| กองบรรณาธิการCentrip

6 ดินแดนหนีหน้าร้อนในภูมิภาคชูบุ

ภูมิภาคชูบุจุดศูนย์กลางของประเทศญี่ปุ่น ในพื้นที่แห่งนี้ยังมีเมืองนาโกย่าที่เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของภาค ที่นี่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงถึง 40 องศา ! ซึ่งคนที่นี่ต้องเตรียมมาตรการกันความร้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำอยู่บ่อยๆเพื่อกันร่างกายขาดน้ำ หรือมีไอเท็มที่แค่เอาพาดคอก็เย็นได้ ได้ยินอย่างนี้แล้วเชื่อว่าหลายๆคนคงตกใจขอดูร้อนกว่าที่คิด

หากคุณวางแผนที่จะมาเที่ยวภูมิภาคชูบุประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนล่ะก็ ลองแวะไปที่พื้นที่หนีความร้อนแสนเย็นสบายบนภูเขาและที่ราบสูง เวลาที่คุณใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและเย็นสบาย คุณจะสัมผัสได้ถึงความพิเศษที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “กำลังใจ”ได้ ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำพื้นที่หนีความร้อนในภูมิภาคชูบุให้ทุกคนได้รู้จัก

คามิโคจิ (จังหวัดนะงะโนะ)

คามิโคจิเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฤดูร้อนยอดนิยมในภูมิภาคชูบุ คามิโคจิเป็นจุดชมวิวภูเขาในจังหวัดนากาโนะ เมืองมัตสึโมโตะที่มีความสูงกว่า 1500 เมตร แม้ในเดือนสิงหาคมที่ร้อนที่สุดอุณหภูมิเฉลี่ยคือ 23.3 องศาสูงสุดและต่ำสุด 14.1 องศาเท่านั้น !

จุดสตาร์ทที่แนะนำคือ "บ่อไทโชอิเคะ" น้ำใสในที่ "บ่อไทโชอิเคะ" สะท้อนภาพทิวทัศน์ของภูเขาโฮดากะเร็มโปอันสวยงาม จากนั้นให้เดินมุ่งหน้าไปยัง “สะพานคัปปะบาชิ" ในระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าไปยัง “สะพานคัปปะบาชิ"ก็สามารถดื่มด่ำได้กับบรรยากาศป่า เพียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ คุณจะรู้สึกสดชื่นด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่เกิดจากต้นไม้และพืชในที่ราบสูง
สำหรับมื้อกลางวันแนะนำให้แวะทาน “แกงเนื้อวัวแบบดั้งเดิมของโรงแรมเทโคะคุ“ ที่ร้านอาหารอัลเพ็นโรเซ่ ในโรงแรมเทโคะคุ

หลังจากไปถึงที่ “สะพานคัปปะบาชิ" แล้ว ลองเดินไปกลับระหว่างเส้นทาง สะพานคัปปะบาชิ~บ่อเมียวจินดูค่ะ (เดินไปกลับใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นการเดินเขาที่สามารถสัมผัสได้ถึงสายลมอันอ่อนโยน พร้อมกับฟังเสียงน้ำไหลไปพร้อมกับเสียงนกร้องได้

กุโจฮาจิมัน(จ.กิฟุ)

เมืองกุโจ จ.กิฟุเป็นมีชื่อเสียงเรื่อง “เทศกาลกุโจโอโดริ”ที่ติดอันดับท็อป 3 ของญี่ปุ่น และยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยเมืองที่มีน้ำสะอาดและใสของญี่ปุ่น หนึ่งในพื้นที่ตัวเมืองอย่างฮาจิมันโจนั้นมีเสน่ห์ที่จะเดินเล่นก็สนุก จะชมธรรมชาติก็ประทับใจ ใกล้ๆตัวเมืองมีถ้ำหินปูนโอทากิและถ้ำหินปูนมิยามะอยู่ ภายในถ้ำหินปูนนั้นเย็นสบายเหมือนกับติดแอร์ไว้เลยล่ะค่ะ

