| Hannah Tsai

พบกับนาโกย่าในมุมที่แตกต่างกับลายแทงที่เที่ยวสุดเก๋ในนาโกย่า

แม้จะไม่ใช่เมืองแฟชั่นเหมือนโตเกียวและไม่เก่าแก่เหมือนเกียวโต แต่ "ที่ท่องเที่ยวสุดเก๋" ในนาโกย่านั้น มีความย้อนยุคผสมผสานกับกลิ่นอายของท้องถิ่นและดูย้อนยุค บางครั้งอาจจะรู้สึกว่าดูเก่า แต่ผู้เขียนคิดว่านั่นคือเสน่ห์ของนาโกย่า

วันนี้เรามาสนุกไปกับวัฒนธรรมในเมืองที่วุ่นวายอย่างนาโกย่ากับ Centrip Japan กันค่ะ

เคล็ดลับประหยัดเงิน : ตั๋ว 1 วันกับรถไฟใต้ดินนาโกย่า

หากคุณต้องการแวะหลายสถานที่ใน 1 วัน เราขอแนะนำตั๋ว 1 วัน รถไฟใต้ดินนาโกย่า ยิ่งสถานที่วินเทจทั้งหมดที่เราจะแนะนำในครั้งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน ดังนั้นจึงน่าจะคุ้มกว่าถ้าใช้ตั๋ววัน ตั๋วนี้สามารถใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้ไม่จำกัดรอบ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงในนาโกย่า ผู้ใหญ่ราคา 760 เยนและเด็กราคา 380 เยน

ในวันเสาร์วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และในวันที่ 8 ของทุกเดือน คุณสามารถใช้ "ตั๋วโดะนิจิ" ขึ้นรถบัสและรถไฟใต้ดินได้หนึ่งวันโดยไม่จำกัดจำนวนรอบ 620 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 310 เยนสำหรับเด็ก คุ้มมากสำหรับคนที่ต้องการขึ้น 3 รอบขึ้นไป

9: 00 ชิเคะมิจิ : ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารเช้าในเมืองนาโกย่า (สถานีมารุโนะอุจิ)

หากได้ไปนาโกย่า ตื่นแต่เช้าและอย่าพลาดประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของนาโกย่าอย่าง “มอร์นิ่ง”

ก่อนอื่นมาดื่มกาแฟที่ชิเคะมิจิซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของตัวเมือง ในปี 1610 ชิเคะมิจิเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองล่างปราสาทของเหล่าพ่อค้า เมื่อ 400 ปีก่อน ที่นี่โจมตีทางอากาศ ณ ปัจจุบันยังเหลือสภาพเมืองโบราณและผนังสีขาวจำนวนมากหลงเหลืออยู่ อีกทั้งในสมัยก่อนยังมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ชื่อว่า “ยาเนะคามิ” หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่บนหลังคาของบ้านเก่าให้ชมอีกด้วย

ชิเคะมิจิเงียบสงบอยู่เสมอ ผู้คนไม่ค่อยมีมากนัก แต่มีร้านกาแฟและร้านอาหารดี ๆ มากมายแอบซ่อนอยู่ในบ้านเก่า ๆ แถวนี้ เดินเล่นแล้วแวะร้านกาแฟน่ารัก ๆ ซักที่ ถือเป็นวิธีการเดินเล่นที่ดีที่สุดในชิเคะมิจิ

เรโทรคาเฟ่: คาเฟ่ New Poppy

คาเฟ่แนวเรโทรที่จะมาแนะนำ ชื่อว่า "คาเฟ่ New Poppy" ที่มาพร้อมกับบรรยากาศย้อนยุค เจ้าของคาเฟ่เล่าว่า ร้านนี้เป็นร้านที่เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ของเขา ซึ่งเปิดมานานกว่า 30 ปี ผสมผสานสไตล์เก่ากับความทันสมัยไว้ด้วยกัน กาแฟดำที่เป็นตัวท็อปของที่นี่ เป็นกาแฟที่สั่งจากติมอร์ตะวันออกที่ถูกคั่วในบ้าน สื่อถึงรสนิยมสมัยเก่าที่ส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ในอาคารโกดังเพดานสูงแบบสไตล์ญี่ปุ่น มีห้องใต้หลังคาห้องเล็ก ๆ ทั้งเงียบสงบและมีความเก่าแก่ ซึ่งอาจจะทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกของนักเขียนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้หลังคาในยุค 70 เพื่อเขียนหนังสือก็ได้

