| Paul Deckret

เดินทางย้อนเวลาไปกับหมู่บ้านลับแห่งนากาโนะ

บริเวณทางเหนือของนากาโนะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวเล็ก ๆ หมู่บ้านแห่งนี้เข้าถึงได้โดยการเดินเท้าเท่านั้นและเพราะหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานทำให้คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตที่แสนมหัศจรรย์

พีระมิดของคายาหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับมุงหลังคาแบบดั้งเดิม

ญี่ปุ่น: ดินแดนแห่งขั้วตรงข้าม

ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในนาม "ดินแดนแห่งขั้วตรงข้าม" จากการผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยที่ก่อให้เกิดภูมิทัศน์และวัฒนธรรมเฉพาะตัวของญี่ปุ่น ความขัดแย้งของเทคโนโลยีและประเพณีเป็นเรื่องปกติและมักมีให้เห็นเคียงข้างกันเสมอ อย่างที่คุณจะพบร้านสตาร์บัคส์ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของวัดหลายร้อยปี

หัวมันและเสื้อผ้าถูกนำออกมาตากแห้งในแสงแดดยามบ่าย : ห่างไกลจากชีวิตในเมือง

ความแตกต่างที่โดดเด่นที่สุด คือ เมืองที่มีชีวิตชีวาและประชากรที่หนาแน่นกับพื้นที่ชนบทที่เงียบสงบและมีประชาชนเบาบาง ซึ่งความแตกต่างโดยสิ้นเชิงนี้ ทำให้บางครั้งเมื่อการเดินทางไปตามชนบทของญี่ปุ่นจะให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปประเทศที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่หมู่บ้านแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของนากาโนะมีเอกลักษณ์อย่างไม่น่าเชื่อ คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลาไปกับหมู่บ้านลับแห่งนี้

มากิ: หมู่บ้านที่เวลาหยุดนิ่ง

ใบไม้เปลี่ยนสีปกคลุมภูเขาและปกคลุมเหนือหมู่บ้านมากิ

ตัวอักษรที่รวมกันเป็นชื่อมากิ พ้องเสียงกับคันจิ อักขระที่สร้างชื่อมากินั้นกล่าวกันว่าเป็นคำพ้องเสียงสำหรับคันจิ 牧 มีความหมายว่า "ดินแดนแห่งม้า" โดยสันนิษฐานว่าพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นทุ่งสำหรับเลี้ยงม้าของกองทัพ และช่วงศตวรรษที่ 17 ถึง 19 ก็เป็นทุ่งเลี้ยงม้าสำหรับไดเมียวสมัยเอโดะ

อะรายาชิกิ (Arayashiki) อาคารที่ใหญ่ที่สุดของมากิและจุดรวมพลของคนในหมู่บ้าน

ทุกวันนี้บริเวณนี้มีความเรียบง่ายแต่สวยงามเป็นพิเศษ คุณจะได้พบกับบ้านเรือนเพียงไม่กี่หลังกระจายอยู่ทั่วบริเวณ รวมถึง อาคารหลักหลังคามุงจากขนาดใหญ่ที่เรียกว่า 'อะรายาชิกิ' ซึ่งล้อมรอบด้วยข้าว คายะ และไร่ผัก มากิถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน และมีวิวแนวสันเขาขนาดใหญ่และคุณจะได้พบกับ 'ยอดเขา 3 แห่งของฮาคุบะ' ซึ่งมองเห็นในวันที่อากาศแจ่มใส ที่แห่งนี้มีเสน่ห์เป็นอย่างมากจึงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ชมวิวยอดเขา 3 แห่งของฮาคุบะจากมากิ: ฮาคุบะ ยาริกาทาเคะ, ชาคุชิ-ดาเคะ, และชิโรมา-ดาเคะ

มากิอยู่ที่ไหน

มากิตั้งอยู่ในบริเวณกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบและภูเขาหลายลูก

