| Centrip Editorial Board

ทัวร์เมืองมัตสึโมโตะในฤดูหนาว เพลิดเพลินปราสาทมัตสึโมโตะกับหิมะ ประติมากรรมน้ำแข็งและกิจกรรมสวมรองเท้าหิมะ (snow shoe)    

ไปเที่ยวปราสาทมัตสึโมโตะที่เป็นสมบัติแห่งชาติและในตัวเมืองมัตสึโมโตะในฤดูหนาว  

ปราสาทมัตสึโมโตะในฤดูหนาว  

เที่ยวเมืองมัตสึโมโตะในฤดูหนาว ที่แรกที่เราจะไปคือ ปราสาทมัตสึโมโตะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึโมโตะ ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการขึ้นชื่อให้เป็นมรดกของชาติของญี่ปุ่นและผนังสีขาวดำที่ตัดกันนั้นเป็นเอกลักษณ์สวยงามมาก ในฤดูหนาว “เทือกเขาแอลป์” ที่อยู่ด้านหลังจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้เป็นภาพที่น่าประทับใจมากขึ้นกว่าปกติ  

“ยุกิสึริ” บนต้นสนเพื่อเตรียมต้อนรับหิมะเป็นทิวทัศน์ที่แสนจะพิเศษของฤดูหนาว
ปราสาทมัตสึโมโตะ ที่มองจากห้องชมวิวของศาลากลาง

จุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวมักไม่ค่อยรู้จักนั้น เป็นห้องชมวิวบนหลังคาศาลาว่าการเมืองมัตสึโมโตะทางฝั่งตะวันออกของปราสาท ห้องชมวิวนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปและทุกคนสามารถเข้าชมได้ฟรี  

จากสถานีมัตสึโมโตะไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ ใช้ "เส้นทางสายเหนือ" ของรถบัสประจำทาง (Town Sneaker) ขึ้นรถบัสจาก “มัตสึโมโตะเอะกิ โอซิโรกุจิ” ที่หน้าสถานีและลงที่ “ปราสาทมัตสึโมโตะ / ซิยาคุโชมาเอะ” เวลานั่งประมาณ 10 นาที ในกรณีที่เดิน จะเดินทางจากสถานีใช้เวลาประมาณ 20 นาที ดังนั้นการเดินไปชมวิวเมืองก็น่าสนุกดี  

ถนนนาวาเตะกับถนนนากามาจิ  

หลังจากชมปราสาทมัตสึโมโตะแล้ว ก็จะเดินต่อไปทางด้านทิศของสถานีมัตสึโมโตะ ตรงกลางปราสาทและสถานีมีถนนสองสายมาบรรจบกัน ซึ่งเป็นถนนนาวาเตะและถนนนาคามาจิ  

หากคุณพบกับรูปปั้นกบตัวน้อยลึกลับ ที่นั่นคือทางเข้าถนนนาวาเตะ ถนนแคบนี้เป็นสำหรับคนเดินเท่านั้น และทั้งสองฝั่งของถนนยังมีร้านค้าสไตล์ย้อนยุค มีร้านขายข้าวเกรียบและร้านค้าแปลกๆ ที่ขายเฉพาะสินค้าจำพวกกบเท่านั้น  

มีรูปปั้นกบมากมายบนถนนนาวาเตะ
ถนนนาคามาจิมีโกดังสินค้าที่เก่าและมีบรรยากาศที่ดีเป็นพิเศษ

ข้ามสะพานมาจากถนนนาวาเตะจะมีถนนนาคามาจิอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ถนนสายนี้มีโกดังสินค้าเก่าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ทำให้มีบรรยากาศที่ดีเป็นพิเศษ โกดังสินค้าเก่าเหล่านี้หลายแห่งเปิดเป็นร้านค้าหรือร้านกาแฟ แม้จะดูเก่าเมื่อมองจากข้างนอกแต่ภายในนั้น ก็ได้รับการตกแต่งปรับปรุงใหม่เพื่อให้ทันยุคสมัยอย่างสวยงาม การผสมผสานระหว่างความเก่าและใหม่นี้ก็เป็นที่น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก  

ทั้งถนนนาวาเตะและถนนนาคามาจิเป็นพื้นที่ที่น่าสนุกสนานเพลิดเพลินในการรับประทานขนมหวาน ซื้อของที่ระลึก หรือการเดินเล่นรอบๆ  