เขตทะคะสึโจในเมืองคุโจเองก็มีลานกว้างที่สามารถเล่นกีฬาหน้าหนาวได้ในฤดูหนาว ถึงเวลาหน้าร้อนก็จะกลายเป็นรีสอร์ทบนที่ราบสูงชื่อว่า ฮิรุกาโนะ โคเก็ง ถือเป็นพื้นที่หนีหน้าร้อนที่คนนิยมมาเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ณ Bokka no sato รีสอร์ทสวนสนุกที่สามารถชมดอกไม้และสัมผัสกับเหล่าสัตว์ได้นั้น มีเวิร์คชอปต่างๆให้คุณสนุกได้ เช่น การขี่ม้า การทำสบู่ดอกไม้ วันไหนที่อากาศดีคุณสามารถมองเห็นเทือกเขาฮะคุซัง เร็มโปได้
ฮิรุกาโนะปิคนิคการ์เด้น เป็นรีสอร์ทบนที่ราบสูงที่สามารถไปได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้าปิคนิค คุณสามารถขึ้นไปถึงด้านบนของภูเขาและสามารถชิว ๆ ที่ระเบียงคาเฟ่พร้อมกับชมวิวเทือกเขาฮะคุซัง เร็มโปและดอกพิทูเนียและกอเชียพี่มีมากกว่า 400 ต้นได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆเช่น โหนสลิง ฯลฯ อีกด้วย ซึ่งจะจัดในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ส่วนในหน้าหนาวที่นี่จะกลายเป็น ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็ง

คุโรเบะ เคียวโคคุ・อุนะทสึคิออนเซ็น(จ. โทยาม่า)

คุโรเบะ เคียวโคคุเป็นหุบเขาลึกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนต้นน้ำถึงกลางน้ำของแม่น้ำคุโรเบะ มีรถไฟโบราณรางยาว 20.1 กิโลเมตร วิ่งเลียบไปตามหุบเขา จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวรถไฟโบราณ เริ่มที่สถานีอุนะทสึคิที่ซึ่งมีดินแดนแห่งออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในโทยาม่า หลังจากออกจากสถานีอุนะทสึคิแล้ว รถไฟจะข้ามสะพานชินยะมะฮิโคะและสะพานอะโตะบิคิที่มีความสูงจากแม่น้ำคุโรเบะกว่า 60 เมตร มีจุดที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความลึกของหุบเขามากมาย สดชื่นไปกับความรู้สึกที่ลมปะทะหน้าในขณะที่นั่งรถไฟโบราณชื่นชมความสวยงามของหุบเขา อีกทั้งอาจจะได้รับความเย็นที่แตกต่างไปกับความรู้สึกตื่นเต้นของการชมวิวที่มีความสูง

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็จะถึงจุดหมายปลายทางของรถไฟโบราณงั้นก็คือสถานีเคะยะคิไดระ หลังลงจากรถที่สถานีเคะยะคิไดระมุ่งหน้าไปยังซารุโทบิเคียวจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำ โดยเดินไปประมาณ 30 นาที เนื่องจากเป็นจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำ น้ำจึงไหลแรงมาก เดินจากซารุโทบิเคียว 20 นาที ก็หยุดพักผ่อนที่ออนเซ็นเท้า ณ จุดชมวิวคะวะระได้ หลังจากนั้นสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาบนสะพานโอะคุคะเนะที่มีความสูงกว่า 34 เมตรได้ บริเวณ“หิมะ 1 ปีคุโรเบะ”มีจุดที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเย็น เนื่องจากมีหิมะที่ตกลงมาในฤดูหนาวและยังหลงเหลือมาจนถึงฤดูร้อน

เทือกเขาอะเทะระ(จ.นากาโน่)

น้ำในแม่น้ำมีสีฟ้าใสจนถูกเรียก “อะเทะระบลู” ที่เทือกเขาอะเทะระ โอคุวะ คิโสะกุน จ.นากาโน่ โด่งดังในเรื่องของแม่น้ำที่มีความสวยงามเหมือนมรกต ระดับความใสสูงมากจนมองเห็นก้นแม่น้ำและสัมผัสได้ถึงความลึกของแม่น้ำ

น้ำในแม่น้ำมีสีฟ้าใสจนถูกเรียก “อะเทะระบลู” ที่เทือกเขาอะเทะระ โอคุวะ คิโสะกุน จ.นากาโน่ โด่งดังในเรื่องของแม่น้ำที่มีความสวยงามเหมือนมรกต ระดับความใสสูงมากจนมองเห็นก้นแม่น้ำและสัมผัสได้ถึงความลึกของแม่น้ำ

ที่ราบสูงชะอุสึยามะ (จ.ไอจิ)