มากิตั้งอยู่ชายขอบหมู่บ้านโอทาริ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองแห่งสกีรีสอร์ทอย่างฮาคุบะ และเมืองอิโตะอิกาวะ ของจังหวัดนิกาตะ โอทาริเป็นเมืองของชาวพื้นเมืองซาโตะยามะซึ่งอาศัยบริเวณตีนเขาของแอลป์ทางเหนือ ซึ่งมีประชากรเพียง 3,000 คนกระจายอยู่ใน 54 หมู่บ้าน ที่มีขนาดแตกต่างกันไป มากิเป็นหนึ่งในหมู่บ้านเหล่านั้น ตั้งรกรากบนพื้นที่เล็ก ๆ ที่ชายป่าทางตะวันออกของหุบเขาแม่น้ำ "ฮิเมะกาวะ" ซึ่งมีความชันกว่า 900 เมตร

สิ่งที่ทำให้มากิมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

ในปัจจุบันหรือช่วงเวลาแห่งความสะดวกสบายเอาชนะทุกอย่างนั้น มากิเป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่เป็นข้อยกเว้น ชีวิตที่นี่ลำบาก เป็นไปอย่างช้า ๆ และสุขุม ซึ่งเป็นนี่เป็นจุดขายของสถานที่แห่งนี้

ห้ามรถโดยสารเข้า

เส้นทางการเดินไปยังมากิเริ่มต้นที่ป่าซีดาร์ก่อนจะผ่านป่าที่อุดมไปด้วยพืชพันธุ์ท้องถิ่นในเวลาต่อมา

แม้มากิจะซ่อนตัวอยู่ในบริเวณห่างไกลของโอทาริและอยู่ห่างไกลจากผู้คนและความสะดวกสบายต่าง ๆ ที่แห่งนี้ไม่มีถนนลาดยางมาถึง ชาวบ้านและผู้มาเยือนต้องเดินไปตามทางเดินหินและดินประมาณ 2.5 กม. ที่จะค่อย ๆ แคบลง ความชันของเส้นทางนี้อยู่ที่ 300 ม. นอกจากนี้ ยังเพิ่มความยากขึ้นอีกระดับเพราะพื้นที่นี้ได้รับการประกาศจากรัฐบาลว่าเป็น 豪雪地帯 หรือ "พื้นที่หิมะตกหนัก" ซึ่งจะปกคลุมไปด้วยหิมะสูงหลายเมตรในช่วงฤดูหนาว

หมู่บ้านห่างไกลที่นำชีวิตชีวากลับมา

มากิเป็นแหล่งกิจกรรมที่สนุกสนาน และสถานที่แสนเงียบสงบสำหรับการผ่อนคลายสำหรับคุณ โดยคุณเลือกได้จากช่วงเวลาการเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้นั่นเอง

หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ต่างจากภูมิภาคเกษตรกรรมเล็ก ๆ หลายแห่งที่กำลังประสบปัญหาสังคมสูงอายุและประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว คนรุ่นใหม่ย้ายออกจากบริเวณเหล่านี้ไปทำงานในเมืองใหญ่ มากิเคยเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาแต่แล้วก็ค่อย ๆ จืดจางลงตามกาลเวลา ในปี 1968 โรงเรียนประถมศึกษาในชุมชนก็ปิดกิจการลง ปี 1971 มากิเหลือครอบครัวในหมู่บ้านเพียง 12 ครอบครัวเท่านั้น และสิ้นปี 1972 ชาวบ้านกลุ่มสุดท้ายได้เดินทางออกจากมากิไป ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง

ไม้ที่ถูกตัดเพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในปีนี้ มีการก่อสร้างโรงเลื่อยซึ่งใช้พลังงานน้ำในมากิ

