| Bonnie Chow 

คู่มือการท่องเที่ยวภูมิภาคฮิดะ (Hida) ในช่วงฤดูร้อน: ท่องเที่ยวไปในธรรมชาติสีเขียวชอุ่มและดอกไม้บานสะพรั่ง

ช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมของทาคายาม่านั้นมีอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้นแต่ฝนและแสงแดดของฤดูร้อนก็เป็นหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้ช่วงต้นฤดูร้อนเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางมาเยือนทาคายาม่าเพราะองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ดอกไม้ประจำฤดูกาลมากมายเติบโตและเผยความงดงามออกมา การเดินป่าเข้าไปชมธรรมชาติอันน่าทึ่งเหล่านี้เป็นการหลบหนีจากอากาศอันร้อนระอุได้เป็นอย่างดี เราได้รวบรวมสถานที่ที่น่าสนใจซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทาคายาม่าและการเดินทางก็สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์หรือขนส่งสาธารณะ

อากาศและเครื่องแต่งกาย

ฤดูฝนในทาคายาม่านั้นกินเวลาประมาณ 2 ถึง 3 อาทิตย์ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม วันที่สดใสกลางฤดูร้อนของทาคายาม่านั้นน่าดึงดูดเพราะความชื้นที่ต่ำกว่าเขตเมืองใหญ่ในญี่ปุ่นอย่างโตเกียวหรือโอซาก้า อากาศสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ คือ 32 องศาในช่วงกลางวันและ 16 องศาในเวลากลางคืน อากาศช่วงเช้าและกลางคืนเย็นสบาย ซึ่งเราแนะนำให้นำเสื้อกันลมมาด้วย สำหรับการเดินป่า เราแนะนำให้ทาครีมกันแดดและใส่หมวกเพื่อกันรังสี UV ที่ป้องกันการเกิดรอยแดดเผาระหว่างการเดินกลางแดดหลายชั่วโมง เราแนะนำให้คุณตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อการเตรียมตัวที่ถูกต้อง

น้ำตก 48 ชั้นอุทสึเอะ (Utsue Forty-eight Waterfalls)

น้ำเย็นฉ่ำในฤดูใบไม้ผลิช่วยเพิ่มความสดชื่น
พลังความสดชื่นจากธรรมชาติที่หาที่ไหนไม่ได้

ลองจินตนาการว่าคุณจะได้พบกับธรรมชาติที่ถูกรักษาไว้อย่างดีซึ่งอยู่ห่างจากทาคายาม่าแค่ 30 นาทีโดยรถยนต์ อุทยานจังหวัดแม่น้ำ 48 ชั้นอุทสึเอะตั้งอยู่ภูเขาอิบุชิยามะ (Mt. Ibushiyama) และเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการอาบน้ำป่ากลางฤดูร้อนเพราะอยู่ในที่สูง (ประมาณ 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) การเดินเขากลางฤดูร้อนอาจเป็นเรื่องยากแต่เส้นทางนี้ที่เดินผ่านน้ำตก 13 แห่งโดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นและครอบคลุมเส้นทางเดินเพียง 880 เมตร น้ำจากน้ำตกช่วยให้สัมผัสที่เย็นและสดชื่น

ความงดงามของภูเขาอันเขียวขจีจากจุดชมวิว

เส้นทางเดินนั้นเรียบง่ายและที่ปลายทางคุณจะได้พบกับความเขียวชจีของเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่จุดชมวิว อย่าลืมสูดลมหายใจเพื่อรับอากาศอันบริสุทธิ์จากธรรมชาติด้วยล่ะ

ดอกพริมโรสญี่ปุ่น (Japanese Primrose) กว่า 150,000 ดอกบานช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนของทุกปี
ทางเข้าของสวนฮานะโมริ (Hanamori Garden)

ถ้าคุณเดินทางมาที่นี่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นสิงหาคม อย่าลืมแวะที่สวนฮานะโมริบริเวณใกล้ ๆ ทางเข้า ที่สวนแห่งนี้มีดอกไม้ประจำฤดูให้คุณได้แวะชมและดอกพริมโรสญี่ปุ่น ลิลลี่ญี่ปุ่นและไฮเดรนเยียบานช่วงปลายพฤษภาคมถึงต้นกรกฎาคมของทุกปี

ดอกพริมโรสญี่ปุ่นมีสีม่วงเข้มและม่วงอ่อน
ดอกลิลลี่สีชมพูอ่อนกว่า 10,000 ดอกบานในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปี

ค่าเดินทาง

นอกจากเดินทางด้วยรถยนต์ คุณยังเดินทางไปยังสวนแห่งนี้ได้ด้วยรถบัสที่ให้บริการฟรีจากสถานี JR Hida Kokufu ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาทีจากทาคายาม่า