อาหารกลางวันที่แนะนำของมัตสึโมโตะในฤดูหนาว  

เดินเล่นเรื่อยๆ แล้วรู้สึกหิว ก็ไปกินอาหารกลางวัน  

อาหารมัตสึโมโตะที่แนะนำในฤดูหนาวคือ "โทจิโซบะ" นี้เป็นอาหารท้องถิ่นที่ประกอบด้วยเส้นโซบะเย็นจุ่มในซุปอุ่นๆ ประสบการณ์ในการใส่โซบะในตะกร้าขนาดเล็กแล้วแช่ในหม้อไฟก็น่าสนใจเช่นกัน แม้ว่าร่างกายจะเย็นลงจากการเดินเล่นข้างนอกแต่ก็กินโทจิโซบะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นดีมาก    

ตะกร้าสำหรับใส่โซบะเย็นลงในหม้อ
เติมเส้นโซบะทีละเล็กทีละน้อยในหม้อและกินกับผักป่า

อีกเมนูแนะนำหนึ่งของมัตสึโมโตะก็คือ “ซันโซกุยากิ” นี้คือไก่ทอดชิ้นใหญ่ที่มีรสชาติของขิงและกระเทียม อาจจะทำให้คุณประหลาดใจกับความใหญ่โตของไก่ทอดนี้ แต่เป็นเมนูที่ดีต่อการเพิ่มเติมพลังเพื่อที่จะไปเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน    

ซันโซกุยากิ น่าประหลาดใจกับความใหญ่!

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ  

เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็มุ่งหน้าไปต่อยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเหมือนกับปราสาทมัตสึโมโตะ เดิน ทางประมาณ 15 นาทีจากสถานีมัตสึโมโตะหรือจากปราสาทมัตสึโมโตะ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ "Phantom Flower"

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะมีสิ่งจัดแสดงต่างๆมากมาย แต่จุดที่น่าสนใจหลักก็คือนิทรรศการถาวร ชื่อว่า"ที่แห่งจิตวิญญาณ" โดยยาโยอิ คุซามะ ศิลปินชาวมัตสึโมโตะที่มีผลงานไปทั่วโลก ประติมากรรมขนาดยักษ์ "Phantom Flower" ของยาโยอิ คุซามะจัดแสดงอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์และแม้แต่กระจกในห้องน้ำและตู้ขายของอัตโนมัติภายในพิพิธภัณฑ์ก็ตกแต่งด้วยลายจุดสีแดง ซึ่งเป็นทำให้โลกทัศน์ของยาโยอิ คุซามะ เต็มพื้นที่

การแสดงแสงไฟที่เมืองมัตสึโมโตะ  

ในตอนกลางคืนของมัตสึโมโตะในฤดูหนาวมีอะไรให้ดูมากมาย อาทิ เช่น เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ถนนจะสว่างไสวไปทั่วเมือง เพลิดเพลินกับบรรยากาศของเมืองที่แตกต่างจากตอนกลางวัน แต่อุณหภูมิมักจะลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ดังนั้นอย่าลืมป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็นด้วย  

การประดับไฟต่อเนื่องจากสถานีมัตสึโมโตะไปถึงปราสาทมัตสึโมโตะ
สะพานข้ามซากประตูหลักของปราสาทมัตสึโมโตะก็สว่างไสวสวยงามเช่นเดียวกัน

นิยามศิลปะที่ว่าด้วยการปล่อยแสงไฟที่ปราสาทมัตสึโมโตะ  

เดินเล่นรอบมัตสึโมโตะในตอนกลางคืน สถานที่สุดท้ายที่จะเยี่ยมชมก็คือปราสาทมัตสึโมโตะอีกครั้ง ในตอนกลางคืน บริเวณรอบๆ ปราสาทมัตสึโมโตะจะสว่างไสวด้วยโคมกระดาษ ซึ่งเป็นทำให้ดูมันวาววับแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง  

เชิงถนนสู่ปราสาทมัตสึโมโตะสว่างไสวด้วยโคมกระดาษ

ในช่วงสามเดือนตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะมีนิยามศิลปะที่ว่าด้วยการปล่อยแสงไฟโดยมีปราสาทมัตสึโมโตะเป็นวิทยาเขตเฉพาะในฤดูหนาว การทำนิยามศิลปะที่ว่าด้วยการปล่อยแสงไฟจะแสดงซ้ำๆ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 21:00 น. เป็นเวลาประมาณ 15 นาที และต่อด้วยโปรแกรม รูปร่างอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ที่เป็นมรดกของชาติของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสีสันนั้นสวยงามจนแทบลืมหายใจ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่ยอดเยี่ยมที่ทุกคนสามารถชมได้จากพื้นที่นอกเขต โดยที่ไม่เสียค่าเข้าชมใดๆ    

