เซกิเป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ทางตอนใต้ของจังหวัดกิฟุซึ่งมีดและใบมีดคุณภาพชั้นเยี่ยมมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ตอนกลางของญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการผลิตดาบในยุคมุโรมาจิ (1338 - 1573) มีช่างตีดาบกว่า 300 คนทำงานอยู่ที่เซกิซึ่งร่วมกันผลิตดาบในตำนานหลายเล่ม ทำให้เมืองนี้มีชื่อเล่นเท่ ๆ ว่า "เมืองแห่งใบมีด"

กิฟุ ~ ทางแยกไปยังตะวันออกและตะวันตก

กิฟุตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์บริเวณตอนกลางของญี่ปุ่นซึ่งเป็นทางแยกระหว่างตะวันออกและตะวันตกของประเทศ บริเวณนี้มีความสำคัญในยุคซามูไรและเป็นสมรภูมิสำหรับการรบที่สำคัญหลายต่อหลายครั้งเพราะขุนศึกซามูไรต่างเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ปกครองกิฟุนั้นเหมือนได้ปกครองญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

เนื่องจากบริเวณตอนกลางของญี่ปุ่นในจังหวัดกิฟุและไอจิมีขุนศึกและนักรบซามูไรอยู่จำนวนมาก ทำให้มีความต้องการใช้ดาบและใบมีดคุณภาพดีจำนวนมากซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมที่มีอายุยืนยาวมาจวบจนปัจจุบัน

ดาบญี่ปุ่น

นิฮองโตะหรือดาบญี่ปุ่นถูกหลอมขึ้นด้วยกระบวนการที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เงื่อนไขที่สำคัญ 3 ประการของนิฮองโตะ คือ ไม่หัก ไม่งอและมีคมมีดที่ยอดเยี่ยม

ช่างตีดาบญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคนิคพิเศษเพื่อให้บรรลุเงื่อนไขทั้ง 3 ประการโดยใช้เปลือกเหล็กแข็งมาห่อหุ้มแกนเหล็กอ่อนทำให้ดาบเหล่านี้มีแกนด้านในที่ยืดหยุ่นซึ่งช่วยดูดซับแรงกระแทกระหว่างการต่อสู้ทำให้ดาบไม่หักและเปลือกเหล็กแข็งก็ช่วยทำให้ใบมีดไม่โค้งงอ

ศูนย์กลางการผลิตดาบของญี่ปุ่น

เซกิมีประวัติที่ยาวนานกว่า 800 ปีและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตดาบและใบมีดคุณภาพดี อุตสาหกรรมการตีดาบเริ่มต้นในศตวรรษที่ 13 เมื่อช่างตีดาบระดับปรมาจารย์โมโตชิเกะย้ายจากคิวชูมายังเซกิเพื่อเริ่มต้นการตีดาบ

โมโตชิเกะเลือกเดินทางมายังเซกิเพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทรายเหล็กคุณภาพดี ถ่านไม้สน และลำน้ำบนภูเขาที่ใสสะอาดซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตดาบ ต่อมาชื่อเสียงด้านคุณภาพและความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นของดาบเซกิได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศญี่ปุ่นทำให้เซกิได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของการผลิตดาบ นักรบซามูไรในช่วงสงครามรณรัฐของญี่ปุ่น (Warring States Period) (1467 - 1568) ต่างชื่นชอบดาบเซกิและยกย่องในความสวยงามของด้ามที่ขัดมัน พร้อมคำกล่าวที่ว่า "ดาบเหล่านี้ไม่หัก ไม่งอและคมมาก"

เทคนิคการผลิตดาบแบบดั้งเดิมของเซกินั้นได้รับการสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นเป็นเวลานานหลายศตวรรษและในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องมีดสมัยใหม่

ในปัจจุบันยังมีช่างตีเหล็กแบบดั้งเดิมอยู่จำนวน 10 คนซึ่งมีประกาศนียบัตรจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับการทำงานในเซกิเพื่อรักษาศิลปะโบราณของการผลิตดาบญี่ปุ่นให้คงอยู่ต่อไป

ใบมีดเซกิในโลกสมัยใหม่

ในช่วงยุคสมัยเมจิ (1868 - 1912) รัฐบาลเมจิได้สั่งหยุดการผลิตดาบโดยออกพระราชกฤษฎีกายกเลิกดาบเพื่อห้ามไม่ให้ประชาชนถือดาบหรือใบมีดในที่สาธารณะ ในเวลานั้น เซกิได้เปลี่ยนไปผลิตมีดทำครัว กรรไกร มีดโกนและใบมีดที่ใช้ในครัวเรือนชนิดอื่น ๆ

เซกิยังคงเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตเครื่องมีดและใบมีดของญี่ปุ่น และเพราะผลิตภัณฑ์ของเซกิมีคุณภาพสูงจึงมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก คุณจะพบกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อใบมีดของเซกิเป็นจำนวนมาก

เทศกาลเซกิ ฮาโมโนะ

เทศกาลเครื่องมีดประจำปีของเซกิจัดขึ้นเดือนตุลาคมของทุกปีเพื่อระลึกถึงช่างตีดาบระดับปรมาจารย์อย่างโมโตชิเกะซึ่งเป็นหนึ่งในงานมีดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและผู้จำหน่ายใบมีดกว่า 50 รายจะมาจำหน่ายสินค้าบริเวณตลาดบนถนนฮอมมาจิ โดริ (Honmachi Dori) ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของเมืองเซกิ

