| กองบรรณาธิการCentrip

นาโกย่าเอะคิเมงโทริ ลิ้มรสราเม็งจากทั่วญี่ปุ่นที่สถานีนาโกย่า

คุณรู้หรือไม่ว่า มีสถานที่ที่คุณสามารถรับประทานราเม็งชั้นนำจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้ที่สถานี JR นาโกย่า สถานที่ที่ว่านั้นคือ "นาโกย่าเอะคิเมงโทริ(ถนนสายราเมง)" จากตู้ขายตั๋วชินคันเซ็น คุณสามารถมาถึงที่นี่ได้เพียงแค่เดินไปตามทางเดินของสถานี สามารถลิ้มลองราเม็งรสชาติที่คุณอยากได้โดยไม่ต้องเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นแถมยังสามารถลองเทียบรสชาติราเม็งต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสนุกกับแชร์อาหารหลากหลายประเภทกับเพื่อนร่วมทาง แต่เนื่องจากมีให้เลือกเยอะมาก สับสนใช่มั้ยล่ะคะว่าจะไปร้านไหนดี ครั้งนี้เราจะมาแนะนำราเม็งแต่ละชนิดจาก "นาโกย่าเอะคิเมงโทริ" ลองเลือกจากที่เราแนะนำแล้วไปชิมดูนะคะ

驛麺通りへの行き方

ในสถานีนาโกย่ามีถนนอาหารถึง 4 แห่งด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือ “ ถนนสายราเม็ง”

คนที่เดินทางมาด้วยชินคันเซ็น หากออกจาก "ประตูชินคันเซ็นทางทิศใต้" จะพบสายราเม็งอยู่ข้าง ๆ

อีกวิธีหนึ่งคือเมื่อเดินเข้ามาสู่สถานีนาโกย่าผ่านทางไทโกะโดริ คุณจะอยู่ในพื้นที่ที่มีนาฬิกาสีเงินและจะพบทางเข้าสู่เอะคิเมงโทริ อยู่ทางด้านขวาของคุณ จากนั้นลงบันได ข้างในจะมีร้านอาหารราเมน 7 แห่งซึ่งหนึ่งในนั้น มีราเมนแบบที่เสิร์ฟเฉพาะในเวลาพิเศษให้บริการด้วย

แนะนำเกี่ยวกับเอะคิเมงโทริ

เอะคิเมงโทริที่สถานีนาโกย่านั้นไม่กว้างมาก มีทางเดินกว้างพอให้คนสองคนเดินสวนกันเท่านั้น ในถนนราเมงสั้น ๆ นี้มีร้านราเม็งชื่อดังจากทั่วญี่ปุ่นอยู่ 7 แห่ง ในร้านราเมนมีที่นั่งไม่มากนักและพอถีงเวลาอาหารก็จะแน่นขนัดไปทุกร้าน แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะว่าการเข้าออกของลูกทค้าที่นี่ถือว่าเร็วมาก รอไม่นานคุณก็ได้เข้าไปทานราเมงที่แสนอร่อยแล้วค่ะ

“ร้านนาโกย่า” เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 - 23:00 น. แต่ร้านราเมนอื่น ๆ จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 - 22:00 น. ต่อไป เราจะขอแนะนำราเมงของแต่ละร้าน ลองหาร้านที่ถูกใจดูนะคะ!

นาโกย่า (นาโกย่าราเม็ง)
คนรักเนื้อไก่ต้องไม่พลาด! ราเม็งที่ใช้ไก่ที่เป็นเอกลักษณ์ของนาโกย่า

น้ำซุปใสที่ต้มด้วยความพิถีพิถัน จากการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของนาโกย่าที่คนนาโกย่าภาคภูมิใจ “นาโกย่าโคจิน(เนื้อไก่นาโกย่า)” จนทำให้ได้รสชาติอันกลมกล่อม เมนู “นาโกย่าโคจิน ชิโอะ ราเม็ง” มีเสน่ห์อยู่ที่น้ำซุปที่จะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกอบอุ่น หากลองใส่พริกไทยรสชาติจะเข้มข้นขึ้น ใครที่ชอบทานเผ็ดแนะนำให้ลองใส่ดู ในส่วนของเครื่องเคียงต่างๆในราเมง มีดังต่อไปนี้ ต้นหอมเม็มมะ(หน้อไม้ปรุงรส) และ “นาโกย่าโคจิน(เนื้อไก่นาโกย่า)” สำหรับเนื้อไก่ทำมาจากเนื้ออก ทำให้ได้รสชาติที่ชุ่มฉ่ำและอร่อย ที่เป็นที่นิยมมากเลยทีเดียว
แล้วก็อย่าลืมชิม “นาโกย่าโคจิน ชิโอะ ราเม็ง” ด้วยนะคะ ใครที่ชอบรสชาติเข้มข้นแนะนำว่าต้องสั่งเมนูนี้ให้ได้ เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับน้ำซุปที่ข้นและอร่อย

อินาเสะ (Tokyo Ramen)
หากคุณต้องการลิ้มรสราเมงที่มีรสชาติเข้มข้นถึงใจในถนนสายราเมนนี้ละก็ ต้องมาที่นี่!

