| Jessica Piora & Yuichi Kobayashi

มัตสึชิโระ (Matsuhiro) เมืองเก่าของซามูไรในจังหวัดนากาโน่

มัตสึชิโระเคยเป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดนากาโน่ (ในปี 1966 มัตสึชิโระได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนากาโน่ในชื่อ มัตสึชิโระมาจิ) ซึ่งมีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ที่เคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของกลุ่มซานาดะ (Sanada Clan) ที่สืบทอดกันมากว่า 10 รุ่น

ในปัจจุบัน คุณยังสามารถพบเห็นอาคารและอิทธิพลของยุคเอโดะที่หลงเหลืออยู่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษอันงดงามของย่านนี้ของเมืองนากาโน่

อาคารโบราณ

ที่มัตสึชิโระ คุณจะได้พบกับบ้านเรือนยุคเอโดะที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี คุณจะได้พบกับอาคารโบราณมากมายและบรรยากาศของเมืองก็ถูกรักษาให้อยู่ในสภาพเดิม

ในขณะที่คุณเดินไปตามถนนเหล่านี้ คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยุคเอโดะและคุณยังจินตนาการว่าเป็นซามูไรในยุคญี่ปุ่นโบราณได้อีกด้วย

ซากปรักหักพังของบ้านซาคุมะ โชซัง (Sakuma Shozan)

ซาคุมะ โชซัง (1811 - 1864) นักวิชาการและนักการเมือง

เขามีความหลงใหลในการศึกษาเกี่ยวกับฮอลันดาแต่เขาก็ศึกษาตำราภาษาจีนโดยเฉพาะยุทธศาสตร์ทางทหารด้วยเช่นกัน

เขามีความคิดว่าจะ "รักษาจิตวิญญาณของญี่ปุ่นพร้อมกับการผสมผสานเทคนิคตะวันตก"

เขาเป็นผู้ประดิษฐ์โทรเลขเครื่องแรกของญี่ปุ่น นอกจากนี้ เขายังศึกษาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ทางการทหารของตะวันตกและส่งต่อความรู้เหล่านี้ให้กับโชกุน

ซากปรักหักพังของบ้านของเขายังคงอยู่ในมัตสึชิโระและเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

บ้านของโชซัง

บ้านของโชซัง

ศาลเจ้าโชซัง (Shozan Shrine)

บริเวณไม่ไกลจากบ้านของเขามีศาลเจ้าที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าโชซัง

ศาลเจ้าสร้างขึ้นเมื่อปี 1938 เพื่อรำลึกถึงโชซังจึงมีการตั้งรูปปั้นของโชซังขี่ม้าและอาคารด้านในสร้างด้วยไม้สนไซเปรสญี่ปุ่นอันงดงาม

ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นจากความพยายามของคนจำนวนมากและผลลัพธ์ก็ออกมายิ่งใหญ่มาก

มีคำกล่าวว่าบริเวณที่สร้างศาลเจ้านั้น คือ จุดที่โชซังใช้ในการแบ่งปันความรู้และถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของญี่ปุ่นกับเพื่อน ๆ ของเขา

ทางเข้าศาลเจ้าโชซังและรูปปั้นของโชซัง

ภายในศาลเจ้าคุณจะได้พบกับสระน้ำปลาคาร์ปแบบดั้งเดิมที่สวยงามล้อมรอบไปด้วยต้นไม้

สระน้ำปลาคาร์ปแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม

ภายในสระน้ำมีรูปปั้นกบ (คาเอรุ) และป้ายที่เขียนว่า "กลับบ้านอย่างปลอดภัย" (บุจิ นิ คาเอรุ) - คำว่า คาเอรุ ในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำพ้องเสียงซึ่งมีความหมายว่า "กบ" และ "กลับ (บ้าน)" (ผู้แปล)

ระหว่างที่คุณอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ คุณสามารถขอพรให้กบปกป้องให้เดินทางอย่างปลอดภัย

การขอพรให้เดินทางปลอดภัย

สำนักงานใหญ่จักรวรรดิใต้ดินมัตสึชิโระ

หลุมหลบภัยที่สร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

หลุมหลบภัยสร้างขึ้นช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเป็นที่หลบภัยของสมาชิกหลักรัฐบาลในกรณีฉุกเฉิน

การก่อสร้างเริ่มต้นในปี 1944 แต่หยุดการก่อสร้างไปเมื่อสงครามสิ้นสุดลงแม้ว่าหลุมหลบภัยสร้างใกล้จะสำเร็จแล้ว

หลุมหลบภัยตั้งอยู่ในภูเขามาอิซุรุยามะ (Mt. Maizuruyama) และยาวเกือบ 10 กิโลเมตร ระหว่างการก่อสร้างมีการใช้แรงงานหนัก มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและสร้างความเสียหายแก่ภูเขา 3 ลูกในบริเวณมัตสึชิโระ ในปี 1989 มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นว่ายังคงมีสงครามอยู่และผู้คนจะได้เห็นถึงความสำคัญของสันติภาพ

หลุมหลบภัยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของสันติภาพ

หลุมหลบภัยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 9:00 น.ถึง 16:00 น. (คุณต้องมาถึงบริเวณหลุมหลบภัยก่อน 15:30 น.) และภายในหลุมแห่งนี้มีมาตรการความปลอดภัยมากมาย

ในปัจจุบัน หลุมหลบภัยแห่งนี้ปิดให้บริการเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด 19

บ้านพักโยโคตะ (Yokota Residence)

อีกสถานที่แห่งนึงที่ปิดทำการชั่วคราว คือ บ้านพักโยโคตะซึ่งสร้างเมื่อต้นศตวรรษที่ 19 และยังคงอยู่ในสภาพเดิม! ในช่วงเวลาปกติ บ้านพักแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเช้าชมระหว่างเวลา 9:00 น. ถึง 16:00 น. ถ้าคุณอยากเยี่ยมชมบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแล้วละก็ นี่คือที่ของคุณ!