ค่าธรรมเนียมเข้าสวนอยู่ที่ 300 เยนต่อคน ถ้าคุณอยากผ่อนคลายร่างกายอย่าลืมแวะที่ Yuyukan Utsue 48 Waterfalls Spa ระหว่างการเดินทางกลับโดยมีค่าใช้จ่าย 620 เยนพร้อมบริการรับส่งฟรีไปยังสถานี อย่าลืมสอบถามเจ้าหน้าที่ที่จุดให้บริการ เราแนะนำให้คุณมาค้นหาเพชรที่ซ่อนอยู่และทำให้เป็นวันอันน่าจดจำในฤดูร้อน

สวนกุหลาบคาวาอิ (Kawai Rose Garden)

สวนกุหลาบอันกว้างขวางและล้อมรอบด้วยภูเขา
นอกจากสวนแห่งนี้จะเข้าชมฟรีแล้ว คุณยังได้ชมดอกกุหลาบที่งดงามและมีความสุขกับธรรมชาติรอบตัว

ความงดงามของดอกกุหลาบกว่า 5,000 ดอก 1,300 พันธุ์บานคลุมพื้นที่ของสวนกุหลาบคาวาอิ สวนกุหลาบแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากทาคายาม่าประมาณ 28 กิโลเมตรและเป็นสวนกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกกุหลาบที่มีภูเขาล้อมรอบพร้อมบรรยากาศริมแม่น้ำโอโดริ

ดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนน่ารักมีสีตัดกับท้องฟ้าสีคราม

คุณจะได้กลิ่นกุหลาบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
สีสันของดอกกุหลาบในสวน

ระหว่างเดินริมแม่น้ำโอโดริคุณจะได้เห็นกุหลาบสีแดงตัดกับสีเขียวของบริเวณโดยรอบ

เส้นทางจากสถานีไปยังสวนกุหลาบ

สวนกุหลาบคาวาอิเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คุณจะได้พบกับลักษณะของดอกกุหลาบพร้อมกลิ่นเฉพาะตัวของกุหลาบแต่ละชนิด ใครจะไปรู้ว่าดอกกุหลาบมีกลิ่นหอมขนาดนี้

การเดินทางและค่าใช้จ่าย

การเดินทางจากคานายาม่ามายังสวนแห่งนี้ทำได้โดยการเดินทางโดยรถหรือนั่งรถไฟ JR และลงที่สถานี Tsunogawa จากนั้นเดินจากสถานีอีก 25 นาที ค่าตั๋วรถไฟอยู่ที่ขาละ 510 เยนต่อคน เราแนะนำให้คุณเดินทางมาในวันที่อากาศสดใสและไม่ว่าเดินไปตรไหนของสวนคุณก็จะได้พบกับมุมถ่ายภาพลงอินตาแกรมอย่างแน่นอน

ชิรากาวะโก (Shirakawago)

ชิรากาวะโกมีสีสันสดใสในฤดูร้อนที่มาพร้อมกับทุ่งนาที่ชุ่มชื่นสีเขียวชะอุ่ม

ชิรากาวะโก หมู่บ้านมรดกโลก UNESCO เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนมากในฤดูหนาว แต่ช่วงต้นฤดูร้อนก็มีทัศนียภาพที่งดงามไม่แพ้กัน ดอกไฮเดรนเยียที่บานท่ามกลางฝนของฤดูร้อนยิ่งทำให้เกิดความสดใส ความสดชื่นเหล่านี้ทำให้ดอกไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ยอดนิยมของญี่ปุ่น

ชิรากาวะโกคงความงดงามด้วยดอกไฮเดรนเยียกลางฤดูร้อน

ดอกไฮเดรนเยียที่ล้อบรอบด้วยภูเขาเมฆหมอกและหลังคาอันสูงชันของบ้านหลายหลังสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในโลกนิยาย ชิรากาวะโกเป็นหมู่บ้านที่มีชีวิตชีวาด้วยบ้านสไตล์กัสโชกว่า 600 หลังเหมือนหลุดมาจากหนังสือนิทานและหมู่บ้านแห่งนี้ก็เดินทางสะดวกสบายจากทาคายาม่าโดยรถบัสหรือรถยนต์เพียง 1 ชั่วโมง เมื่อคุณเดินเข้าสู่บริเวณหมู่บ้าน คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ ช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพที่จะได้บรรยากาศที่มีหมอกและแสงที่งดงาม

ซารุโบโบ (Sarubobo) หรือสัญลักษณ์ของภูมิภาคฮิดะเคียงข้างไปกับดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งไปทั่วชิรากาวะโกในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

เดินเล่นสบาย ๆ ช่วงต้นฤดูร้อนที่ชิรากาวะโก

Amou Prefectural Natural Park

คุณพร้อมที่จะดื่มด่ำกับเดินทางอันลี้ลับและการอาบน้ำป่าหรือไม่ สวนธรรมชาติประจำจังหวัดอะโมอุที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองคาวาอิและชิรากาวะโกมีสระน้ำตามธรรมชาติ ป่าบีช พืชอัลไพน์และดอกไม้ประจำฤดู

