หมู่บ้านฮาคุบะที่ตั้งอยู่บริเวณนากาโน่ตอนเหนือซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับการเล่นสกีซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 และเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทที่ยอดเยี่ยมทั้ง 5 อย่างไรก็ตาม ภูเขาสูงอันตระการตาเป็นฉากหลังเหนือนาข้าวของฮาคุบะซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับกีฬากลางแจ้งหลากหลายชนิดตลอดทั้งปี

เส้นทางการปีนเขาที่กว้างขวางนำไปสู่แนวสันเขาที่สูงตระหง่าน ก่อนที่จะเดินต่อไปยังยอดเขาต่าง ๆ เพื่อสำรวจความมหัศจรรย์ของสภาพแวดล้อมแบบอัลไพน์สูงของญี่ปุ่นผ่านการเดินป่าซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับฤดูร้อน

การปีนเขาที่พิเศษที่สุด คือ เส้นทางสู่ยอดเขาคารามัตสึที่ความสูง 2,696 เมตรซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องรอจนถึงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมเพื่อจะได้ปีนเขาแห่งนี้เพราะภูเขาคารามัตสึนั้นได้รับความนิยมมากกว่าเพียงช่วงฤดูร้อน นักปีนเขาผู้มีประสบการณ์จะเดินทางมายังเนินหิมะพร้อมอุปกรณ์อันครบครันเพื่อสนุกสนานกับบรรยากาศอันน่าทึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบ Zansetsu (ฤดูใบไม้ผลิที่ยังคงมีหิมะอยู่)

แนวเทือกเขาอุชิโระ ทาเทยามะ (The Ushiro - Tateyama Mountrain Range)

แนวเทือกเขายาวที่ขรุขระเป็นฉากหลังของฮาคุบะ มีชื่อว่า แนวเทือกเขาอุชิโระ ทาเทยามะเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือโดยเน้นส่วนที่ต่อเนื่องจากเขื่อนคารุเบะไปจนถึงทะเลญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อมาจากตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามกับเทือกเขาทาเทยามะ

ภูเขาชิโรอุมะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูงอยู่ที่ 2,932 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งเป็นจุดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ชื่อของภูเขาชิโรอุมะมาจากการออกเสียงตัวอักษรอีกแบบหนึ่งของหมู่บ้านฮาคุมะ

ภูเขาคารามัตสึ

ภูเขาคารามัตสึเป็นหนึ่งในภูเขาที่เข้าถึงได้ง่ายและได้รับความนิยมที่สุดในเขตฮาคุบะ ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางแนวเทือกเขาช่วงประมาณ 10 กิโลเมตรทางใต้ของภูเขาชิโรอุมะซึ่งอยู่เหนือสกีรีสอร์ท Happo-Oneพอดีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้การเดินทางไปยังยอดเขาคารามัตสึ นักท่องเที่ยวต่างชาติมักออกเสียงคำว่า One ใน Happo-One ผิดเป็นตัวเลขในภาษาอังกฤษที่สะกดเหมือนกันแต่จริง ๆ แล้ว คำนี้อ่านว่า โอเนะ ซึ่งแปลว่า "สันเขา" ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง ชื่อนี้ได้มาจากสถานที่ตั้งของรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนสันเขาที่แหลมคมเป็นแนวยาวจากบริเวณเชิงเขาไปจนถึงยอดเขา

การปีนเขาคารามัตสึในฤดูใบไม้ผลิ

การเริ่มต้น

นักปีนเขาที่ต้องการเดินทางไปยังภูเขาคารามัตสึนั้นต้องเริ่มต้นจากบริเวณฐานของสกีรีสอร์ท Happo-One (ความสูง 760 เมตร) เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าอดัม (Adam) ประมาณ 8 นาที หลังจากลงจากกระเช้าที่สถานี Usagidaira(ความสูง 1,400 เมตร) ซึ่งคุณต้องฝ่าหิมะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนเปลี่ยนไปขึ้นลิฟต์ถัดไปหรือ Alpen Quad การนั่งกระเช้าลอยฟ้าหรือเดินไปขึ้นลิฟต์พร้อมกระเป๋าสะพายขึ้นหลังอาจดูแปลกตา แต่การขึ้นลิฟต์โดยสวมรองเท้าเดินป่าเพียงคู่เดียวอาจดูแปลกยิ่งกว่า

