| ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น

ปักหมุดเที่ยวน่าไป ในภูมิภาคชูบุ ตามรอย โชกุน นินจา ซามูไร เดินทางง่าย ๆ จากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ 2

หอคอย Nagoya TV Tower

Nagoya TV Tower เป็นหอสูงส่งคลื่นสัญญานโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น สร้างในปี 1954 มีมาก่อนโตเกียวทาวเวอร์อีกนะคะ หอคอยแห่งนี้ยุติการส่งสัญญานโทรทัศน์ตั้งแต่ 24 ก.ค.​2011 เป็นแลนด์มาร์กของเมือง Nagoya โดยมีความสูง 180 เมตร มี 5 ชั้นจะสามารถมองเห็นวิวของนาโกย่าได้ทั้งเมืองเลย ดีไซน์ของหอคอยมีแรงบันดาลใจมาจากหอไอเฟล ดูแล้วคล้ายกันมาก ๆ เลย

หอยคอย นาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์ เป็นสถาปัตยกรรม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ในสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นสถานที่ช่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมที่สุดของเมืองนาโกย่าด้วยค่ะ ใครมาย่านนี้ห้ามพลาดนะคะ

และตอนนี้ก็กลับมาเปิดบริการอีกครั้งหลังจากได้ทำการปรับปรุงโครงสร้าง เพื่อรองรับการป้องกันแผ่นดินไหว และปรับปรุงพื้นที่ภายในหอคอยให้มีความพร้อมสำหรับการเยี่ยมชมมากขึ้น โดยเปิดบริการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา

โดยด้านล่างหอคอยก็มีร้านค้า คาเฟ่ต่าง ๆ มีการจัดแสดงไฟ ปล่อยไอน้ำ เปิดเพลงคลอเคลียร์สร้างบรรยากาศ และช่วยสร้างสีสันให้ย่านนี้มีเสน่ห์ที่น่าค้นหาอีกเยอะเลยค่ะ มาเที่ยวนาโกย่าครั้งหน้าอย่าลืมแวะมา เช็กอินที่นี่นะคะ

นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปถ่ายรูปมุมสูงยังบริเวณข้างเคียงกันได้จากตึก OASIS 21 ก็จะได้วิว Nagoya TV Tower อีกเวอร์ชั่นหนึ่งค่ะ

พิกัด OASIS 21 จาก Google map :

การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Sakae ทางออก 6B, 8A
พิกัดจาก Google map :

Nagoya Castle

แวะทักทายโชกุน และชมสมบัติของชาติ ปราสาทนาโกย่า กับพระราชวังที่หรูหราที่สุดในญี่ปุ่น การมาเที่ยวปราสาทจะไม่น่าเบื่อถ้าเราได้มาเจอกับท่านโชกุนและเหล่าสมุนที่จะคอยแนะนำปราสาทนาโกย่า สร้างสีสรรและทำให้นักท่องเที่ยวสนุกไปด้วย

ปราสาทนาโกย่า สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (1603-1868) เป็นตำหนักของตระกูลโอวาริ โทคุกาวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสายสกุล โทคุกาวะที่มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นโชกุน และที่นี่ยังเป็นแนวหน้าในการป้องกันเมืองเมื่อต้องสู้รบกับโอซาก้าด้วย

บริเวณด้านข้าง ๆ ก็มีสวนสาธารณะให้สามารถเดินเล่นชมเมืองได้ด้วย หรือจะถ่ายภาพปราสาทกับคูน้ำรอบกำแพงเมืองก็ได้เช่นกัน ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีดอกซากุระ ที่เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนาโกย่าเลยค่ะ ส่วนใครที่ชอบเดินดูความอลังการของตัวปราสาท ก็คงจะเพลิดเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตามก้อนหินที่นำมาทำกำแพง หินบางก้อนก็มีการสลักชื่อของผู้ที่นำมาสร้างไว้ด้วย

พระราชวัง Hommaru ที่สร้างขึ้นใหม่โดยใช้แบบและวิธีการสร้างอย่างโบราณ สร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนหลังเก่าที่โดนระเบิดในช่วงสงครามโลกในอดีตใช้เป็นเรือนรับรองของโชกุน

ที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยภาพวาดบนแผ่นทองบริสุทธิ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาช่วย (ภาพจริงถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์) ลวดลายของภาพมาจากความชื่นชอบส่วนบุคคลของผู้เป็นเจ้าของปราสาท และได้รับอิทธิพลมาจากเกียวโตด้วย

แต่ละห้องตกแต่งไว้ไม่เหมือนกัน พื้นยกระดับต่างกัน ตามฐานันดรของผู้ที่เข้าพัก ดูได้จากลวดลายของแต่ละห้อง ยิ่งวิจิตรบรรจงมาก ๆ ก็แสดงถึงตำแหน่งและฐานันดรสูงส่งมาก ๆ ตัวอาคารทั้งหลังก่อสร้างด้วยไม้สนฮิโนกิที่ล้ำค่า