ต้นไม้ขนาดมหึมาในป่าบีชของสวน
ใบไม้สีสันต่าง ๆ ในบริเวณลุ่มที่ราบสูงอะโมอุ (Amou Highland Marsh) เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน

สวนแห่งนี้ตั้งอยู่1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลทำให้มีหิมะปกคลุมถนนในฤดูหนาวจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคมและช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม คือ หลังจากที่หิมะได้ละลายไปแล้วในเดือนมิถุนายน เส้นทางที่สั้นที่สุดมีระยะทาง 1.1 กิโลเมตรและใช้เวลาเดินเพียงแค่ 40 นาทีระหว่างทางคุณจะได้พบกับดอกมิซึบาโช (Mizubashou) ดอกซอฟท์วินฟลาเวอร์ (Soft windflower) ดอกไดฟีเลีย กรายี (diphylleia grayi) และดอกเดลิลี่ (daylilies) ในที่ลุ่มราบสูงอะโมอุ

ที่ลุ่มคิไดระ (Kidaira Marsh) เป็นพื้นที่ที่มีดอกมิซึบาโชโตเต็มพื้นที่
ดอกไม้เหล่านี้จะเปลี่ยนไปตามเส้นทางแต่ละเส้นของป่าแห่งนี้ในฤดูร้อน

เมื่อเดินไปตามเส้นทางของคาราทานิ (Karatani) คุณจะพบต้นคัตสึระ (Katsura tree) ขนาดใหญ่ยักษ์ที่ถูกเรียกว่า ประตูคัตสึระ (Katsura Gate) เมื่อคุณมาตรงนี้จะสัมผัสได้ถึงความทรงพลังของต้นไม้เหล่านี้ จากตรงนี้ เมื่อคุณปีนเขาต่อไปอีก 10 ถึง 70 นาที คุณจะได้พบกับดอกมิซึบาโชในมิซึบาโชและที่ลุ่มคิไดระ

นอกจากเส้นทางนี้แล้ว ยังมีอีกเส้นทางนึงยาว 2.3 กิโลเมตรซึ่งมุ่งหน้าไปยังยอดของภูเขาโมมินุกะ (Mt. Mominuka) ซึ่งมีวิวของเทือกเขาเจแปนแอลป์ สวนแห่งนี้ก็เป็นที่นิยมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงด้วยเช่นกัน

การเดินทางไปที่สวนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการขับรถจากทาคายาม่าไปยังสวนธรรมชาติประจำจังหวัดอะโมอุ นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางจากชิรากาวะโกที่ห่างออกไป 13 กิโลเมตรหรือเวลาการเดินทางที่เพิ่มขึ้น 20 นาทีเท่านั้น ถนนระหว่างทางแคบและมีโค้งจำนวนมาก เราจึงอย่างให้คุณระมัดระวังระหว่างการขับขี่ด้วย

ถ้าคุณอยากผ่อนคลายหลังการเดินป่า เราแนะนำให้คุณมุ่งหน้าไปยัง Nukumori no Yu Spa เพื่อแช่ออนเซ็นธรรมชาติ ออนเซ็นแห่งนี้ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีโดยรถยนต์ระหว่างทางกลับไปยังทาคายาม่า บริเวณนี้มีผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากมายไม้ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลหรือพีช คุณแวะซื้อได้ระหว่างไปแช่ออนเซ็น

การเดินทางไปทาคายาม่า

จากนาโกย่าให้นั่งรถไฟ JR Wide View Hida ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที นอกจากนี้ คุณยังสามารถนั่งรถบัสไปทาคายาม่าได้อีกด้วย ค่าตั๋วรถไฟขาเดียวอยู่ที่ 5,610 เยนและค่าตั๋วรถบัสมีราคาถูกกว่าอยู่ที่ 3,100 เยน

บทสรุป

คุณพร้อมจะเดินทางมาพบกับความเขียวชอุ่มในบริเวณฮิดะและเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ประจำฤดูแล้วหรือยัง ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบธรรมชาติแบบไหน ภูมิภาคฮิดะมีให้คุณเลือกไม่ว่าจะเป็นความหอมหวานของสวนดอกกุหลาบคาวาอิ ดอกไฮเดรนเยียของชิรากาวะโกหรือดอกไม้มากมายที่น้ำตก 48 ชั้นอุทสึเอะ ปิดท้ายด้วยการเดินป่าผ่านสวนธรรมชาติประจำจังหวัดอะโมอุก่อนลงแช่ออนเซ็น เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณเตรียมตัวสำหรับการเดินทางในฤดูร้อนครั้งถัดไป

Related Articles Related Articles