| Lyndsey

ภูเขาในเมืองใหญ่

ฉันรักการเดินเขา เพราะนอกจากจะได้ซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติรอบตัวแล้วมันยังทำให้ฉันได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นได้อย่างใกล้ชิด และที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นที่หนึ่งที่ฉันมักจะมาเดินเขาเป็นประจำ ด้วยว่าประเทศแห่งนี้นั้น เต็มไปด้วยเส้นทางที่หลากหลายทั้งยากง่ายแตกต่างกันไปไม่ซ้ำรูปแบบ


ฉันอาจจะแตกต่างจากนักเดินเขาทั่วไป ฉันไม่มีอุปกรณ์ใดๆ พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดคือฉันไม่ค่อยเตรียมตัวอะไรมากมายนัก สิ่งที่ฉันมักจะทำก็เพียงเลือกสถานที่ที่จะไป โยนข้าวของที่จำเป็นลงกระเป๋า เตรียมน้ำดื่มให้พร้อมรับกับระยะทาง จากนั้นจึงออกเดินทางทันทีในช่วงบ่ายของวัน ซึ่งในจุดนี้ฉันจำเป็นต้องออกตัวก่อนว่า การเตรียมตัวที่น้อยในระดับนี้จะเหมาะกับการเดินเขาในระยะเวลา 2ชั่วโมงหรือต่ำกว่าเท่านั้น โดยถ้าหากระยะทางการเดินเขานั้นนานเกินกว่า 2ชั่วโมงแล้วละก็ ผลที่ตามมาอาจจะไม่สวยงามเท่าไรนัก สำหรับการเตรียมตัวขั้นต้นนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก คือ สวมแว่นกันแดดและหมวก รวมถึงดื่มน้ำให้พอเพียงทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากการเดินเขา โดยเรื่องของการรักษาระดับน้ำในร่างกายนี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินเขาเลยทีเดียว และในฤดูฝนของญี่ปุ่นที่มีระดับความชื้นค่อนข้างสูงนี้ ฉันตัดสินใจที่จะเดินทางออกไปไม่ไกลจากใจกลางของนาโงย่ามากนัก และผลลัพธ์ก็ไปลงเอยที่ภูเขาสูง 329เมตร ชื่อ ภูเขาคินคะ แห่งเมืองกิฟุ ซึ่งรางวัลของการพิชิตยอดเขานี้คือ ทิวทัศน์อันงดงามของปราสาทกิฟุซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาคินคะแห่งนี้

เราสามารถเดินทางไปยังเมืองกิฟุได้ด้วยเวลาไม่ถึง 20นาที โดยขึ้นรถไฟสายโทไคโดจากนาโงย่าในราคา 470เยน จากนั้นจึงขึ้นรถบัสสาย N80 จากสถานีไปลงที่สวนกิฟุ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก เนื่องจากมีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษคอยแนะนำอยู่ตลอดการเดินทาง นอกจากนี้สำหรับคนที่ไม่เคยชินหรือไม่ต้องการที่จะปีนเขา ทางตัวเมืองก็มีบริการกระเช้าลอยฟ้าเพื่อส่งตรงนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขาด้วย โดยอัตราค่าบริการจะอยู่ที่ 1080เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 540เยนสำหรับเด็ก ซึ่งนอกเหนือจากการขึ้นสู่ยอดเขาคินคะนี้แล้ว ในเมืองกิฟุยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟอันน่าตื่นตา หรือจะเป็นการตกปลาอย่างเพลิดเพลินที่แม่น้ำนางาระ

สำหรับการปีนขึ้นเขาคินคะนั้น ฉันเลือกเส้นทางชื่อ “登山道登り口” หรือ “เส้นทางที่สร้างขึ้นสำหรับปีนเขา” จากเส้นทางกว่าสิบเส้นทางที่ทางตัวเมืองมีให้เลือก โดยเส้นทางนี้จะยาวประมาณ 1100เมตร และใช้เวลาประมาณ 40นาทีในการเดิน ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความยากระดับปานกลางและเหมาะสำหรับการสัมผัสธรรมชาติของภูเขาที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมือง
ถึงแม้ที่ทางขึ้นเขาจะล้อมรอบไปด้วยผู้คนและเสียงโหวกเหวกต่างๆมากมาย แต่วินาทีที่ฉันก้าวเท้าขึ้นสู่ยอดเขาก็ได้สัมผัสถึงธรรมชาติและสิ่งต่างๆรอบตัว ความรู้สึกของฉันก็ถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งเสียงของนกน้อยที่ขับขาน สัมผัสของสายลมที่ปะทะเข้ากับร่างกาย และสภาพพื้นผิวของเส้นทางขึ้นเขาที่ถูกล้อมรอบไปด้วยร่มไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นโอ๊ค ต้นไซปรัสและต้นสน สิ่งเหล่านี้นั้นช่างตระการตาและเติมเต็มจนยากจะหาคำใดมาเปรียบเทียบอธิบาย โดยระหว่างทางขึ้นเขานั้น ฉันได้พบปะกับผู้คนที่เป็นมิตรมากมาย บ้างก็เป็นนักเดินเขามีฝีมือและมากประสบการณ์ บ้างก็เป็นนักวิ่งวิบาก และบ้างก็เพียงแค่มาใช้วันหยุดเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว ซึ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ฉันได้รู้สึกว่า ภูเขาคินคะแห่งนี้นั้นเป็นที่หลงไหลรักใคร่ของผู้คนหลากหลายรูปแบบและไม่ได้จำกัดอยู่แค่บุคคลประเภทหนึ่งประเภทใดเท่านั้น

