หากท่านอยากให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของท่านสมบูรณ์แบบ การไปพักผ่อนที่โรงแรมเรียวคังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เรียวคังคือที่พักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมซึ่งให้อะไรมากกว่าแค่เป็นที่พัก ในปัจจุบันเรียวคังยังคงมีอยู่ถึงแม้จะมีโรงแรมสไตล์ตะวันตกเกิดขึ้นมากมายก็ตาม นอกจากนี้เรียวคังยังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่อยากเข้าถึงกลิ่นไอของวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกด้วย

เมื่อเทียบกับโรงแรมอื่น ๆ แล้วเรียวคังมีเอกลักษณ์ตรงที่มักจะให้บริการอาหารและที่อาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม เนื่องจากเรียวคังได้รับความนิยมตลอดเรื่อยมาจึงทำให้เรียวคังแต่ละที่นั้นไม่ล้าสมัย ในแง่ของการให้บริการที่สะดวกสบายสำหรับชาวต่างชาติ และบริการที่ไม่แพ้กับโรงแรมสมัยใหม่ ในขณะเดียวกันก็ยังคงทำเนียมเดิมเอาไว้ เหมือนดังเช่น วาคามัตสึ เรียวคังที่ตั้งอยู่ในมินามิ ชิตะ

วาคามัตสึตั้งอยู่ในตอนใต้ของแถบชิตะซึ่งอยู่ติดทะเลและมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ท่านจึงสามารถสนุกสนานไปกับการเล่นน้ำทะเลในช่วงหน้าร้อนและสปาสไตล์ญี่ปุ่นตลอดปี การเดินทางไปยังเรียวคังนั้นใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงจากใจกลางเมืองนาโงยะโดยรถไฟ (สายMeitetsu limited express จากสถานีนาโงยะ ไปยังสถานนีอุซึมิ(Utsumi station)) หลังจากนั้น พนักงานของเรียวคังสามารถไปรับท่านได้จาก สถานีอุซึมิ (Utsumi station) ซึ่งห่างจากเรียวคังเพียง 1.4 กิโลเมตร แต่หากท่านเดินทางจากสนามบิน Chūbu Centrair International Airport ท่านสามารถไปถึงเรียวคังได้ภายในครึ่งชั่วโมงโดยแท็กซี่

ตอนใต้ของชิตะขึ้นชื่อทั้งในเรื่องของออนเซ็นและทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะวาคามัตสึ

ห้องพักสะดวกสบายพร้อมวิวทะเล

ห้องพักมาพร้อมฟูกฟุตงที่หนาและนุ่มสบายพอ ๆ กับเตียงนอน ท่านยังสามารถเลือกที่จะต่อฟูกเข้าด้วยกันหรือแยกออกจากกันแบบดับเบิ้ลรูมก็ได้ หรือหากท่านเข้าพักคนเดียวก็สามารถเลือกแบบฟูกเดียวได้เช่นกัน ทั้ง 19 ห้องมีระเบียงและวิวทะเล และที่อาบน้ำแยกซึ่งไม่ค่อยพบเห็นในเรียวคังที่อื่นๆ สิ่งอื่น ๆ ที่มากับห้องคือ ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ ไดร์เป่าผม และอินเตอร์เน็ตwifi

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ทำให้วาคามัตสึแตกต่างจากเรียวคังอื่นๆ คือแทบเบล็ทหน้าจอกว้างที่มาพร้อมกับเมนูภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษซึ่งท่านสามารถจะใช้ควบคุมทุกอย่างในห้องและสามารถเรียกสต๊าฟได้อีกด้วย แทบเบล็ท(หรือไอแพทโปร)นี้สามารถใช้เปิดปิดไฟในตัวห้องรวมไปถึงห้องน้ำ เปิดปิดผ้าม่าน และเปิดเพลงในห้องได้อีกด้วย ท่านสามารถใช้มันจองอาหาร สปาส่วนตัวบนดาดฟ้า หรือสั่งอาหารมาที่ห้องได้อีกเช่นกัน หากท่านเริ่มเบื่อกับการนั่งมองทะเลท่านก็สามารถชมภาพยนต์จากnetflixได้อีกด้วย

