| Centrip Editorial Board
ฤดูหนาวนี้ที่มัตสึโมโต้〜ทาคายามะ: ทริปต้นแบบสำหรับความสนุกเพลิดเพลินแบบ 3 วัน 2 คืน
คุณสามารถเดินทางจากจากสนามบินเซ็นแทรร์ ไปยังเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะได้ในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งด้วยรถไฟหรือรถยนต์ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนอากาศจะเริ่มหนาวขึ้นมาก และบางครั้งอาจมีหิมะตกในช่วงต้นเดือนธันวาคม แม้ว่าคุณจะต้องใช้เพื่อป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็นอย่างเหมาะสม แต่ที่นี้ก็มีวิวทิวทัศน์และกิจกรรมที่สวยงามมากมายที่สามารถสนุกเพลิดเพลินได้แม้ในฤดูหนาว และนั้นทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณควรไปเยี่ยมชมอย่างแน่นอนในช่วงฤดูหนาว ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำตัวอย่างแผนการแบบ3 วัน 2 คืน สำหรับการเยี่ยมชมเมืองมัตสึโมโต้ในฤดูหนาว และเมืองทาคายามะซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับชมทิวทัศน์เมืองเก่าที่มีบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
Table of Contents
วันที่ 1: เที่ยวชมรอบเมืองมัตสึโมโต้
ปราสาทมัตสึโมโตะในฤดูหนาว
เมื่อคุณมาถึงเมืองมัตสึโมโต้ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ การไปเยี่ยมชมคือปราสาทมัตสึโมโต้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึโมโต้ วิธีที่สะดวกที่สุดในการเข้าถึงปราสาทมัตสึโมโต้คือการใช้รถบัสเที่ยวชมเมือง 「เส้นทางคิตะคอร์ส」 ขึ้นรถบัสที่ป้ายรถบัส 「มัตสึโมโตะ-เอกิ โอชิโรกุจิ」ที่ด้านหน้าสถานีมัตสึโมโตะ และลงที่ 「มัตสึโมโตะ-โจ ชิยาคุโช-มาเอะ」ใช้เวลาประมาณในการเดินทาง 10 นาที และจากสถานีมัตสึโมโต้ไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ ใช้เวลาในการเดินแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น การเดินเล่นไปในเมืองที่อยู่รอบๆปราสาทนะระหว่างที่ทางปราสาทก็เป็นอีกความคิดที่ดีที่เดียว
ปราสาทมัตสึโมโตะนั้นมีกำแพงปราสาทสีขาวและสีดำตัดกันอย่างสวยงาม และที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น ในฤดูหนาวภูเขาของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือตั้งอยู่เป็นฉากหลังเป็นปราสาทมัตสึโมโตะ จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ทำให้เกิดวิวที่มหัศจรรย์มากยิ่งขึ้น
ที่ชั้นบนสุดของอาคารหลักของศาลาว่าการเมืองมัตสึโมโต้ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของปราสาทมัตสึโมโต้ มีห้องสังเกตการณ์ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม และคุณสามารถเห็นปราสาทมัตสึโมโตะจากวิวทางด้านฝั่งตะวันออก บริเวณนี้ในช่วงเวลาทำการของวันธรรมดาทุกคนสามารถแวะเข้ามาชมได้ฟรี แต่เป็นจุดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและในหมู่นักท่องเที่ยวเองก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเช่นกัน
เดินเล่นไปรอบๆ เมือง
หากคุณต้องการเพลิดเพลินไปในเมืองมัตสึโมโต้ ให้คุณเดินเล่นไปตาม「ถนนนาวาเตะ」และ「ถนนนากามาจิ」 ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างปราสาทมัตสึโมโตะและสถานีมัตสึโมโตะ 「ถนนนาวาเตะ」เป็นถนนที่เต็มไปด้วยกบและคุณสามารถสนุกเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปตามจุดต่างได้ด้วยการเดินเท่านั้น ที่บริเวณสองข้างทางของถนนเรียงรายไปด้วยร้านค้าสไตล์ย้อนยุค ถนนนากามาจิที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำมีโกดังแบบดั้งเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในอดีต บนถนนทั้งสองสาย คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรส ขนมหวาน และการช้อปปิ้งในบรรยากาศตามแบบฉบับเฉพาะของเมืองแห่งปราสาท
เมนูอาหารแนะนำของเมืองมัตสึโมโต้ที่คุณไม่ควรพลาดในช่วงฤดูหนาวคือ 「โทจิโซบะ」 ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่รับประทานโดยการจุ่มเส้นโซบะเย็นในซุปอุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยผักพื้นเมืองสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารมื้อใหญ่ เราขอแนะนำ 「ไก่ทอดซันโซะกุยากิ」 ซึ่งเป็นเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำหมักในซอสสูตรพิเศษแล้วจึงนำไปทอด