ปี 1974 องค์กรเกษตรกรรมที่ไม่แสวงหาผลกำไรของชุมชน หรือในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ 'เกียวโด กาคุชะ' ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยใช้หลักการทำงานอย่างอิสระและการพึ่งพาตนเอง ในปี 1978 "ฟาร์ม" แห่งที่ 3 กำเนิดขึ้นที่มากิโดยการผลักดันของกลุ่มนี้ ต่อมาสมาชิกหมุนเวียนทั้งระยะสั้นและระยะยาวเข้ามาดูแลโครงการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปกติจะมีชาวบ้านที่อาศัยในมากิประมาณ 20 คน แต่จำนวนชาวบ้านมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ชาวมากิและอาสาสมัครร่วมกันเปลี่ยนหลังคา

การใช้ชีวิตแบบมีชุมชนเป็นศูนย์กลางและการพึ่งพาตนเอง

ข้าวโพดที่ปลูกในท้องถิ่นถูกนำมาตากไว้ที่หน้าต่างให้แห้งก่อนฤดูหนาวจะมาถึง

หนึ่งในเป้าหมายหลักของชาวมากิ คือ การลดการพึ่งพาจากภายนอกให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ แรงงาน และอื่น ๆ และมุ่งเน้นที่การสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในชุมชน พวกเขาไม่ได้พึ่งพาตนเองทั้งหมดหรือถูกละทิ้งจากโลกภายนอกโดยสิ้งเชิง เพราะหมู่บ้านแห่งนี้มีไฟฟ้าเข้าถึง แต่อาหารปลูกโดยชาวบ้าน น้ำมาจากลำธารในบริเวณใกล้เคียง และเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับทำความร้อน คือ ฟืนที่มาจากท้องถิ่น

เกาลัดม้าญี่ปุ่น เป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวโอทาริซึ่งทำมาใช้ทำอาหารได้อย่างหลากหลายวิธี

อาชีพเกษตรกรรมเป็นพื้นฐานของชีวิตชาวมากิ ทุกคนทำงานร่วมกันตามความถนัดของตน การทำฟาร์มแบบออร์แกนิก มีการเลี้ยงแพะ เป็ด และไก่ มีการเก็บเกี่ยวผลผลิต ถั่ว และผลเบอร์รี่จากเนินเขาใกล้เคียง ช่วงฤดูหนาวนั้นมีอุณหภูมิที่เลวร้าย ทำให้ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อเตรียมการก่อนฤดูหนาวอันหนาวเย็นยาวนานจะมาเยือน ในเดือนที่หิมะโปรยปราย การกวาดหิมะนั้นต้องทำต่อเนื่องไม่มีจุดสิ้นสุด นอกจากนี้ เวลายังถูกใช้ไปกับงานฝีมือต่างๆ เช่น ไม้ไผ่สานและผลิตภัณฑ์ฟางเพื่อใช้ในมากิหรือขายเพื่อหากำไร

ในมากิมีสัตว์เพียงไม่กี่ชนิด เช่น เป็ดและแพะ

การเดินทางไปมากิจะโอเคมั้ยนะ

กลุ่มของนักเดินป่าชาวญี่ปุ่นกำลังเดินทางไปยังมากิซึ่งจัดการเดินป่าโดยรัฐบาลท้องถิ่น

คำตอบคือ “ได้สิ!” ตามหลักภูมิศาสตร์ มากิถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก แต่ชาวมากินั้นยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เว็บไซต์ของมากินั้นมีการแปลด้วยระบบอัตโนมัติซึ่งคุณจะพบได้ที่หน้าเว็บไซต์ของรัฐบาลหมู่บ้านโอทาริ แนะนำให้ประชาชนโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานการท่องเที่ยวเพื่อสอบถามข้อมูล อาจไม่จำเป็น 100% ที่จะโทรหาก่อนที่จะเดินทางไปมากิ แต่พวกเขาควรจะสามารถให้คำแนะนำพื้นฐาน (เป็นภาษาอังกฤษที่ไม่สมบูรณ์) หรือตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับเส้นทางได้ พวกเขายังสามารถตั้งค่าคำแนะนำให้คุณได้หากต้องการ พวกเขาอาจจะสามารถจัดที่พักค้างคืนในห้องใดห้องหนึ่งที่มักเป็นเจ้าภาพอาสาสมัครหรือผู้มาเยือน

