ

กำแพงหิมะสูง 20 เมตรที่สามารถชมได้เฉพาะเดือนเมษายนถึงมิถุนายนของทุกปี เป็นจุดเด่นของคุโรเบะ ทาเทยามะ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

จากสถานี Matsumoto นั่งรถไฟ JR ไปยังสถานี Shinano Omachi (ทางเข้า Kurobe Tateyama) ใช้เวลาประมาณ 53 นาที

บทสรุป

มัตสึโมโตะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปจังหวัดนากาโนะและอะซูมิโนะที่อุดมไปด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามจะทำให้คุณติดใจจนต้องกลับมาซ้ำ ลองวางแผนมาใช้เวลาสักสองวันที่คามิโคจิและคุโรเบะ ทาเทยามะ และลองสำรวจสิ่งใหม่ ๆ กันเถอะ

Related Articles Related Articles