| Bonnie Chow
คู่มือท่องเที่ยวทาคายามะในฤดูใบไม้ร่วง
Table of Contents
คุณเคยได้ยินคำว่า "โมมิจิการิ" มาก่อนหรือไม่
เมื่อคุณเสิร์ชหาภาพฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นในอินเตอร์เน็ตแล้วละก็คุณอาจเจอ #Momijigari หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "การซ่อนแอบของใบไม้" Momiji แปลว่า "ใบไม้สีแดง" ในขณะที่ gari หมายถึง "การล่าสัตว์" ซึ่งมีขึ้นในสมัยเฮอัน (794-1185) เมื่อราชวงศ์เสด็จเยือนพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อชื่นชมความงามของสีสันในฤดูใบไม้ร่วง ราชวงศ์ไม่ต้องการให้ประชาชนรับรู้ว่าพวกเขาออกไปเพลิดเพลินกับใบไม้ จึงใช้คำว่า gari เพื่อปกปิดจุดประสงค์ที่แท้จริงและหลีกเลี่ยงอันตรายต่าง ๆ ได้อีกด้วย
อะไรทำให้ฤดูใบไม้ร่วงของทาคายามะพิเศษกว่าที่อื่น ๆ
ช่วงพีคของทาคายามะเริ่มต้นในเดือนตุลาคม คุณจะเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยชมเทือกเขาต่าง ๆ ของเทือกเขาเจแปนแอลป์ ไม่ว่าจะเป็นคามิโคจิหรือภูเขาโนริคุระ นอกจากนี้ ช่วงเวลานี้ยังเหมาะสำหรับการเดินเล่นในทาคายามะและชมใบไม้เปลี่ยนสี เวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ทาคายามะคือระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน สภาพอากาศที่เหมาะสมและสีของใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามตระการตาตัดกับใบไม้ที่เขียวชอุ่มทำให้เกิดบรรยากาศที่เกินจะบรรยาย
การสลับกันของวันที่อบอุ่นและช่วงกลางคืนที่หนาวเย็นช่วยเพิ่มความเข้มของสีใบไม้ เมื่อเข้าฤดูใบไม้ร่วง เวลาช่วงกลางวันจะสั้นลงซึ่งทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม สีแดง และสีน้ำตาลของฤดูใบไม้ร่วง
การเตรียมตัว
ทาคายามะมีช่วงอุณหภูมิที่กว้างมากในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิต่ำสุด 2 องศาเซลเซียสและสูงสุดที่ 26 องศาเซลเซียส อย่าลืมสวมเสื้อกันหนาวที่กันลมและความหนาวเย็นช่วงเช้าและกลางคืน ทาคายามะนั้นมีฝนตกไม่มากในฤดูใบไม้ร่วง และปกติแล้ว คุณจะได้พบกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใสและมีแดด (ซึ่งเหมาะสำหรับการเปลี่ยนสีของใบไม้) อย่าลืมพกร่วมกันแดดไปด้วยนะคะ
สถานที่แนะนำ
เมืองทาคายามะมีภูมิประเทศที่ค่อนข้างเรียบง่ายต่อการเดินเล่นหรือขี่จักรยาน หากคุณคิดจะเดินไปรอบ ๆ อย่าลืมสวมรองเท้าที่ใส่สบายเพราะเมืองแห่งนี้มีอะไรให้คุณได้สนุกสนานหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าจักรยานอีกด้วยโดยค่าบริการคิดเป็นรายชั่วโมง ถ้าคุณอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด การเช่าจักรยานเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
สถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ
จากสถานีทาคายามะไปยังวัดโคคุบุนจิแล้วมุ่งหน้าศาลเจ้าทาคายามะ หลังจากนั้นเดินไปยังสะพานนาคาบาชิและศาลเจ้าฮิเอะ วัดเท็นโชจิ สวนสาธารณะคิตะยามะและปิดท้ายที่หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (เดินทางได้โดยรถบัส) ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังสถานีทาคายามะ
ทุกวันนี้ กระแสการลงรูปในอินสตาแกรมให้ได้มากที่สุดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาคายามะมีสถานที่สำหรับการลงรูปในอินสตาแกรมมากมาย คุณจะไม่เจอกับปัญหาในการตั้งค่ามุมและแสงที่ดีที่สุด แต่คุณจะเลือกไม่ได้ว่าลงรูปไหนดีเสียมากกว่า เราแนะนำให้คุณใช้เส้นทางด้านบนเพื่อไปยังจุดถ่ายภาพที่ดีที่สุด
วัดฮิดะโคคุบุนจิและตุ๊กตาซารุโบโบ
วัดอยู่ห่างจากสถานี JR ทาคายามะเพียง 5 นาทีและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับทริปถ่ายภาพของคุณ ที่แห่งนี้มีตุ๊กตาซารุโบโบทำมือมากมาย ตุ๊กตาเหล่านี้เป็นเครื่องรางสำหรับความโชคดีในฮิดะ คำว่า ซารุโบโบแบ่งได้เป็น 2 คำ คำแรกคือ ซารุ หรือ ลิง และอีกคำคือ โบโบ หรือเด็ก ในอดีต คนในฮิดะจึงแขวนตุ๊กตานี้ไว้บริเวณทางเข้าบ้านเมื่อคนในครอบครัวตั้งครรภ์เพื่อให้การคลอดบุตรเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกวันนี้ ตุ๊กตานี้เป็นเครื่องรางแห่งความโชคดีของการมีครอบครัวที่มีความสุขและโชคดี ซึ่งเป็นอีกของฝากที่ดีเช่นกัน
ต้นแปะก๊วยขนาดใหญ่ที่วัดเป็นจุดเด่นที่แท้จริงของสถานที่นี้ ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้สีเหลืองทองสวยงาม ต้นไม้มีอายุมากกว่า 1,250 ปี ความสูง 28 เมตร และมีเส้นรอบวง 10 เมตร และถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ ความเชื่อพื้นบ้านเกี่ยวกับต้นไม้กล่าวว่าเมื่อใบแป๊ะก๊วยตกหิมะจะตามมาในไม่ช้า ต้นไม้ยังเป็นที่รักของชาวเมืองและได้รับการประกาศให้เป็นเครื่องหมายสำหรับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
ศาลเจ้าทาคายามะ
เมื่อคุณเดินจากวัดโคคุบุนจิเพียง 10 นาทีก็จะมาถึงศาลเจ้าทาคายามะ ในบริเวณนี้ มีตลาดเช้าระหว่าง 8 โมงถึงเที่ยงซึ่งมีผลไม้ ผัก ของดองประจำฤดู และตุ๊กตาซารุโบโบทำมือ ระหว่างเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ชาวไร่ในพื้นที่จะนำแอปเปิ้ลฮิดะ ซึ่งมีชื่อในความหวานและชุ่มฉ่ำ อากาศที่หนาวทำให้กระบวนการสุกนั้นช้าลง แอปเปิ้ลในพื้นที่ฮิดะจึงเก็บน้ำตาลไว้ได้มาก คุณต้องลองชิมให้ได้เลยนะ
ระหว่างปี 1692 - 1969 ศาลเจ้าทาคายามะเป็นสำนักงานปกครองจังหวัดของโชกุนโทคุกาวะ ตัวอาคารเก่าที่มาพร้อมสวนต้นโมมิจิที่สวยงาม เราแนะนำให้คุณลองนั่งเอ็นงาวะ (ระเบียงญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) และชมบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยรอบ
สะพานนาคาบาชิ
ต่อมาเราจะไปยังสะพานนากาบาชิซึ่งอยู่ห่างจากศาลเจ้าทาคายามะเพียงไม่กี่นาที จากบนสะพานคุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของแม่น้ำมิยากาวะและสวนชิโรยามะ วันที่ 1 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน ช่วง 18:00 ถึง 21:00 น.จะมีการประดับไฟบริเวณสะพาน และในขณะที่คุณชมวิวอยู่นั้น คุณจะได้พบกับรถลากผ่านสะพานไปมา ถ้าคุณพร้อมแล้ว ทำไมไม่ลองนั่งรถลากจากที่นี่ไปศาลเจ้าฮิเอะดูล่ะ?