เทศกาลเซกิ ฮาโมโนะ

เทศกาลนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าเครื่องมีดในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังมีสินค้าบางรายการที่ลดราคา เช่น มีดทำครัว กรรไกร ที่ตัดเล็บและมีดพก คุณยังมีโอกาสได้ชมการสาธิตการตีดาบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและการแสดงดาบอีกด้วย

การสาธิตการตีดาบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เทศกาลเครื่องมีดของเซกิ

ห้องจัดแสดงเครื่องมีดกิฟุเซกิ (Gifu Seki Cutlery Hall (刃物会館))

จุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจโลกของใบมีดของเซกิ คือ ห้องจัดแสดงเครื่องมีดกิฟุเซกิซึ่งมีผลิตภัณฑ์เครื่องมีดเซกิกว่า 2,000 ชิ้นให้คุณได้เลือกซื้อที่โรงงานอันทันสมัยแห่งนี้ คุณยังหาซื้อมีดเซกิ กรรไกรและเครื่องครัวอื่น ๆ ได้ที่นี่โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำหน่ายโดยผู้ผลิตซึ่งแปลว่าสินค้าเหล่านี้มีคุณภาพสูงและราคาสมเหตุสมผลโดยลดไปกว่า 10 - 20% ของราคาตลาด

พิพิธภัณฑ์ประเพณีการตีดาบเซกิ (Seki Traditional Swordsmith Museum (関鍛冶伝承館))

เมื่อเดินเพียง 1 นาทีจากห้องจัดแสดงเครื่องมีดกิฟุเซกิ คุณก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ประเพณีการตีดาบเซกิซึ่งจัดแสดงประวัติและประเพณีการผลิตดาบในเซกิที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 800 ปี คุณจะได้ชมประกายไฟจากช่างตีเหล็กจากปรมาจารย์ผู้สาธิตงานฝึมือแบบโบราณด้วยการทุบเหล็กด้วยค้อนขนาดยักษ์โดยการสาธิตการตีดาบแบบดั้งเดิมของช่างตีดาบเซกิจะจัดเดือนละครั้งและในช่วงเทศกาล ฮาโมโนะ

ชั้นแรกของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการประวัติของดาบญี่ปุ่นและขั้นตอนการตีดาบ คุณจะพบกับดาบของซามูไรหลายชิ้น รวมถึงผลงานจากช่างตีดาบชื่อดังอย่างคาเนะโมโตะและคานาซาดะ

อีกชื่อนึงของคาเนะโมโตะ คือ เซกิ โนะ มาโกโรกุ (Seki no Magoroku) หรือมาโกโรกุของเซกิและใบมีดที่มีชื่อเสียงของเขาซึ่งมีทั้งความงดงามและความแข็งแรง ดาบที่คาเนะโมโตะรังสรรค์ขึ้นนั้นถูกใช้โดยขุนศึกซามูไรที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น ทาเคดะ ชินเก็น โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ และคุโรดะ นากามาสะ

การจัดแสดงดาบที่พิพิธภัณฑ์ประเพณีการตีดาบเซกิ

บริเวณชั้นสอง คุณจะพบกับการจัดแสดงมีดทำมือหลากหลายแบบและผลิตภัณฑ์ใบมีดของเซกิ

พิพิธภัณฑ์เซกิ ฮาโมโนะ (Seki Hamono Museum (刃物屋三秀 関刃物ミュージアム))

พิพิธภัณฑ์เซกิ ฮาโมโนะเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ที่ Cutler Sanshu ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตดาบญี่ปุ่น มีดทำครัวและสินค้าที่มีใบมีดอื่น ๆ ที่ผลิตในเซกิ รวมทั้งยังเลือกสินค้าจากร้านค้าที่จำหน่ายมีดทำครัวและกรรไกรยี่ห้อ Seki Yoshihide อีกด้วย

สัมผัสประสบการณ์การผลิตดาบ

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การตีดาบจริง ๆ คุณมาลองตีดาบญี่ปุ่นได้ที่พิพิธภัณฑ์เซกิ ฮาโมโนะ บริเวณอาคารอำนวยความสะดวกมีโรงตีเหล็กซึ่งคุณสามารถชมหรือทดลองตีดาบได้ด้วยตัวคุณเองโดยการบริการในส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและต้องทำการจองล่วงหน้า

บทสรุป

ถ้าคุณสนใจในดาบญี่ปุ่นและวัฒนธรรมดาบซามูไรแบบดั้งเดิม เมืองเซกิซึ่งเป็นเมืองแห่งดาบญี่ปุ่นจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องห้ามพลาดในภูมิภาคชูบุโดยในเมืองเก่าที่น่าตื่นตาตื่นใจแห่งนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณและทักษะของงานฝีมือของเซกิในอดีตได้ด้วยเครื่องมีดและใบมีดคุณภาพสูง

การเดินทาง

วิธีการเดินทางจากนาโกย่าไปยังเซกิที่สะดวกที่สุด คือ รถบัสโดยขึ้นรถบัส Gifu Bus หรือ Nagoya Express Line จากชานชลาที่ 23 ของ Meitetsu Bus Center ที่สถานี Nagoya เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Seki Techno Highland หรือ Mino จากนั้นให้ลงรถบัสที่ Seki City Terminal ค่าโดยสาร ¥1,060 (สำหรับขาเดียว) และใช้เวลาประมาณ 90 นาที

Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information