ปราสาทมัตสึโมโตะยามค่ำคืนซึ่งไฮไลท์ด้วยนิยามศิลปะที่ว่าด้วยการปล่อยแสงไฟ
ช่วงเวลาของเทศกาลประติมากรรมน้ำแข็งยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก

"เทศกาลประติมากรรมน้ำแข็ง" จัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ของปลายเดือนมกราคมของทุกปี และมีการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งในสถานที่หลายแห่งในตัวเมือง โดยมีศูนย์กลางของการจัดงานอยู่ที่ปราสาทมัตสึโมโตะ เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวมัตสึโมโตะในฤดูหนาว ซึ่งผสมผสานกับผลงานอันงดงามโดยช่างแกะสลักน้ำแข็งจากทั่วประเทศญี่ปุ่น

ประติมากรรมน้ำแข็งชื่อราชาขาว
ฝีมือของช่างแกะสลักน้ำแข็

เพลิดเพลินไปกับหิมะบนที่ราบสูงโนริคุระ  

หากต้องการเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์หิมะที่แท้จริงหรือเล่นหิมะในมัตสึโมโตะ ก็จะต้องออกไปที่ชานเมือง เมืองมัตสึโมโตะมีพื้นที่ตากอากาศบนที่สูงที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อาทิ เช่น คามิโคจิและโนริคุระโคเก็น (ราบสูงโนริคุระ)  

กิจกรรมสวมรองเท้าหิมะและชมน้ำตกน้ำแข็งที่มีเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น  

พื้นที่ราบสูงโนริคุระมีรองเท้าที่ใช้สำหรับลุยหิมะโดยเฉพาะและทัวร์ทุรกันดารให้เลือกสรรค์ตั้งมากมาย หากต้องการไปยังราบสูงโนริคุระจากสถานีมัตสึโมโตะ ให้ขึ้นรถไฟสายคามิโคจิไปยังสถานีชินชิมะชิมะซึ่งเป็นสถานีปลายทาง จากนั้นขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังราบสูงโนริคุระและลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวราบสูงโนริคุระ (ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟ จากนั้นต่อรถประจำทางประมาณ 50 นาที) สามารถเช่ารถในเมืองได้ แต่มันเป็นส่วนที่ลื่นและมีอุบัติเหตุมากมาย ดังนั้นแม้ว่าจะสวมยางสำหรับวิ่งบนหิมะ ก็ต้องระวังให้มาก

สำหรับการผจญในฤดูหนาวกลายเป็นความทรงจำตลอดชีวิต ไปทัวร์รองเท้าเดินบนหิมะเพื่อไปยังน้ำตกน้ำแข็ง ทัวร์จัดโดยไม่เพียงแค่ที่พักหรือเกสต์เฮาส์รอบๆ ราบสูงโนริคุระแต่มีบริษัททัวร์หลายแห่ง ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวราบสูงโนริคุระก็แนะนำทัวร์อีกด้วย ทัวร์บางแห่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือเด็กเล็กก็มาเข้าร่วมเช่นกัน  

ทัวร์ในหิมะลึกโดยสวมรองเท้าลุยหิมะจะเป็นความทรงจำที่ล้ำค่าไปตลอดชีวิต

สามารถเช่ารองเท้าเดินหิมะ รองเท้าลุยหิมะ ไม้เท้า และอุปกรณ์พิเศษอื่นๆ ได้ แต่โดยพื้นฐานแล้วต้องเตรียมเสื้อผ้ามาเอง ดังนั้น สวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นให้มากที่สุดก่อนออกเดินทาง (บางครั้งอุณหภูมิลดต่ำกว่า10 องศา !)  