ที่ยอดเขาจะมีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่พอสมควร ทั้งร้านค้าเล็กๆ ร้านอาหาร รวมถึงหมู่บ้านกระรอกที่รวบรวมกระรอกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะดูน่าสนใจแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ใช้เวลาไปกับมัน ด้วยว่าฉันมาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่จะสัมผัสกับธรรมชาติและกลิ่นไอแห่งวัฒนธรรมมากกว่าที่จะแวะซื้อของฝากหรือแวะทานอาหาร
ปราสาทกิฟุนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800ปี และครั้งหนึ่ง ในปีค.ศ.1567 ขุนศึกอันดับหนึ่งแห่งยุครณรัฐ (ยุคเซ็นโงคุ) นาม โอดะ โนบุนากะ ก็เคยเข้ายึดและเป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้ โดยในสมัยนั้น บริเวณนี้ได้ถูกเรียกว่า “อิโนะคุจิ” และปราสาทกิฟุแห่งนี้ก็เคยมีชื่อว่า “อินาบะยามะ” ก่อนที่เหล่าผู้ดูแลปราสาทจะเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น กิฟุ และ ปราสาทกิฟุ ในภายหลัง ซึ่งปราสาทเก่าแก่นี้ได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1956 ด้วยฝีมือของอาสาสมัครท้องถิ่น

โดยที่ปราสาทกิฟุนี้ จะมีการจัดแสดงโบราณวัตถุตามยุคสมัยต่างๆที่สามชั้นแรก ส่วนในชั้นที่สี่นั้น จะเป็นชั้นสำหรับชมทิวทัศน์ภายนอก ซึ่งแม้ในวันที่ฉันไปถึงนั้นจะเป็นฤดูฝนที่มีเมฆมาก แต่ภาพของตัวเมืองจากมุมสูงที่มีภูเขาและอ่าวอิเสะอยู่สุดสายตานั้น ก็ยังน่าประทับใจและงามงดหมดจดอย่างยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบโดยแท้จริง

ฉันนั่งพักอยู่ที่นั่นพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเลือกที่จะเดินลงเขาด้วยเส้นทาง “めい想の小径” หรือ “เส้นทางซึ่งความจริงและความฝันมาบรรจบ” ซึ่งเส้นทางนี้จะมีระยะทางประมาณ 2300เมตร และใช้เวลาน้อยกว่า 60นาทีเพื่อถึงที่หมาย โดยถึงแม้ภาพทิวทัศน์และบรรยากาศระหว่างลงเขาจะไม่ได้แตกต่างอะไรกับตอนขึ้นมามากนัก แต่ฉันก็ยังรู้สึกตื้นตันและประทับใจไปกับสายลมเช็นที่พัดมาแตะใบหน้า และภาพทิศทัศน์ของสิ่งรอบตัวอยู่ดี

จุดสตาร์ทและปลายทางของการเดินเขาจะอยู่ที่เดียวกัน คือที่สวนกิฟุ และในช่วงที่ฉันไปเยือนที่นั่น ที่สวนแห่งนี้ก็มีดอกไฮเดรนเยียร์มากมายเบ่งบานรอคอยให้ผู้คนที่แวะเวียนไปได้ชื่นชม
วันนั้น ฉันรู้สึกเหนื่อยและกระหายอย่างมากจนแทบอยากจะขึ้นรถบัสแล้วตรงดิ่งไปที่สถานีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าหากพูดถึงประสบการณ์การปีนเขาคินคะ และการเที่ยวชมปราสาทกิฟุว่าเป็นอย่างไรแล้วละก็ คำตอบเห็นจะเป็นอย่างอื่นไปมิได้นอกจาก “ทั้งสนุกสนานและอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งยวด” ทั้งฉันยังคาดหวังเหลือเกิน ว่าจะได้มีโอกาสค้นหาและเที่ยวชมสิ่งต่างๆที่เมืองแห่งนี้อีก


ผู้แปล ภคิน ธนสารกิจ