ศาลเจ้าฮิเอะ
การเดินไปยังศาลเจ้าฮิเอะใช้เวลา 25 นาทีแต่ที่ปลายทางคุณจะทึ่ง คนในท้องที่แนะนำให้มาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี การล่าใบไม้ของคุณเริ่มต้นตั้งแต่เดินเข้าสู่ศาลเจ้าจนไปถึงสนามเด็กเล่น ทุกเส้นทางที่คุณเดินจะได้สัมผัสกับโลกสีแดง เหลือง ส้มและน้ำตาล
วัดเท็นโชจิ
การเดินจากศาลเจ้าฮิเอะไปยังวัดเท็นโชจิ ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีซึ่งกำหนดเส้นทางโดยนากาชิกะ คานาโมริ ซึ่งเป็นครอบครัวที่ปกครองทาคายามะมากว่า 107 ปี ความรักของคานาโมริที่มีต่อฮิกาชิยามะในเกียวโตทำให้เขาต้องย้ายวัดหลายแห่งไปทางทิศตะวันออกของทาคายามะ เกิดเป็นเส้นทางเดินยาว 3.5 กิโลเมตร วัดเท็นโชจิสร้างขึ้นโดยช่างไม้ของฮิดะ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการชมทัศนียภาพอันโดดเด่นที่ผสมผสานความสง่างามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น ระฆังวัดขนาดใหญ่ และสวนญี่ปุ่นกับโมมิจิ
สวนสาธารณะคิตะยามะ
อยากลองปีนเขาเล็ก ๆ เพื่อชมวิวเมืองและเจแปนแอลป์
การปีนเขานี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อพิชิตยอดของสวนคิตะยามะเมื่อคุณเริ่มเดินจากวัดเท็นโชจิ วิวจากด้านบนนั้นน่าประทับใจเป็นอย่างมาก และถ้าเป็นวันที่ฟ้าเปิดของฤดูใบไม้ร่วงนั้นยิ่งทำให้การเดินนี้มีความเพลิดเพลินมายิ่งขึ้น เพราะคุณจะได้เห็นแอลป์ที่มีหิมะปกคลุมยอดและสีสันของใบไม้ร่วง ร้านกาแฟใกล้ ๆ สวนมีที่นั่งกลางแจ้งให้คุณเลือกอร่อยกับกาแฟร้อนแก้วโปรดพร้อมบรรยากาศที่สวยงามนี้ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้ซ่อนตัวจากนั่งท่องเที่ยวคนอื่น ๆ และเป็นการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยม
หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ
เราแนะนำให้คุณนั่งรถบัสไปหมู่บ้านพื้นเมืองแห่งนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจากสถานีรถบัสโนฮิ และราคาประมาณ ¥100 ต่อคน โดยคุณสามารถซื้อตั๋วรวมค่าเข้าหมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะในราคา ¥800 ได้อีกด้วย
ถ้าคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับหมู่บ้านชิรากาวะโก คุณจะนึกออกว่าจะพบกับอะไรที่หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เก็บรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของภูมิภาคฮิดะ ที่แห่งนี้มีบ้านส่วนตัวกว่า 30 หลังรวมถึง 4 มรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติศึกษาตั้งอยู่รอบ ๆ ฮิดะและในบ้านเหล่านี้มีการจัดแสดงเครื่องแบบดั้งเดิมกว่า 8,000 ชิ้น และการรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันจะสร้างบรรยากาศสุดพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง และคุณจะได้พบกับหงส์ที่มาทักทายคุณบริเวณสระน้ำโกอามิ นอกจากนี้คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับบ้านเก่าที่มีฉากหลังเป็นใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
เส้นทางเดินป่า