มากิไม่ได้ตัดความสะดวกสบายทั้งหมดออกไป มีการนำเครื่องจักรมาใช้เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตในบริเวณนี้ง่ายดายยิ่งขึ้น

การเดินทางสู่มากิ

การเดินทางสู่มากินั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก คือ การเดินทางด้วยรถโดยสารส่วนตัวหรือรถโดยสารสาธารณะไปยังโอทาริ จากนั้นเดินป่าไปยังที่ตั้งของมากิ ศึกษาวิธีการเดินทางเพิ่มเติมได้ด้านล่าง

การเดินทางสู่โอทาริ

จากที่กล่าวมา มากิตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอทาริทางเหนือของนากาโนะ สถานีรถไฟหลักของโอทาริ คือ Minami Otari ซึ่งตั้งอยู่บนรถไฟเส้น JR Oita การเดินทางที่เร็วและง่ายที่สุดจากนาโกย่าไปโอทาริ คือ นั่ง Limited Express Wide-View Shinano บนรถไฟสาย JR ไปยังสถานี Matsumoto และเปลี่ยนสายไป Limited Express Azusa การเดินทางด้วยวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงและมีค่าใช้จ่ายประมาณ ¥8,000 สำหรับขาเดียว ค่าโดยสารของรถไฟที่ช้ากว่าหรือการเดินทางด้วยรถบัสและรถไฟมีราคาถูกกว่า แต่ก็ใช้เวลามากขึ้น

การเดินป่าสู่มากิ

ป้าย "90 นาทีสู่มากิ" ต้อนรับคุณอยู่ที่จุดเริ่มต้น

เส้นทางการเดินป่านั้นชัดเจนและง่ายต่อการเดินไปยังมากิ ส่วนที่ยากที่สุด คือ การเดินทางไปยังจุดเริ่มต้น หากคุณเริ่มต้นจากสถานี Minami Otari เมื่อคุณออกจากสถานีให้เดินตรงไปโดยให้รางรถไฟอยู่ทางซ้ายมือและแม่น้ำทางขวามือ คุณต้องข้ามรางรถไฟซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ จากนั้นให้เลี้ยวขวาที่ทางแยก T

จากตรงนั้นให้คุณเดินไปตามถนนและเดินขึ้นประมาณ 600 ม. ช่วงแรก ด้านซ้ายมือของคุณ คือ อพาร์ตเมนต์หลายหลังและอาคารอื่น ๆ ก่อนเข้าสู่ถนนที่มีกำแพงคอนกรีตทางด้านซ้ายและรั้วทางขวา หลังจากนั้น คุณจะพบกับทางโค้งและเดินขึ้นเขาในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อมุ่งหน้าไปทางนั้นอีกประมาณ 400 เมตร คุณเข้าสู่ถนนลูกรังที่มีป้ายไม้เล็ก ๆ เขียนด้วยตัวอักษรจีนว่ามากิ จากตรงนี้คุณต้องเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 90 นาที

ระหว่างการเดินทางไปยังมากิ คุณจะได้เพลิดเพลินกับป่าที่สวยงาม

เส้นทางสำหรับการเดินนั้นผ่านป่าสนซีดาร์ไปยังจุดยอด จากนั้นเดินลงและข้ามแม่น้ำสายเล็ก ๆ ก่อนปีนขึ้นไปอีกทางหนึ่ง ก่อนเดินลงและข้ามแม่น้ำสายที่สอง และปีนรอบสุดท้ายก่อนเดินทางมาถึงมากิ

Related Articles Related Articles