ไฮไลท์ของปราสาทนาโกย่าที่ทำให้คนจดจำได้ก็คือ จะมี Sachihoko สัตว์มงคลที่ตัวเป็นปลาหน้าเป็นเสือ ที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า จะคอยปกป้องคุ้มครองปราสาทให้รอดพ้นจากอันตรายโดยเฉพาะไฟไหม้

จริง ๆ หลาย ๆ ปราสาทในญี่ปุ่นก็จะมี Sachihoko เช่นกัน แต่สำหรับปราสาทนาโกย่านั้น ตัวปลาจะเป็นสีทองแต่เดิมเป็นทองจริง ๆ เป็นทองคำ 18 กะรัตความสูง 2 เมตร แต่เคยมีคนปีนขึ้นไปเพื่อที่จะขโมย ทางการเลยนำของจริงมาเก็บรักษาไว้ แล้วทำแบบจำลองไปใส่ไว้แทน ตอนนี้ตัวปราสาทไม่สามารถเข้าไปชมด้านในได้นะคะ เพราะกำลังบูรณะปรับปรุงอยู่ค่ะ

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน
▪ เวลาทำการ : 9.00 น. - 16.30 น.
▪ การเดินทาง :
รถไฟใต้ดิน: ลงสถานี Shiyakusho ของรถไฟใต้ดินสาย Meijo
รถบัส: ลงป้าย Nagoya-jo Castle Seimon-mae
พิกัดจาก google map :

นานะจัง มาสคอตของชาวนาโกย่า Nana Chan Nagoya Mascot

ก่อนที่เราจะขึ้นรถไฟแวะทักทาย นานะจัง (ナナちゃん)  มาสคอต ที่อยู่คู่ชาวนาโกย่ามาตั้งแต่ปี 1973 สูง 610 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 600 กิโลกรัม สร้างมาตั้งแต่ปี 1973 ที่อยู่คู่ชาวนาโกย่ามาอย่างยาวนาน กิมมิคของนานะจังก็คือเสื้อผ้าจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลค่ะ ตั้งอยู่ที่ห้าง Meitetsu Department store Men's building

พิกัดจาก google map :

Meitetsu line to airport เดินทางสู่สนามบินนานาชาติชูบุ เซ็นแทรร์

จากตัวเมืองนาโกย่า เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติชูบุ เซ็นแทรร์ ก็สะดวกสบายด้วยรถไฟสาย Meitetsu line ที่นั่งแบบธรรมดากับค่าโดยสาร 890 เยนต่อเที่ยวที่เบาะหมุนปรับได้ และบนรถไฟยังมีที่วางของบนศีรษะ ระหว่างทางจะได้ชมวิวเมือง และวิวทะเลจากอ่าว Ise ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อเลยค่ะ

บริเวณหน้าสถานีรถไฟ Nagoya เห็นสัญลักษณ์เครื่องบินไม่ต้องกลัวหลงแล้วค่ะ

ตั๋วเดินทางที่นั่งปกติ นั่งที่ไหนก็ได้ราคา 890 เยน

ดูจอที่ชานชลา จะได้ขึ้นรถไฟไม่พลาด เพราะรถไฟมาและออกตรงเวลาค่ะ

วิวระหว่างทาง แฟนคลับรถไฟก็ snap ภาพให้ทันนะคะ เพราะจะเจอเพื่อน ๆ วิ่งสวนมาเรื่อย ๆ ตลอดเส้นทางค่ะ

หรือจะนั่งที่นั่ง First class โดยซื้อตั๋วเพิ่มเป็น 1,250 เยน ระบุที่นั่ง มีที่วางของสัมภาระแยกต่างหาก มีความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย มีห้องน้ำและถังขยะให้ด้วยนะคะ อารมณ์เหมือนนั่งชินคังเซ็นแต่ราคาถูกกว่า เมื่อลงรถไฟแล้วก็สามารถเดินตรงสู่สนามบินนานาชาติชูบุ เซ็นแทรร์ได้เลย

สนามบินนานาชาติชูบุ เซ็นแทรร์ Chubu Centrair  Airport

สนามบินของภูมิภาค Chubu ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองนาโกย่าเพียง 35 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นในอ่าว Ise ถ้าใครวางแผนจะมาเที่ยวภูมิภาคนี้บินตรงมาลงนาโกย่าก็สะดวกดีนะคะ จากสนามบินสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อได้ในหลาย ๆ ที่เลยไม่ว่าจะเป็น นาโกย่า, ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก, ทาคายาม่าเมืองเก่าที่น่าค้นหา, ตามรอยนินจากที่ Iga Ninja หรือแม้แต่ตะลุยนาโกย่า ก็ยิ่งสะดวกมากมาย

ตัวสนามบินก็เชื่อมต่อกับรถไฟเข้าเมืองนาโกย่า เดินทางก็สะดวกมากมาย ใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็ถึงสถานีนาโกย่าแล้วค่ะ เมื่อออกจากสถานีรถไฟมาจะเจอกับทางแยกแบบนี้ ป้ายบอกทางชัดเจนมาก ๆ ไม่ต้องกลัวหลงเลย