บรรยากาศบ้านพักโยโคตะจากด้านนอก

ศาลเจ้าทาเคยามะ ซุอิโกะ อินาริ (Takeyama Zuigo Inari Shrine)

ศาลเจ้าทาเคยามะ ซุอิโกะ อินาริ เป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่สวยงามในบริเวณมัตสึชิโระ เมื่อคุณมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่งดงามของเมือง

ศาลเจ้าทาเคยามะ ซุอิโกะ อินาริ (Takeyama Zuigo Inari Shrine)

ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับอินาริเทพเจ้าผู้ดูแลการเพาะปลูกข้าวพร้อมความเชื่อว่าจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสารของอินาริ และนั่นคือเหตุผลที่คุณเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายในศาลเจ้าแห่งนี้

อาคารหลักของศาลเจ้า

นี่คือ อาคารหลักของศาลเจ้า

เราเจอป้าย โรคุมอน โก (Rokumon Go) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของสำนักงานการท่องเที่ยวของเมืองซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ประจำกลุ่มซานาดะ (ที่เรียกว่า โรคุมอน) และโปเกมอน โก (Pokemon Go)

โรคุมอน โก ! (Rokumon Go)

เส้นทางที่นำไปสู่รูจิ้งจอกหรือ Fox Hole

เมื่อคุณปีนขึ้นไปด้านบนของภูเขาและเยี่ยมชมส่วนหลักของศาลเจ้า และถ้าคุณเดินต่อไปอีกนิดนึงจะพบกับรูจิ้งจอก!

รูจิ้งจอก

หรือแค่จะมาชมวิวอันงดงาม

วิวของมัตสึชิโระมาจิจากศาลเจ้าทาเคยามะ ซุอิโกะ อินาริ

ชินโคคิว (Shinkokyu)

หลังจากเดินมาเป็นเวลานาน คุณเริ่มหิวแล้วหรือยัง! เราแนะนำให้คุณรู้จักร้านอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อว่า ชินโคคิว (Shinkokyu)

เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้เป็นหญิงสาวอัธยาศัยดีผู้ที่มีความมุ่งมั่นกับการทำอาหาร เธอจึงเริ่มแบ่งปันสูตรอาหารของเธอกับลูกค้า

แนวความคิดของเธอ คือ การใช้วัตถุดิบออร์แกนิกคุณภาพดีจากท้องถิ่น เพื่อให้อาหารออกมาอร่อยและดีต่อสุขภาพ.

ชินโคคิว (เป็นการเล่นคำซึ่งเสียงของคำนี้มีความหมาย "หายใจเข้าลึก ๆ" แต่เขียนด้วยตัวอักษรที่มีความหมายว่า "หัวใจ ความสุข และการกิน")

วัตถุดิบท้องถิ่นที่เป็นวัตถุดิบออร์แกนิก

ทุกวันอาทิตย์ ชินโคคิวได้กลายเป็นร้านข้าวแกงกะหรี่

ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับมัตสึชิโระ

ชาวมัตสึชิโระมีความภูมิใจที่เมืองของพวกเขาได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความอบอุ่นที่ทุกคนทักทายกันและกัน!

มัตสึชิโระจัดกิจกรรมและเทศกาลเพื่อรำลึกถึงกลุ่มซานาดะที่ปกครองบริเวณนี้มาเป็นเวลานาน หนึ่งในนั้นคือเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงเพื่อเฉลิมฉลองกลุ่มซานาดะ มัตสึชิโระจูมังโกคุ (Matsushiro Autumn Sanada Clan Jumangoku Festival) ซึ่งจัดในวันเสาร์อาทิตย์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมที่คุณจะได้เห็นผู้คนเดินขบวนสวมใส่เสื้อผ้าแบบดั้งเดิมและแห่สัญลักษณ์ของกลุ่มซานาดะ (โรคุมอน)

การเดินทางจากนาโกย่าไปมัตสึชิโระ

จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟ Shinano Express และลงที่สถานี Nagano

จากสถานี Nagano นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Matsushiro Koukou (รถบัสเลขที่ 30)

บทสรุป

มัตสึชิโระเคยเป็นเมือง ๆ หนึ่งซึ่งถูกปกครองโดยกลุ่มซานาดะ ก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนากาโน่เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ยังรักษาลักษณะเฉพาะตัวเอาไว้

เมื่อคุณมาเที่ยวมัตสึชิโระ คุณจะได้เพลิดเพลินกับอาคารเก่าแก่จากยุคเอโดะ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ให้คุณได้ชมอีกด้วย หรือคุณจะเลือกเพลิดเพลินกับวันเงียบ ๆ กับเมืองในภูเขาอันเงียบสงบที่งดงามแห่งนี้

เราหวังว่าคุณจะมีเวลาดี ๆ ที่มัตสึชิโระ

Related Articles Related Articles