ชะอุสึยามะ ยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดไอจิ (มีความสูงประมาณ 1,415 เมตร ) หากคุณใช้เวลาเดิน30 นาทีจากศูนย์ข้อมูล แล้วเดินเขาชะอุสึยามะ คุณสามารถไปยังจุดชมวิว 360 องศา ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ในญี่ปุ่น นอกจากการเดินแล้ว คุณยังสามารถสนุกกับกิจกรรมอื่นๆได้ เช่น การพายเรือ การเล่นโกคาร์ท เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถไปถึงจุดชมวิวของภูเขาฮากิทาโร่ด้วยกระเช้าลอยฟ้าได้ การเดินเล่นลอยฟ้าด้วยกระเช้าที่ทำให้คุณได้มองเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างไกล ถือเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างออกไปจากการเดินเขา ที่ราบสูงชะอุสึยามะนี้ จะเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็สนุก แต่จะสนุกกว่าหากได้พักสักคืนที่รีสอร์ทโรงแรม “คิวคะมุระ ชะอุสึยามะโคเก็ง ” เลือกที่พักแบบกระท่อมที่มีบรรยากาศสบายเหมือนอยู่บ้านพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำแร่ โดยแร่ที่ว่ามีแค่ที่คิตะชิตะระ จังหวัดไอจิเท่านั้น มาจากแหล่งน้ำใต้ดินของที่ราบสูงชะอุสึยามะ ถือเป็นสถานที่ที่จะทำให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างแท้จริง

ที่ราบสูงอาโอะยามะ(จ.มิเอะ)

ที่ราบสูงอาโอะยามะเป็นที่ราบสูงที่มีบริเวณกว้างในจังหวัดมิเอะ ตอนใต้ของที่ราบสูงอาโอะยามะเป็นสถานที่แนะนำสำหรับคนที่อยากปีนเขาในสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวไม่มาก หากปีนเขาจากสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีนิชิอาโอะยามะไปถึงยอดเขา จะใช้เวลา 2 ชั่วโมง เส้นทางการเดินมี 2 เส้นทางได้แก่ เส้นทางการเดินแบบมาตรฐานเดินตามถนน , เส้นทางการเดินเลียบริมแม่น้ำฟุตะมะตะ

ยอดเขาซึ่งคุณอาจเห็นอ่าสอิเสะได้ในวันที่อากาศดีนั้น สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างกังหันลมทั้ง 91 อันอีกด้วย เส้นทางการเดินมีหลายแบบ เช่น “เส้นทางการเดินมิเอะฟุรุซาโตะโคเอนจิ”,”เส้นทางการเดินเมะโนะบิคิโนะโมะริ” “เส้นทางการเดินโทไค ชิเซ็น” ฯลฯ

หากคุณสนใจเรื่องความงาม ขอแนะนำให้ไปที่ “เมนาร์ดอาโอยาม่ารีสอร์ท” ที่อยู่ทางตอนใต้ของที่ราบสูงอาโอยาม่า ที่นี่เป็นที่รีสอร์ทครบวงจรที่ดำเนินการโดย “เมนาร์ด”แบรนด์เครื่องสำอางที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดไอจิ มีคอร์สต่างให้คุณได้ลอง ไม่ว่าจะเป็นการชมสวนสมุนไพรดอกคาโมมายและลาเวนเดอร์,การแช่น้ำร้อนและเข้าสปา,การออกกำลัง เช่น การเล่นโยคะ ฯลฯ รวมไปถึงกิจกรรมทำเครื่องสำอาง จะอยู่พักสักคืนหรือจะไปเช้าเย็นกลับก็ออก (ต้องจองล่วงหน้าสำหรับการพักค้างคืนและการไปแบบไปเช้าเย็นกลับ)

สรุป

การท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามจะกลายเป็นความทรงจำอันแสนพิเศษ แต่การท่องเที่ยวในธรรมชาตินั้นก็มีอันตรายซ่อนอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ภูเขาและแม่น้ำในเวลาฝนตกและหลังฝนตก น้ำในแม่น้ำมีปริมาณมากและจะไหลเร็วขึ้น ส่วนภูเขาก็อาจจะพื้นลื่นขึ้นและอาจมีดินถล่มได้

ในช่วงฤดูร้อนอาจมีฝนตกหนักฉับพลัน ก่อนเดินทางควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศให้แน่ใจ รวมถึงเตรียมอุปกรณ์กันฝน เช่น เสื้อกันฝน รองเท้ากันลื่น ฯลฯ ด้วยนะคะ

นอกจากนี้อาจจะพบสัตว์ป่า เช่น หมีหรือหมูป่าได้ ต้องเตรียมการป้องกันไปด้วย การติดกระดิ่งไว้ที่กระเป๋า เป็นต้น

ธรรมชาติของญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่สวยงามและสงบสุข แต่การเที่ยวในธรรมชาติก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วยนะคะ

Related Articles Related Articles