บริการอาหารเช้าเริ่ม 8 โมง ถึง 11 โมง สั่งเครื่องดื่มเพียง 1 แก้ว จะได้รับ “ขนมปังปิ้ง (เลือกได้ระหว่างขนมปังขาวกับขนมปังงาดำ) + ไข่ต้ม + สลัด '',และหากสั่งขนมปัง 100 เยนเพิ่ม จะได้รับถั่วแดงบดและแยมกระเจี๊ยบอีกด้วย

ถั่วแดงบดของคาเฟ่ New Poppy เป็นแบบคลาสสิก ถั่วแดงกลิ่นนมจาง ๆ นี้ทำด้วยฝีมือของแม่ของเจ้าของคาเฟ่ มีความหวานสดชื่นไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับสลัดงาและมันฝรั่งบดที่ทางร้านทำเอง เห็นเยอะขนาดนี้ ราคาเพียง 650 เยน เท่านั้นนะคะ !

นอกจากช่วงเช้าแล้ว เราขอแนะนำเมนูบนป้ายอย่าง "เทปปัง ไอซ์ โคะคุระ โทสต์ (810 เยน) "และ" ข้าวหน้าแกงกระหรี่ (850 เยน) " มาฟังเสียงของทรายและเมล็ดถั่วจากชั้นล่างไปพร้อมกับใช้เวลาในคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยความสุขที่คุณสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของนาโกย่าได้

11:00 น. สวนสาธารณะเมโจ: เยี่ยมชมตัวเมือง (สถานีเมโจโคเอ็น)

สวนเมโจตั้งติดกับปราสาทนาโกย่า ไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเที่ยวแวะไปเดินเล่นหลังชมปราสาทนาโกย่าเสร็จเท่านั้น แต่ชาวเมืองนาโกย่าเองก็ไปวิ่งจ๊อกกิ้งและเดินเล่นกับลูก ๆที่นั่นอีกด้วย
“โทนาริโนะ” อาคารไม้ที่มีรูปทรงเหมือนงานศิลปะที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสวนเมโจนั้น จะดึงดูดสายตาของคุณทุกครั้งที่ผ่าน แต่เดิมที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งสตาร์บัคส์ ร้านอาหาร ร้านค้ากีฬา ฯลฯ

วันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุก ๆ เดือน ตั้งแต่ 10:00 น. ถึง 16:00 น. จะมีตลาดนัดชื่อ " Tonarino marche "ที่จัดขึ้นหน้า " โทนาริโนะ" มีเครื่องประดับแฮนด์เมด แผงลอย ผักผลไม้ แยมโฮมเมด ฯลฯ วางขายให้ได้เลือกซื้อ เป็นตลาดนัดที่มีแค่คนในเมืองเท่านั้นที่รู้จัก มาลองแวะที่ตลาดแล้วชอปปิ้งในเช้าวันหยุดแบบผ่อนคลายอย่างชาวนาโกย่ากันดูค่ะ

13:00 คะคุโอซัง: คาเฟ่สุดแนว&สินค้าสุดเก๋ (สถานีคะคุโอซัง)

หากคุณบอกคนของนาโกย่าว่า คุณอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีคะคุโอซัง แน่นอนว่าปฏิกิริยาแรกของพวกเขาจะเป็น "แถวนั้นไฮโซมากเลยเนอะ" ใช่ค่ะ ที่คะคุโอซังไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งรวมของร้านค้าเล็ก ๆ และร้านขายของกระจุกกระจิกเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ ๆ ง่ายต่อการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ การันตีด้วยรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในด้านของ `` สถานที่ที่น่าอยู่ที่สุดในนาโกย่า '' ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่หรูหรามากเลยล่ะค่ะ

ย่านคะคุโอซัง มีสถานชื่อดังอย่าง "วัดนิไทจิ(วัดไทย)"ตั้งอยู่และมีเส้นทางตรงยาวที่ข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารสไตล์ญี่ปุ่นที่ชวนให้นึกถึงอดีดหลายหลัง บางร้านก็เป็นสไตล์ยุโรปแบบน่ารัก ๆ

ที่นี่มีทั้งร้านขายของและร้านขนมอยู่รวมกันหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น ร้าน “kususu” ที่ขายกระดุมโดยเฉพาะ, “ร้านชา เอโคะคุยะ” ร้านขายชาที่เลือกชาที่ชอบได้ตามใจ , “QOQONON” ร้านพุดดิ้งยอดนิยม, “chez-Shibata” ร้านเค้กที่ได้รับรางวัลมาหลายต่อหลายครั้ง ฯลฯ เรียกได้ว่าจะทำให้คุณลืมเวลาได้เลยล่ะค่ะ