นี่เป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับการเดินป่าในเส้นทางนอกเมือง
น้ำตกอุตสึเอะ ชิจูฮาทากิ
สวนสาธารณะจังหวัดแห่งน้ำตกอุตสึเอะ ชิจูฮาทากิเป็นหนึ่งใน " 33 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของฮิดะและมิโนะ" โดยตั้งอยู่ห่างจากทาคายามะเพียง 30 นาทีโดยรถบัสฟรีที่วิ่งจากสถานี JR Hida Kokufu ซึ่งต้องนั่งรถไฟจากทาคายามะไป 12 นาที และเส้นทางเดิน 880 เมตรเป็นส่วนหนึ่งของชินรินโยคุ สีสันของฤดูใบไม้ร่วงในบริเวณนี้เริ่มต้นช่วงสิ้นเดือนตุลาคมเพราะตั้งอยู่ในพื้นที่สูง
เส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติและเพิ่มความสดชื่นให้แก่คุณ เมื่อคุณมาและได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติแล้วละก็ คุณจะมีวันที่น่าจดจำในฤดูใบไม้ร่วง
ซากปราสาทมัตสึคุระ
ถ้าคุณอยากเดินเล่นกลางแจ้งต่ออีกนิด ลองไปเที่ยวซากปราสาทมัตสึคุระ ซึ่งเดินขึ้นเขาไปเพียง 25 นาทีและถ้าคุณเดินไปถึงด้านบนก็จะได้วิวของภูเขาโนริคุระและแนวเทือกเขาชินโฮทากะเป็นของรางวัลด้วยล่ะ
การปีนซากปราสาทนี้คุณจะได้เดินผ่านก้อนหินที่เคยเป็นกำแพงเก่าที่กระจัดกระจายอยู่ ซึ่งก้อนหินเหล่านี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
สวนสาธารณะชิโรยามะและซากปรักหักพังของปราสาท
ปราสาททาคายามะนั้นไม่มีตัวปราสาทให้คุณได้เห็นแล้ว แต่ว่าซากปรักหักพังนั้นยังอยู่ที่ดั้งเดิมของปราสาท ซึ่งที่แห่งนี้เป็นทางเดินซึ่งคนในท้องถิ่นมักมาเดินเล่นหรือปีนเขากัน เส้นทางชิโรยามะใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง คุณยังเดินทางไปยังสวนสาธารณะนิโนะมุระเพื่อตามล่าใบไม้และลองทานโอเด้ง โอเด้งเป็นเมนูของลูกชิ้นปลา เต้าหู้ และหัวไช้เท้า
ขนมหวาน
ระหว่างที่เดินรอบ ๆ ตัวเมือง ลองเติมพลังด้วยของหวานดูกันดีมั้ยคะ เกาลัดและสุกุนะ พัมคินมักถูกนำมาใช้ในการสร้างสรรค์เป็นขนมหวานฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะเป็น คุริโยเสะ (เยลลี่ถั่วแดงและเกาลัด) คุริคินโด (ขนมหวานเกาลัดบด) พุดดิ้ง สุกุนะ พัมคิน ชีสเค้กสุกุนะ พัมคิน และพายแอปเปิ้ลฮิดะ ถ้าคุณอยากเพิ่มพลังแล้วล่ะก็อย่าลืมชิมโกเฮย์ โมจิ (แป้งพร้อมซอสและเมล็ดพืช)
วิธีการเดินทางจากนาโกย่ามาทาคายามะ
จากนาโกย่า การเดินทางที่เร็วที่สุดไปยังทาคายามะ คือ รถไฟ JR Wide View Hida ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที นอกจากนี้ ยังนั่งรถบัสไปทาคายามะได้อีกด้วย ค่ารถไฟ (ขาเดียว) ¥5,610 ค่ารถบัสขาเดียวไปทาคายามะ ¥3,100
บทสรุป
ไม่ว่าคุณจะเดินหรือปั่นจักรยาน บรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงเหล่านี้ก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ทาคายามะเต็มไปด้วยสถานที่สุดสวยงามมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัสและดื่มด่ำเมื่อได้ลองทานของหวานสุดแสนอร่อย ทาคายามะที่ล้อมรอบไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติเป็นเมืองที่คุณจะได้ใช้เวลาชื่นชมความงดงามของสีสันของฤดูใบไม้ร่วง
Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information