ราเมงที่มีเส้นอยู่ในซุปอย่าง“ โนโค เกียวไค ทงคตสึ ราเมง” และราเมงที่แตกต่างไปจากชนิดแรกอย่างสิ้นเชิง “ โนโค เกียวไค สึเคะเมง” ที่มาในรูปแบบของบะหมี่แยกกับซุป ซุปมีทงคตสึหรือน้ำซุปกระดูกหมูเป็นเบสและและสุพจน์ป่าที่มีรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม เส้นมีความกรุบ เป็นแบบเส้นหนาและตรง เรียกได้ว่าเป็นราเมงที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับเส้นที่เหนียวนุ่มและรสชาติที่กลมกล่อมของน้ำซุป สำหรับใครที่คิดว่าอยากจะลองรับประทานราเมงที่มีรสชาติเข้มข้นใน “ นาโกย่าเอะคิเมงโดริ”ล่ะก็ ขอแนะนำให้คุณไปที่ร้าน อินาโยะ สนุกไปกับการรับประทาน “สึเคะเมง” ที่เพียงแค่บีบมะนาวใส่ก็จะมีรสชาติที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังสามารถปรุงรสได้ตามที่คุณชอบ เราขอแนะนำไข่ต้มสำหรับรับประทานกับซุปที่เข้มข้นนี้ อย่าลืมสั่งเพิ่มกันด้วยนะคะ

เรียวโก (ฮาโกดาเตะราเมน)
หากชอบรสชาติแบบใสๆต้องที่นี่เลย

ร้านนี้เป็นร้านที่ขาย“ ฮาโกดาเตะราเมน”ราเมงที่ถือกำเนิดในเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกิดในฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าคุณจะไม่สามารถไปฮอกไกโดได้ คุณก็สามารถลิ้มรสชาติดั้งเดิมในนาโกย่าได้!

มีเมนูให้เลือกหลากหลายแต่ก่อนอื่นเลยขอแนะนำให้เลือก “ ชิโอะ ราเมง” ซุปมีรสเค็มสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งทำมาจากน้ำซุปที่นำมาจากมะคอมบุ / สาหร่ายทะเลญี่ปุ่นจากฮอกไกโด และหอยโฮะทะเทะ หอยเชลล์ที่เก็บจากรังว่างในฮอกไกโด น้ำซุปใสมีรสชาติที่อ่อนโยนจนทำให้คุณสามารถดื่มน้ำซุปได้จนหมดถ้วย

นอกจาก “ชิโอะ ราเมง” แล้ว ยังมีเมนูที่ทางร้านแนะนำนั่นคือ “โชยุ ราเมง” น้ำซุปปรุงรสด้วยมะคอมบุ / สาหร่ายทะเลญี่ปุ่น รวมกับน้ำซุปที่ทำจากกระดูกหมูและกระดูกไก่ บะหมี่เส้นแบน เป็นบะหมี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮาโกดาเตะ กินง่ายและเหมาะสำหรับการกินหลังดื่มเหล้า เคาน์เตอร์มีเพียง 8 ที่นั่งเท่านั้น อาจจะต้องเข้าแถวรอบ้างแต่เราเพียงสักพักก็จะได้เข้าไปรับประทาน

คุระมะจิ (ราเมงคิตะคะตะ)
รสชาติจากซอสถั่วเหลืองที่ทำให้คนญี่ปุ่นนึกถึงความหลัง ชาวต่างชาติได้ชิมก็จะต้องคิดเหมือนกันแน่นอน

“โชยุราเมง” ราเมงที่สามารถรับประทานที่นี่ ให้รสชาติของซอสถั่วเหลืองแบบสมัยก่อน รับรองว่าคนญี่ปุ่นที่ได้รับประทานจะต้องนึกถึงความหลังแน่นอน “คุระมะจิ” เป็น 1 ใน 3 ของ Ramen ที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของญี่ปุ่น ซึ่งขายอยู่ในร้าน “คิตะคะตะ”

น้ำซุปทำมาจาก นิโบชิ / ปลาซาร์ดีนที่ต้มและตากแห้ง ไม่มีกลิ่นคาว มีกลิ่นหอมของปลาทะเล เส้นราเมงหนาและเด้ง ความหนากำลังพอดีและแบนเล็กน้อย ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ทานแล้วจะต้องติดใจ อีกหนึ่งไอเท็มยอดนิยมคือ“ นิคุโซบะ” มีเนื้อหมูชาชู(หมูย่าง) หลายชิ้น อยู่ในราเม็งและเป็นที่นิยมของพนักงานออฟฟิศที่ต้องการรับประทานแบบเยอะ ๆ

ขอแนะนำว่าหากเพิ่มเงินอีก 290 เยน จะได้เซ็ทที่มี “ข้าวหน้าคัทซึราดซอส” หากมากันสองคนหรือมากกว่านั้นก็ลองแชร์กันดูนะคะ และเนืี่องจากที่ร้านนี้มีหลายที่นั่ง จึงไม่ต้องกังวลหากมีคนมาก