ป้ายขอความร่วมมือในช่วงสถานการณ์ป้องกันการแพร่กระจายโควิด 19

เคาน์เตอร์เช็กอินก็มี พี่ ๆ นินจารายล้อมพร้อมให้บริการ ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของสนามบิน Chubu Centrair แห่งนี้เลยค่ะ

นอกจากนี้ ภายในสนามบินก็มีร้านค้า ร้านของฝากต่าง ๆ ไว้คอยบริการ รวมถึงอาหารอร่อย ๆ ที่รวบรวมร้านดังในภูมิภาคนี้มาไว้รวมกันที่นี่ ส่วนร้านค้าดัง ๆ ก็มี Uniqlo, Muji, Pokemon Store, Sanrio ร้านอาหารชื่อดังของเมืองนาโกย่าอย่าง Yabaton ก็มีด้วยนะคะ เป็นต้น เผื่อว่าใครพลาดช้อปปิ้งซื้ออะไรไม่ทัน หรือแวะกินอาหารไม่ทันก็มาจบที่สนามบินได้เลย

สนามบิน Chubu Centrair  ยังมีเซนโต หรือห้องอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่นตั้งอยู่ภายในสนามบินด้วยนะคะ เรียกว่าใครอยากลองประสบการณ์แช่ออนเซ็นในเซนโตสไตล์ญี่ปุ่นก็แวะมาใช้บริการกันได้ค่ะ

ส่วนใครที่ชอบพันกระเป๋า wrapping กระเป๋าเพื่อกันรอย กันกระแทก ที่สนามบินก็มีบริการด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนใครที่ชอบเดินเที่ยวตัวปลิวก็แวะส่งกระเป๋าเดินทางไปยังโรงแรมได้ที่เคาน์เตอร์ขนส่ง Yamato หรือ แมวดำ อยู่บริเวณชั้น 2 Arrivals Lobby

ส่วนใครที่เป็นสายถ่ายภาพ บริเวณดาดฟ้าของสนามบินแห่งนี้ก็อนุญาตให้ขึ้นมาถ่ายภาพวิวเครื่องบินกันได้ และบางช่วงฤดูกาลก็จะมีการจัดอีเวนต์หรือ การประดับไฟ ไลท์อัพให้ชมกันด้วย

ใครที่ชอบมาสคอตน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ที่สนามบินก็มีมาสคอตด้วยนะ ชื่อว่า ฟู่ว์จัง โดยชื่อนั้นมาจากเสียงลมเมื่อเครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ก็มีจะมีเสีย ฟู่วววววว นั่นเอง เห็นแล้วน่ารัก

เที่ยวภูมิภาค  Chubu ครั้งต่อไปบินตรงลงนาโกย่ากันได้เลยนะ สนามบิน Chubu Centrair สะดวกและมีกิมมิคให้เยอะแบบนี้ เที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าไม่ไปไม่ได้แล้ว

Flight of Dreams

ชมเครื่องบิน 787 Dream Liner แบบระยะประชิด พร้อมชมแสง สี เสียง สุด อลังการจาก TeamLab ได้ฟรีที่ สนามบิน Chubu Centrair

สำหรับคนที่มีเวลา และคนที่รักเครื่องบินขอนำเสนอโซนหนึ่งที่อยู่ในสนามบิน Chubu Centrair ที่มีชื่อว่า “Flight of Dreams” เป็นโซนที่จัดแสดงแสงสีเสียงของเครื่องบิน 787 Dream Liner ร่วมกับ Teamlab โดยจะมีโซนที่ต้องจ่ายเงินหรือเรียกว่า Flight Park จะเป็นคล้าย ๆ กับพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่เราสามารถเข้าไปร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่คนรักเครื่องบินต้องฟิน

และโซนที่ชมฟรีหากต้องการชมในจุดที่สวย ๆ แนะนำแวะซื้อกาแฟที่ร้านสตาร์บักส์ แล้วเข้าไปนั่งดื่มกาแฟภายในร้านก็จะได้ชมวิวอลังการเหมือนในภาพที่พวกเราถ่ายมาให้ชมนี่ล่ะค่ะ สวยมากมาย ประทับใจลืมเวลาเลย Flight of Dreams อยู่ใก้กลับ Terminal 2 มากกว่า ดังนั้นถ้าใครมาจาก Terminal 1 เดินไกลนิดนึงนะคะ

เว็บไซต์ :
ค่าเข้าโซนกิจกรรม : ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, เด็ก อายุ 3 ปีขึ้นไป 800 เยน เด็กต่ำกว่า 3 ปีเข้าฟรี
เวลาทำการ : Flight Park 10: 00 น. -17: 00 น., โซนร้านคาเฟ่และร้านอาหาร 10: 00 น.-19: 00 น.

Related Articles Related Articles