เทคโนโลยีและความสะดวกสบายที่ถูกผสมผสานเข้ากับบรรยากาศดั้งเดิมนั้นทำให้ที่นี่น่าสนใจมาก และไม่ใช่เพียงไอแพทเท่านั้นที่น่าสนใจ แม้แต่ตัวห้องน้ำเองทีก็ยังมีดีไซน์ไม้ที่เข้ากับอินทีเรียแบบดั่งเดิมของห้องอีกด้วย

ประสบการณ์ออนเซ็นที่

แม้จะไม่มีขนาดใหญ่มากแต่วาคามัตสึก็มีบ่อให้แช่อยู่มากมาย โดยบ่อที่น่าสนใจที่สุดคือบ่อในสปาชั้นดาดฟ้า ซึ่งสามารถแช่ได้สี่ท่าน จินตนาการช่วงเวลาผ่อนคลายของท่านกับคู่ของท่านหรือช่วงเวลาสนุกสนานกับครอบครัว นีเป็นสิ่งที่ท่านอาจทำไม่ได้ในบ่อที่แยกเพศ นอกจากนี้ท่านยังได้มีโอกาสมองพระอาทิตย์ตกดินริมทะเลจากมุมนี้ได้อีกด้วย

ในบริเวณล็อบบี้มีออนเซ็นเท้าให้ท่านได้พักเท้าระหว่างชมวิวต้นสนและทะเลพร้อมกับเซล์ฟเซอร์วิสบาร์ที่ท่านสามารถเลือกสาเกชั้นเลิศเช่น นิฮงชู อูเมะชู หรือวิสกี้ญี่ปุ่นมาลองชิมได้ เครื่องที่บาร์จะรินเหล้าช็อทให้ท่านและชาร์จค่าใช้จ่ายรวมกับบิลห้องทันที

ในตัวเลือกทั้งหมดยังมีอีกบ่อที่ควรพูดถึงคือบ่อฮิโนคิซึ่งทำมาจากไม้และดีไซน์แบบดั่งเดิมเข้ากับบรรยากาศห้อง เมื่อเติมน้ำร้อนเข้าไปจะได้กลิ่นหอมของไม้ ในบางบ่ออาจกำหนดว่าเพศใดสามารถลงแช่ได้แต่บ่อฮิโนคิเปิดให้ทุกคนได้ลองแช่ได้ตามอัธยาศัย

อาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ

วาคามัตสึมีตัวเลือกอยู่สองแบบ หนึ่งคือเข้าพักพร้อมอาหาร ซึ่งจะเป็นสไตล์ไคเซคิ เรียวริ หรือ อาหารดั่งเดิมแบบหลากหลายคอร์สและอาหารญี่ปุ่นแบบอาลาคาร์ท อาหารทำมาจากส่วนผสมท้องที่เช่นอาหารทะเล ได้ และเนื้อ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู

ท่านสามารถจองอาหารหรือมื้อเย็นเอาไว้สำหรับเวลาอื่นได้อีกด้วยซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างหายากในเรียวคังอื่นๆและอาจช่วยให้ท่านสะดวกสบายขึ้นในกรณีที่ท่านต้องการเดินทางไปหลายๆที่ แต่ทางเราแนะนำให้ท่านได้ลองทานมื้อเย็นที่เรียวคังดูสักครั้ง ด้วยเหตุผลดังนี้

มื้อเย็นแบบไคเซคิเรียวริมีอาหารมากมายกว่าสิบสองคอร์สซึ่งถูกเลือกสรรค์มาอย่างดีโดยเชฟ ซึ่งแต่ละจานจะมีเพียงไม่กี่คำและหากท่านไม่คุ้นชินกับอาหารญี่ปุ่น ไคเซคิ เรียวริอาจเป็นประสบการณ์เริ่มต้นที่ดีเพราะจะสามารถนำเสนออาหารชั้นเลิศอันหลากหลายของแต่ละฤดูให้ท่านได้ลองชิม หรือแม้แต่ท่านที่ใช้เวลาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมานานแล้ว การทานอาหารแบบไคเซคิ เรียวริทุกๆครั้งก็มักเป็นประสบการณ์แปลกใหม่เสมอ