โฮคุโตะเท (ซัปโปโรราเม็ง)
เมนูที่จะเรียกน้ำย่อยด้วยกลิ่นหอมของหัวหอมและมิโซะ

เมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของ “โฮคุโตะเท” คือ มิโซะราเม็ง ซึ่งซุปมิโซะทำจากซุปมิโซะฮอกไกโดที่มีน้ำมันหอมระเหยโรยหน้า ราเม็งรสชาติดั้งเดิมในฮอกไกโดคือรสมิโซะ รสชาติที่เป็นที่ต้องการในเขตที่หนาวเย็น จะรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้รับประทาน ซุปถูกเนื่องจากซึปโรยด้วยน้ำมัน ดังนั้นน้ำซุปจะเย็นยาก แต่ระวังว่าจะลวกปากนะคะ เพราะร้อนมาก ๆ เส้นราเมงเป็นเส้นแบบหยักที่มีความหนากำลังดี เข้ากับน้ำซุปหอม ๆ ได้เป็นอย่างดี ลองทานกับไข่ต้มและข้าวโพดคลุกเนยดูนะคะ แต่เนื่องจากเมนูราเมงที่สั่งจะออกมาในรูปแบบเส้นในซุป กรุณาบอกพนักงานก่อนว่า “ขอแยกน้ำด้วยนะ” ที่ “โฮะคุโตะเท” นอกจาก “มิโซะราเมง” แล้วยังมี"ราเมนซอสถั่วเหลืองพริกเผา" ที่แตกต่างจากราเมนซอสถั่วเหลืองแบบดั้งเดิม เพราะเป็นราเมงที่มีเต็มไปด้วยน้ำมันรายุ(น้ำมันพริก)กับกระเทียมป่น

อิปปุโด(ฮะคะตะราเมง)
ร้านราเม็งกระดูกหมูยอดฮิตที่ขยายสาขาไปสู่กว่า 10 ประเทศทั่วโลก

ในบรรดาราเมงซุปกระดูกหมูที่มีรสชาติเข้มข้น ยังมีราเมงของอิปปุโดะที่ไม่มีกลิ่นแรงและมีรสชาติที่นุ่มนวล คุณอาจจะกำลังคิดใช่มั้ยว่าจะกิน“ ชิโระโมะรุ แบบคลาสสิค” หรือ“อะคะมะรุ แบบโมเดิร์น” ใช่มั้ยล่ะ สำหรับ “ชิโระโมะรุ แบบคลาสสิค” เป็นเมนูที่ถูกคิดค้นมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ราเมงแบบที่ได้รับการสึบทอดกันมา โดยการปรับปรุงซุปอยู่หลายต่อหลายครั้ง น้ำซุปไม่มันจนมากเกินไป ทำให้เมนูนี้เป็นที่นิยมในผู้หญิงและผู้สูงอายุ ที่โต๊ะยังมี “ถั่วงอกหมักแบบเผ็ดเล็กน้อย ”ที่ทานได้ไม่อั้น ให้ได้ลองทานกับราเมงอีกด้วย
"อะคะมะรุ แบบโมเดิร์น" เป็นรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้นด้วยซอสถั่วเหลืองและเครื่องเทศหลายอย่างที่เพิ่มเข้าไปในซุปกระดูกหมู ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้น ลองปรุงเพิ่มด้วยน้ำมันปรุงรสกับมิโสะเผ็ดที่ทางร้านทำเองดูสิ แล้วคุณจะได้สนุกไปกับรสชาติที่เปลี่ยนไป

สรุป

 

"นาโกย่าเอะคิเม็งโทริ" มีร้านราเมงเปิดให้บริการ 7 ร้านด้วยกัน วันนี้เราแนะนำเพียง 6 ร้านเท่านั้น เพราะอีกหนึ่งร้านนั้นมักจะเป็นร้านที่มาในแบบมีเวลาจำกัด แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี ก่อนไปกรุณาตรวจสอบดูนะคะ และตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2019 ราเม็งจากโทะโฮะคุ・ทสึรุกะของญี่ปุ่นกำลังเปิดให้บริการ ซึ่งราเมงของที่นี่เกิดจากการรวมกันระหว่าง น้ำซุปจากนิโบชิ ( ปลาซาร์ดีนที่ต้มและนำไปตากแห้ง)และน้ำซุปสีขาวข้นที่ปรุงจากเนื้อไก่และเนื้อหมูชื่อว่า ”นะกะโอะ ชูกะ โซบะ” แนะนำให้ลองชิมและเทียบรสชาติของราเม็งดูหลายๆรูปแบบ สนุกกับประสบการณ์แสนอร่อยแล้วเก็บความทรงจำดีๆกลับบ้าน
เอะคิเม็งโทริ มีทางเดินที่แคบและมีที่นั่งน้อยทำให้ต้องรอต่อคิว เวลาที่ต่อแถวกรุณาระวังสัมภาระไม่ให้รบกวนคนอื่น และเมื่อรับประทานเสร็จแล้วให้รีบออกจากร้านทันที การเห็นใจคนอื่นที่รอรับประทานอยู่จะทำให้คุณดูเท่ไปอีกขั้น

 

Related Articles Related Articles