การนั่งลิฟต์กลางแจ้งขึ้นไปยังด้านบนของรีสอร์ทเป็นอะไรที่รื่นรมย์มาก ระหว่างทางมีภาพและเสียงของนักเล่นสกีและสโนวบอร์ดที่กำลังสนุกสนานกับเนินหิมะให้คุณได้เพลิดเพลิน ยอดเขาที่อยู่ไกล ๆ ด้านหลังคุณไปทางทิศเหนือและทิศตะวันออกนั้นงดงามเกินบรรยายและเมื่อคุณเดินทางถึงจุดลงลิฟต์แล้วคุณจะได้พบกับบรรยากาศอันตระการตา

จากตรงนี้ คุณจะมองเห็นหิมะปกคลุมภูเขาโกริวและภูเขาคาชิมายาริทางซ้ายของคุณ ภูเขาชิโรอุมะและภูเขาโคเร็นเกะ (Mt. Korenge)อยู่ทางขวาของคุณ แต่คุณต้องรอสักนิดก่อนจะพบกับคารามัตสึ

ที่ราบอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีชื่อว่า คุโรบิชิ ไดระ (Kurobishi-daira)เป็นจุดที่คุณเปลี่ยนไปนั่ง Grat Quad (1,680 เมตร) ซึ่งเป็น 5 นาทีสุดท้ายก่อนลงลิฟต์ที่กระท่อมภูเขา Happo-ike Sansoซึ่งอยู่ที่ความสูง 1,831 เมตร

ระหว่างทาง

วันที่อากาศแจ่มใสช่วงฤดูใบไม้ผลิ เส้นทางนี้จะเต็มไปด้วยนักปีนเขาจนน่าตกใจและบริเวณหน้า Hippo-ike Sanso ก็เปิดเป็นพื้นที่ให้นักปีนเขาและนักเล่นสกีมายืดเส้นยืดสาย ทานอาหาร จัดอุปกรณ์ ปรับอุปกรณ์และเตรียมตัวก่อนออกเริ่มเล่นสกี นอกจากนี้ ยังเป็นจุดสุดท้ายที่มีห้องน้ำ อย่าลืมทำธุระให้เรียบร้อยก่อนออกตัวด้วยล่ะ

จากตรงนี้ คุณยังต้องเดินอีก 5 กิโลเมตรที่ความชัน 900 เมตรก่อนจะถึงภูเขาคารามัตสึ คุณอาจไม่อยากอ้อยอิ่งอยู่นาน ตามแผนที่เดินเขาตามมาตรฐาน Yamatokogenที่บอกว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงเพื่อเดินทางไปยังยอดเขาและนี่เป็นเพียงเส้นทางเดียวเพื่อเดินไปยังบริเวณยอดเขาเท่านั้น แม้ว่าเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางปกติทั่วไปแต่เดินได้ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูที่มีหิมะเท่านั้น

ทางเดินจะเลียบไปตามยอดเขาทำให้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและไม่มีอะไรมาขวางความสวยงามเหล่านั้นกับคุณ ประโยชน์อีกอย่างนึงของเส้นทางเส้นนี้ คือ เป็นการบอกทิศทางที่เข้าใจได้ง่ายและช่วยกันไม่ให้นักปีนเขาเข้าใกล้บริเวณที่เกิดหิมะถล่มบ่อย ๆ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญให้นักปีนเขาจำนวนมากเดินทางมาตลอดฤดูหิมะ ยอดเขาอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงไม่ค่อยมีนักปีนเขามาเยี่ยมเยือนในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ

น่าเสียดายที่จุดชมวิวเส้นทางนี้อยู่บนภูเขาโล่ง (ภูเขาสูงที่มีที่ราบสูง) และมีลมแรงพัดเป็นประจำ ดังนั้น นักปีนเขาจึงต้องหันหลังให้กับยอดเขาเพราะไม่อาจทนกับความแรงของลมได้

ในฤดูร้อน เส้นทางส่วนใหญ่มีความกว้าง พื้นเป็นหิน เผยให้เห็นทางเดินแคบ ๆ ผ่านพืชพันธุ์หนาแน่น การปีนเขาช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้เดินบนหิมะเหนือก้อนหินและพุ่มไม้ นอกจากนี้ พื้นดินที่เปิดให้เดินนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหิมะละลายตามฤดูกาลและสภาพแวดล้อมอาจดูแตกต่างไปจากเดิมเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

ทิวทัศน์แบบพาโนรามางดงามเกินความเป็นจริงและคุณจะพบกับนักปีนเขาต่อแถวไปตามสันเขาทั้งด้านหน้าและด้านหลังของคุณซึ่งจะเพิ่มความน่าเกรงขามให้กับภูมิทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

ยิ่งคุณปีนขึ้นไป คุณก็จะพบวิวที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นซึ่งเผยให้เห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ เริ่มจากยอดเขาฮาคุบะทั้ง 3ตามด้วยยอดเขาคาเอราซุ โนะ เคนซึ่งมีความขรุขระน่ากลัวและปิดท้ายด้วยภูเขาสึรุกิและภูเขาทาเทยามะที่น่าทึ่งซึ่งมองเห็นได้จากกระท่อมภูเขาคารามัตสึ ดาเกะ โชโจ ซังโซะ

กระท่อมปิดให้บริการในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ยกเว้นช่วงวันหยุด Golden Week บริเวณหน้ากระท่อมคุณจะได้เห็นคารามัตสึตั้งอยู่ตรงหน้าของคุณ

การเดินช่วงสุดท้ายใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงและพื้นที่บนยอดนั้นมีความกว้างและเหมาะสำหรับการพักผ่อน ถ่ายรูปและดื่มด่ำกับความสำเร็จของคุณ (ถ้าลมไม่แรงมากจนเกินไป) ก่อนจะเดินทางกลับทางเดิมซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

รายละเอียดเส้นทาง (โดยประมาณ)

จุดเริ่มต้น/จุดสิ้นสุด: สกีรีสอร์ท Hakuba Happo-One

ระดับความสูงรวม: +/- 865 เมตร

ระยะทางรวม: 9.3 กิโลเมตร

เวลาเดินรวมโดยประมาณ*: 7 ชั่วโมง

คำเตือน

นี่ไม่ใช่การเดินป่าแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แต่เป็นการปีนเขาที่ลำบากเพราะสภาพที่ขรุขระซึ่งเป็นความท้าทายที่เกิดในทุกฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีความอันตรายจากสภาพอากาศ ความอ่อนล้า ระดับความสูงและสภาพแวดล้อม รวมทั้งอันตรายเฉพาะตัวจากการปีนหิมะ ได้แก่ ความเสี่ยงที่เกิดจากหิมะถล่ม การลื่นล้ม ปัญหาอื่น ๆ อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าฤดูหนาว นอกจากนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนในเมืองหรือฤดูใบไม้ผลิบริเวณเชิงเขา คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับอากาศที่หนาวเย็นในเทือกเขาแอลป์ด้วยเช่นกัน

อย่าลืมพิจารณาสภาพอากาศ ความสมบูรณ์ของร่างกาย ประสบการณ์ของคุณอุปกรณ์ของคุณ (ขวานน้ำแข็ง ตะปู) และเสื้อผ้าก่อนที่จะเริ่มการปีนเขา นอกจากนี้ อย่าลืมส่งแผนการปีนเขาที่เหมาะสม* ซึ่งจะเพิ่มเวลาสำหรับการขึ้นลิฟต์ไปยังยอดเขาและกลับไปยังรีสอร์ทก่อนลิฟต์ตัวสุดท้ายจะกลับลงมา (*จำเป็นต้องมี นอกจากนี้ยังต้องมีเข็มทิศที่เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่มีประโยชน์สำหรับการทำแผนและส่งแผนล่วงหน้า) ความยืดหยุ่นและการย้อนกลับตามสถานการณ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ และหากจำเป็นคุณควรร่วมทริปกับไกด์ที่มีประสบการณ์และมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม

การวางแผนสำหรับการปีนเขา

การเดินทางไปยังฮาคุบะ

วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดในการเดินทางจากนาโกย่าไปยังฮาคุบะ คือ การนั่งรถไฟด่วน Limited Express Shinano (มุ่งหน้า Nagano) บนเส้น JR ไปยังสถานี Matsumoto และเปลี่ยนไปยังรถไฟท้องถิ่นบนสาย Oito มุ่งหน้า Hakuba ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงและมีค่าโดยสาร 7,000 เยนต่อเที่ยวเดียวแบบที่นั่งจองล่วงหน้า คุณอาจเลือกเดินทางโดยมีการเปลี่ยนสายรถไฟมากกว่านี้ระหว่าง Matsumoto และ Hakuba ที่สถานี Shinano-Omachi รถไฟที่เร็วที่สุดที่ออกจากสถานี Nagoya คือ 7:00 น. และจะมาถึง Hakuba เวลา 11:06 น. เพราะมีเวลาจำกัดในการปีนคารามัตสึและเวลาทำการของลิฟต์จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะปีนไปถึงยอดเขาได้ในวันเดียวกัน

การใช้ลิฟต์ Happo

กระเช้าลอยฟ้าและลิฟต์ที่ใช้เพื่อเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินไปยังคารามัตสึ ซึ่งเรียกรวม ๆ กันว่า Happo Alpen Line และตั๋วไปกลับสำหรับนักสกีที่ไม่ได้พักที่รีสอร์ท (นักท่องเที่ยว นักเดินทางไกล หรือนักสกี) อยู่ที่ 3,800 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 1,850 เยนสำหรับเด็ก ตั๋วเที่ยวเดียวอยู่ที่ 2,500 เยนและ 1,000 เยนตามลำดับและทั้งหมดนี้มีจำหน่ายที่ศูนย์จำหน่ายตั๋วกระเช้าลอยฟ้า Happo

กระเช้าลอยฟ้า Adam ที่ฐานของรีสอร์ทเปิดให้บริการเวลา 8:00 น. และรอบสุดท้ายที่ออกมาจากด้านบนของ Happo คือ 15:20 น. การนั่งกระเช้าลอยฟ้าใช้เวลาประมาณ 20 นาทีแปลว่าคุณต้องเดินให้เสร็จภายใน 7 ชั่วโมง เราจึงแนะนำให้คุณเดินทางมาถึงให้เร็วที่สุดเพื่อจะต่อแถว ซื้อตั๋ว ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าให้เร็วที่สุด หรือง่าย ๆ คือ คุณควรเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่เลย

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินทาง

ปกติแล้ว ฤดูปีนเขา zansentsu เริ่มต้นในช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคมและสิ้นสุดจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม การเริ่มต้นของฤดูกาลนั้นมาพร้อมกับการสิ้นสุดของหิมะตามฤดูกาล เมื่อช่วงกลางวันยาวนานขึ้นและอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นนำไปสู่พื้นผิวหิมะที่กระชับและแน่นซึ่งง่ายต่อการเดิน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สกีรีสอร์ท Happo-One (และเส้นทาง Alpen) ยังคงเปิดให้บริการในฤดูหนาวจนถึงวันสุดท้ายของ Golden Week ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะปิดให้บริการชั่วคราวและเปิดอีกครั้งในฤดูร้อนอันเขียวชอุ่มในต้นเดือนมิถุนายน ถ้าคุณไม่อยากปีนขึ้นจากด้านล่างสุด คุณอาจต้องเผื่อเวลาเพื่อใช้ลิฟต์ก่อนสิ้นสุด Golden Week

Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information