ถึงแม้ไคเซคิ เรียวริจะประกอบไปด้วยอาหารที่ท่านอาจคุ้นเคยอยู่แล้วแต่ท่านก็อาจได้แปลกใจไปกับประเภทของปลาที่ถูกนำมาเซิร์ฟในรูปแบบซาชิมิ หากท่านไม่ใช่คนที่ชอบทานปลาดิบเสียเท่าไร ท่านก็ยังสามารถดื่มด่ำไปกับความอร่อยของอาหารทะเลต้มในคอร์สอื่นๆได้อีกเช่นกัน นิโมโนะหรือของต้มที่ทางเราได้ชิมในช่วงเดือนกันยายมนั้นประกอบไปด้วยฮาโมะ (conger pike) ซึ่งมีความเหนียวหนึบเล็กน้อย อีกหนึ่งจานที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือรสชาติอันลงตัวของปูวาตาริกานิในนินเซ็นจิ ชาวังมูชิ (ไข่ฟูปู) และเห็ดชิทาเกะ ท่านจะสามารถรู้สึกได้ถึงฤดูทั้งสี่ของญี่ปุ่นเมื่อท่านได้ลองลิ้มรสอาหารที่นี่

หากท่านชอบทานสัตว์ปีกมากกว่าปลาท่านก็จะไม่ผิดหวังเช่นกัน ประเทศญี่ปุ่นตอนกลางนั้นมีความขึ้นชื่อเรื่องความรักที่มีต่อเนื้อไก่เป็นอย่างมาก จึงมีหลากหลายสายพันธุ์ที่ยังคงถูกเลี้ยงในแบบเดิมแตกต่างจากการเลี้ยงฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน หนึ่งในคอร์สที่ค่อนข้างใหญ่ที่เราได้ลองคือโอคุมิโนะ จิโดริ (สายพันธุ์ไก่จากเมืองกิฟุ)ที่มากับมะเขือและหอมไชเท้า จานนี้สร้างความประหลาดใจค่อนข้างมากทีเดียวด้วยความที่คิดมาเสมอว่าไก่ที่อร่อยที่สุดคือไก่โคชินจากนาโงยะ แต่จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมคิดว่าโอคุมิโนะ โดริได้กลายเป็นไก่ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยชิมมาเลยทีเดียว

หากนี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเคยทานอาหารสไตล์ไคเซคิ เรียวริ ท่านอาจเกิดความงุนงงเล็กน้อยกับลำดับการเซิร์ฟอาหารอยู่บ้าง ปกติแล้วจะมีการเซิร์ฟสองสามจานพร้อมกัน แต่อย่าได้กังวลเพราะท่านสามารถเลือกได้ว่าอยากทานจานใดเมื่อไร ถึงจะกล่าวเช่นนั้นแต่ปกติแล้วตามทำเนียมจานสุดท้ายมักจะเป็นข้าวและทสึเคโมโนะ (ของดอง)เสียส่วนใหญ่ หากท่านรู้สึกว่าอิ่มแล้วหรืออยากเหลือที่เอาไว้สำหรับของหวาน ท่านสามารถเลือกที่จะไม่ทานข้าวได้เช่นกัน

ไคเซคิ เรียวริที่วาคามัตสึมีตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบของหวานด้วยเช่นกัน อาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องการผสมผสานระหว่างรสหวานและของคาวแต่มักจะมีของหวานตบท้ายมื้ออยู่เสมอ ในตอนนั้นของหวานที่มาเซิร์ฟคือเชอร์เบทรสมะนาวและผลไม้แช่อิ่มในไวน์ การผสมรสหวานของผลไม้และรสเปรี้ยวเล็กน้อยของมะนาว รวมไปถึงความเย็นของเชอร์เบทและความอุ่นของไวน์ ทำให้เกิดความลงตัวที่ดีมากทีเดียวสำหรับอาหารมื้อนี้

• Spot Info