ฮาวายเอี้ยนคาเฟ่ HaleLani Terrace

ร้านกาแฟสไตล์ฮาวาย HaleLani Terrace แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณริมทางเดิน บรรยากาศในร้านอาหารชวนให้เหมือนเราได้เข้าไปในเกาะเล็ก ๆ ผสมผสานกับการตกแต่งที่ทันสมัย, ผ้าม่านทราย, ต้นไม้สีเขียว รวมไปถึงของตกแต่งจากฮาวาย เพื่อให้ลูกค้ากลับไปพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าเราไปฮาวายมา

เมนูส่วนใหญ่เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ ผู้เขียนลองสั่ง Mermaid Bowl (990 เยน) ชื่อดังมาลองดูค่ะ เป็นสมูทตี้ที่ข้างบนมีลวดลายเหมือนหินอ่อน มองดูสวยงาม แถมรสชาติก็ไม่หวานเกินไป ดื่มแล้วสดชื่น

16:00 โอสึ : ตามล่าหาสมบัติที่ร้านขายเสื้อผ้ามือสองสุดแนว (สถานีคามิมาเอะทสึ)

โอสึเป็นจุดที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนนาโกย่า ที่นี่เป็นเป็นย่านช็อปปิ้ง ที่รวมเอาทั้ง อนิเมะ เสื้อผ้ามือสองและอาหารนานาชาติมารวมกัน หากเปรียบคะคุโอซังเป็นชายหนุ่มผู้รอบรู้ โอสึก็เปรียบได้กับเด็กน้อยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่อไปเราจะพูดถึงการหาร้านขายเสื้อผ้ามือสองในโอสึกันค่ะ !

store in history: เสื้อผ้ามือสองที่วินเทจและเรียบง่าย ใส่ได้จริง

พอเข้าไปในร้าน คุณจะถูกดูดไปสู่แฟชั่นที่แปลกตา เสื้อผ้าที่แสนมีเอกลักษณ์ถูกแขวนลงมาจากเพดาน ทำให้คุณได้สนุกกับการเดินไปรอบ ๆ ป่าของเสื้อผ้า และถ้าลองมองดูดี ๆ ไม้แขวนเสื้อที่ใช้เหมือนจะเป็นกิ่งไม้เลยล่ะค่ะ

ที่ store in history มีเสื้อผ้า เครื่องประดับและของใช้ในบ้านมากมายทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศ มีเสื้อผ้าไม่จำกัดอายุผู้ใส่และมีทั้งเสื้อผ้าเก่าและใหม่อยู่รวมกันมากมาย อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าจากวัฒนธรรมและแฟชั่นของแต่ละประเทศได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากซื้อเสื้อผ้าที่ store in history ว่า “เอ มันจะดูเว่อร์ไปมั้ยนะ” เชื่อเถอะค่ะ เสื้อผ้าที่คุณซื้อนั้นไม่ซ้ำกับเสื้อผ้าที่ขายในห้างสรรพสินค้าแน่นอน เสื้อผ้าลายดอกไม้เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ดูดีมีรสนิยมและมีราคาที่พอเหมาะ มือใหม่หัดใช้เสื้อผ้ามือสองต้องมาลองดูนะคะ!

store in history

ที่ตั้ง:〒460-0011 愛知県名古屋市中区大須3丁目13-28
เวลาทำการ:11:00-20:00

BIG TIME : สวรรค์แห่งโลกตะวันตก

BIG TIME เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น เต็มไปด้วยเสื้อผ้าสไตล์อเมริกันนับพันชิ้น เสื้อผ้าส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นสไตล์คันทรี่จากยุค 40s-90s มีสีสันที่สดใส ทำให้ดูเป็นสไตล์ที่ดูบาดตาไม่ซ้ำใคร มีตั้งแต่เครื่องแบบทหารสไตล์อเมริกันยอดนิยมไปจนถึง เสื้อคลุม รองเท้าบู๊ท กระโปรงสุ่มและหมวกยีนส์ ถ้าลองใส่ครบทุกอย่าง คุณจะกลายเป็นดาราหนังอเมริกาทันที !
หากคุณสนใจแฟชั่นและชอบเสื้อผ้าที่มีเสน่ห์ที่แตกต่าง BIG TIME คือสวรรค์ของคุณ

กำลังคิดว่าต่างหูมือสองจากอเมริกาคู่นี้ เป็นของสะสมของคุณย่าชาวอเมริกันหรือเปล่านะ
ชุดเดรสย้อนยุคสะท้อนความเป็นตัวคุณ

BIG TIME

ที่ตั้ง:愛知県名古屋市中区大須3-16-14 1F・2F・B1F
เวลาทำการ:11:00-21:00

19:00 Global Gate : ห้างสรรพสินค้ากรีนเนเชอรัล (สถานีนาโกย่า)