ทัวร์รองเท้าลุยหิมะมีหลักสูตรต่างๆ เช่น "ครึ่งวัน" "เต็มวัน" และ "ทัวร์กลางคืน" หากมีเวลาการเข้าร่วมทัวร์เต็มวันเป็นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ทัวร์ครึ่งวันประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลิน เพียงแค่นั้นก็สามารถทำให้ร่างกายหมดแรงได้  

เมื่อชินกับรองเท้าลุยหิมะแล้วจะสามารถเดินได้อย่างคล่องตัวขึ้น และทำให้รู้สึกดีขึ้น
คุณเชื่อไหมว่ากำลังเดินอยู่บนสระน้ำ ?

ในทัวร์ หลังจากฟังคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีใช้รองเท้าลุยหิมะ (ไม่ยากเท่าไหร่) จะเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายเพื่อวอร์มอัพ รายละเอียดการเดินทางจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหรือหิมะในแต่ละวัน แต่ปลายทางก็คือน้ำตกเซ็นโกโระ (Zengoro falls)    

เดินผ่านปุยหิมะ ลงไปตามทางลาดชันของเขาและเข้าใกล้น้ำตก

เดินไปบนบ่อน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งและปกคลุมไปด้วยหิมะ ผ่านต้นไม้ที่ขาวราวกับหิมะ ข้ามสะพานไม้ที่ฝังอยู่ใต้หิมะ และในที่สุดก็ได้เห็นน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งที่สวยงาม หลังจากถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่หน้าน้ำตกแล้ว ไกด์นำเที่ยวจะเสิร์ฟโกโก้ร้อนให้ดื่ม (น่าจะ) เป็นหนาวเย็นที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ แต่ถ้าได้ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ ยิ่งหนาวก็ยิ่งทำให้อร่อยขึ้นจริงๆ !    

ประทับใจในความสวยงามของน้ำตกน้ำแข็ง !
น้ำไหลเอื่อยๆ หลังน้ำตกที่กำลังจะกลายเป็นน้ำแข็ง

น้ำพุร้อนที่แนะนำแถวที่ราบสูงโนริคุระ  

น้ำพุร้อนยูเกะมูริ โนริคุระ

บ่อน้ำร้อนหลังจากการกิจกรรมในช่วงอากาศหนาวที่สุดในชีวิตจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตอย่างแน่นอน  

หากต้องการเพลิดเพลินไปกับน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับในวันเดียว มี "น้ำพุร้อนยูเกะมูริ โนริคุระ" ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวราบสูงโนริคุระ ในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นภูเขาโนริคุระสีขาวบริสุทธิ์ได้ด้วยกับแช่น้ำพุร้อน ในห้องโถงมีร้านอาหารด้วย นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังมีที่พักขนาดเล็ก เกสต์เฮ้าส์หรือเรียวกังหลายแห่ง ก็จะสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อน ณ ที่ที่แห่งนั้นได้ด้วย    

ชิราโฮเนะออนเซ็น “อาวาโนะยุ”
ความสุขกับการแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งท่ามกลางวิวหิมะ

ชิราโฮเนะออนเซ็นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากราบสูงโนริคุระยังเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนยอดนิยมอีกด้วย การผสมผสานระหว่างน้ำสีขาวขุ่นกับชื่อน้ำพุร้อนลึกลับ ซึ่งแปลว่ากระดูกขาวในภาษาญี่ปุ่น ทำให้ได้รับความรักจากบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่น วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถบัสจากศูนย์นักท่องเที่ยวราบสูงโนริคุระ เปลี่ยนรถไฟที่สถานีรถบัสซาวานโดะและลงที่ชิราโฮเนะออนเซ็น (ประมาณ 30 นาทีรวมการเปลี่ยนสาย) ก็จะไปถึง  

สรุป  

การเดินทางไปมัตสึโมโตะสะดวก จากสถานีนาโกย่าขึ้นรถไฟไวด์วิวจะมาถึงสถานีมัตสึโมโตะในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในใจกลางเมืองมีสถานที่ที่น่าเที่ยวมีมากมาย เช่น ปราสาทมัตสึโมโตะที่เป็นสมบัติของชาติและพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ ทุกที่เที่ยวอยู่ในระยะเดินถึง ซึ่งทำให้การเที่ยวชมเป็นง่ายมาก นอกจากนี้ หากไปต่ออีกหน่อยก็จะได้มีประสบการณ์การเล่นหิมะที่ราบสูงโนริคุระหรือคามิโคจิ และแถวนั้นยังมีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นหลังจากเล่นหิมะ โปรดเพิ่มไปยังจุดหมายปลายทางการเดินทางครั้งต่อไป

Related Articles Related Articles