สถานที่ต่อไปที่คุณอยากไปเยี่ยมชมคือ「พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ」 ซึ่งถือเป็นสถานที่ยอดนิยมควบคู่ไปกับปราสาทมัตสึโมโต้ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมดอกไม้ลายจุดขนาดยักษ์ที่มีชื่อว่า 「มาโบโรชิ โนะ ฮานะ」ของยาโยอิ คุซามะ ศิลปินชื่อดังระดับโลกจากเมืองมัตสึโมโต้ นิทรรศการถาวรของที่นี่มีชื่อว่า 「ทามะชิ โนะ โอคิ โดโรโร หรือสถานที่แห่งจิตวิญญาณ」ถือเป็นหนึ่งนิทรรศการที่ไม่ควรพลาด ภายในที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร คุณยังสามารถชื่นชมประติมากรรมฟักทองลายจุดขนาดโอเวอร์ไซส์และสามารถถ่ายรูปได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีลวดลายลายจุดประดับอยู่ทั่วพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง ห้องน้ำ และตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับโลกทัศน์ของยาโยอิ คุซามะอย่างเต็มที่
การประดับไฟในช่วงฤดูหนาว
ไฮไลท์ของมัตสึโมโต้ในฤดูหนาวคือ 「การประดับไฟฤดูหนาว」ที่จัดขึ้นทั่วสถานที่ เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้นที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของเมืองที่โอบล้อมไปด้วยแสงสี แต่เมื่อดวงอาทิตย์ตกอุณหภูมิจะลดลงจนต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ดังนั้นอย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็นก่อนออกไปข้างนอก
「ทไวไลต์ สแควร์」เฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น (12/12-25)
ลานมะสุกาตะอะโตะในเมืองรอบบริเวณปราสาทได้รับการตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสและการประดับไฟที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสถานที่แห่งนี้ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับงานคริสต์มาสและการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ตลาดคริสต์มาส บาร์สำหรับคริสต์มาสและการแสดงสดก็มีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่นี่เช่นกัน
ศิลปะดิจิทัลสามมิติ ที่ปราสาทมัตสึโมโตะ (12/16-2/57)
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน พื้นที่รอบๆ บริเวณปราสาทมัตสึโมโต้จะสว่างไสวไปด้วยโคมไฟ และคุณจะสามารถมองเห็นปราสาทมัตสึโมโต้ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากตอนกลางวัน ตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของปีต่อมา ศิลปะดิจิทัลสามมิติที่มีความงามแบบญี่ปุ่น ลวดลายต่างๆ จะถูกฉายลงบนปราสาทมัตสึโมโต้ แต่ละรายการมีความยาวประมาณ 12 นาที และจะฉายซ้ำระหว่างเวลา 18.00 น. - 21.00 น. งานนี้ไม่มีค่าเข้าชม จึงถือได้ว่าเป็นงานที่ห้ามพลาดจริงๆ
การพักที่อาซามะออนเซ็น
อาซามะออนเซ็น ใช้เวลาเดินทางจากปราสาทมัตสึโมโตะได้ในเวลาประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ และ 20 นาทีโดยรถบัสจากสถานีมัตสึโมโตะ ที่นี่เป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีปริมาณน้ำพุร้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดนากาโนะ ในช่วงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) ขุนนางแห่งปราสาทมัตสึโมโต้ก็แวะเวียนมาในบริเวณนี้เช่นกัน ที่นี่มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะ 「ห้องรับแขกภายในของเมืองมัตสึโมโตะ」 ซึ่งมีบ้านพักสำหรับเจ้าปราสาทและข้าราชบริพารซามูไรอยู่ด้วย
นอกจากนี้ปัจจุบันอาซามะออนเซ็นก็ยังคงมีโรงแรมขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงและก่อตั้งมายาวนานและโรงอาบน้ำสาธารณะแบบดั้งเดิมหลายแห่ง อย่างเช่นที่「ยูวะโนะยู」บ่อน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับซึ่งมีประวัติว่าเป็นโรงอาบน้ำของผู้ปกครองปราสาทมัตสึโมโตะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของบ่อน้ำพุร้อนที่มีประวัติศาสตร์ได้อย่างสบายๆ
วันที่ 2: ทำกิจกรรมที่โนริคุระโคเก็น
สำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับทิวทัศน์หิมะที่แท้จริงและสนุกกับการเล่นหิมะ ทำไมไม่ลองแวะไปที่「โนริคุระโคเก็น」 รีสอร์ทบนที่ราบสูงที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานีมัตสึโมโต้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟและรถบัส
สกีและสโนว์ชูส์
สำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับโลกแห่งหิมะได้อย่างเต็มที่ตามใจตัวเอง เราขอแนะนำให้คุณเข้าร่วม 「ทัวร์สโนว์ชู」ซึ่งที่ศูนย์การท่องเที่ยวโนริคุระโคเก็นมีข้อมูลอยู่ ดังนั้นถ้าหากท่านสนใจคุณสามารถแวะมาได้เลย ที่นี่มีทัวร์ที่หลากหลายให้เลือก รวมถึงทัวร์ที่มีจุดมุ่งหมายที่น้ำตกน้ำแข็ง ตลอดจนทัวร์แบบครึ่งวัน เต็มวัน และทัวร์กลางคืน นอกจากนี้เรายังเช่าอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินบนหิมะ เช่น รองเท้าลุยหิมะ, รองเท้าเดินหิมะ และไม้ค้ำ คลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลการท่องเที่ยวและข้อมูลกิจกรรมของโนริคุระโคเก็น
การเข้าพักในเมืองทาคายาม่า
หลังจากเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์หิมะที่สวยงามและสนุกกับการเล่นหิมะแล้ว ให้คุณเดินทางต่อไปยังเมืองทาคายามะ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีทิวทัศน์เมืองอันมีเสน่ห์ ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสด่วนไม่ถึง 3 ชั่วโมงจาก 「สถานีรถบัสมัตสึโมโต้」ซึ่งอยู่ติดกับทางออกด้านตะวันออกของสถานีมัตสึโมโต้ ไปยัง 「สถานีรถบัสทาคายามะ โนบิ」ซึ่งอยู่ติดกับทางออกทิศตะวันออกของสถานีทาคายามะ แน่นอนว่ามีโรงแรมบ่อน้ำพุร้อน และโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์หลายแห่งมีบ่อน้ำพุร้อนเช่นกัน ดังนั้นเพื่อผ่อนคลายและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางของคุณคุณสามารถแวะแช่น้ำพุร้อนได้ที่นี่
วันที่ 3: เที่ยวเมืองทาคายาม่า & ชิราคาวาโกะ
สถานที่แรกที่คุณอยากจะไปคือตลาดเช้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตลาดเช้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ตลาดเช้านี้ตั้งอยู่ในจินยะมาเอะพลาซ่าและที่บริเวณริมแม่น้ำมิยากาวะ ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจากสถานีทาคายามะ ที่นี่มีผักและผลไม้ตามฤดูกาล ผักป่า อาหารแปรรูป งานฝีมือพื้นบ้านทำมือ และอาหารท้องถิ่นที่รับประทานง่าย ความสนุกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวตลาดเช้าคือการได้พบปะพูดคุยกับคนในท้องถิ่นโดยตรง
หลังจากสำรวจตลาดเช้า ให้คุณเดินหน้าต่อไปยังเมืองเก่า ที่นี่มีเมืองแห่งปราสาทที่มีเสน่ห์ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าคุณได้เดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีต เพียงแค่เดินเล่นไปรอบๆ ก็จะเจอกับจุดที่ทำให้การเดินเล่นเป็นเรื่องสนุก ไม่ว่าจะเป็นโรงเหล้าสาเกที่มีลูกบอลซีดาร์ขนาดใหญ่ (สากะบายาชิ) ห้อยอยู่ที่ทางเข้า หรือร้านอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น, งานหัตถกรรม, งานฝีมือพื้นบ้าน และร้านขายลูกกวาดที่เรียงรายอยู่
นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งมรดกโลกชิราคาวาโกะได้ภายในเวลาประมาณ 50 นาทีโดยรถบัส หมู่บ้านแห่งนี้เรียงรายไปด้วยบ้านทรงกัชโชสึคุริ มีหลังคามุงจาก และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สามารถกล่าวได้ว่าเป็น 「ภูมิทัศน์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น」 เป็นทิวทัศน์อันทรงคุณค่าที่สามารถพบได้เฉพาะใน ชิราคาวาโกะเท่านั้น
บทสรุป
ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืนคุณสามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มอิ่มที่เมืองมัตสึโมโตะและเมืองทาคายามะที่เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ให้คุณได้ชมและเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นภูมิทัศน์เมือง, ธรรมชาติ และน้ำพุร้อน ซึ่งจะดูแตกต่างออกไปในช่วงฤดูแห่งสีเขียว ทำไมไม่ลองเดินทางจากสนามบินเซ็นแทรร์และแวะมาเที่ยวที่นี่ดูล่ะ