ไม่ไกลจากสถานีนาโกย่า สถานีที่มีอาคารพาณิชย์เรียงราย ยังมีสถานที่สุดเก๋อีกที่ ! เพียงเดินจากสถานีนาโกย่าไปทางใต้ประมาณ 10 นาที พอพ้นผู้คน คุณก็จะได้พบกับห้าง “GLOBAL GATE”

GLOBAL GATE เป็นสถานที่เชิงพาณิชย์ที่ได้มีการรวบรวมร้านเครื่องประดับ แฟชั่น ร้านหนังสือ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้คอนเซปต์ "Green Natural" ภายนอกอาคารล้อมรอบด้วยต้นไม้สีเขียวและบนชั้นดาดฟ้าเป็นหญ้าสีเขียวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชสมุนไพรและผัก ซึ่งเป็นการออกแบบที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสดชื่น และยังสามารถมองเห็นเงาสะท้อนจากอาคารระฟ้าแถวสถานีนาโกย่าอีกด้วย

ร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้ญี่ปุ่น XYL
ร้านตกแต่งภายใน garage

เมื่อเข้าไปใน GLOBAL GATE รู้สึกว่าสิ่งที่เหมือน ๆ กันของที่นี่คือ“ เซนส์การออกแบบ” และอีกอย่างนึงคือ “ความมีสไตล์” ตั้งแต่ภาชนะอาหารยันของใช้เด็กอ่อน

ดอกไม้แห้ง, กระจกติดไฟ, เทียนออร์แกนิก, ฯลฯ เรียงรายอยู่บนชั้นวางของในร้านตกแต่งภายใน garage มีของมากมายที่นี่ มีแม้กระทั่งโซนพืชในเรือนกระจก อยากลองอยู่ในบ้านสวย ๆ แบบนี้ดูซักครั้งในชีวิตเหมือนกันนะ !

ช่วงนี้การตกแต่งด้วยดอกไม้แห้งกำลังเป็นที่นิยมเลย
จุดเด่นของ garage คือการใช้ธรรมชาติในการตกแต่ง
เรือนกระจก

21:00Lamp Light Books Hotel:ความฝันที่จะพาคุณผ่อนคลายไปกับทะเลหนังสือ (สถานีฟุชิมิ)

แม้ว่าคุณจะกลับไปที่โรงแรมแล้ว แต่การเดินทางสายเรโทรในนาโกย่ายังไม่จบเท่านี้ !
Lamp Light Books Hotel เป็นโรงแรมที่รวมหนังสือและที่พักเข้าไว้ด้วยกัน ชั้นแรกเป็นร้านหนังสือที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีหนังสือมากกว่า 3,000 เล่ม ที่เกี่ยวกับ "การท่องเที่ยว" และ "แฟนตาซี" (มีหนังสือภาษาญี่ปุ่นมากมาย แต่แม้ว่าจะอ่านไม่ได้ แต่แค่ดูก็สนุกแล้ว !)

ชั้นบนของคาเฟ่เป็นห้องพัก ทุกห้องเป็นห้องแบบส่วนตัว การตกแต่งภายในและการจัดแสงนั้นเอื้อกับ " บรรยากาศที่เหมาะกับการอ่าน" ด้วยแสงที่กำลังดี ทำให้คุณสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวด้านนอกเมื่อคุณเปิดม่าน สำหรับผู้ที่รักการอ่าน ที่นี่จะเป็นสวรรค์ที่สามารถล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับการอ่านหนังสือ
ผู้เข้าพักสามารถกลับไปที่ห้องพร้อมหนังสือหรือจะเลือกเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่เงียบสงบในร้านกาแฟพร้อมจิบกาแฟหรือแฮมเบอร์เกอร์ก็ได้ แม้ไม่ได้เข้าพักหรือสั่งกาแฟซักแก้ว คุณก็สามารถเข้าสู่โลกแห่งหนังสือที่นี่ได้

คืนนี้ที่นาโกย่าเปิดหนังสือซักเล่ม แล้วเริ่มค้าหาการเดินทางครั้งต่อไปกันเถอะ

สรุป

นาโกย่าเป็นเมืองที่ดูเผิน ๆ อาจจะดูธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากเลยล่ะค่ะ ถ้ากลัวว่าการเดินทางของคุณจะมีแต่เมือง ๆๆๆ นาโกย่าจะทำให้คุณรู้สึกแตกต่าง ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเมือง; อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และเป็นมิตรต่อธรรมชาติอีกด้วย

Related Articles Related Articles