นากะเซนโด คิโซะฟุคุชิมะ-จุกุ

จากเส้นทางนากะเซนโดที่เชื่อมระหว่างเอโดะ (โตเกียว) และเกียวโต บริเวณสูงชันที่ผ่านหุบเขาคิโซนั้นถูกเรียกว่าคิโซจิ ที่บริเวณนี้มีเมืองท่าอยู่ทั้งหมด 11 แห่ง เริ่มจากทางทิศเหนือ ได้แก่ นิงิกาวะ-จุกุ,นาระอิ-จุกุ,ยาบุฮาระ-จุกุ, มิยะโนโคชิ-จุกุ, ฟุคุชิมะ-จุกุ, อุเอมะทสึ-จุกุ, ซุฮะระ-จุกุ, โนจิริ-จุกุ, มิทสึรุโน-จุกุ,ทสึมะโกะ-จุกุ และมะโกเมะ-จุกุ ในบทความนี้เราขอแนะนำคิโซฟุคุชิมะ โดยเฉพาะสถานที่ที่น่าสนใจของฟุคุชิมะ-จุกุซึ่งอยู่ระหว่างกลางของเส้นทางคิโซจิ

ฟุคุชิมะ-จุกุไม่เพียงตั้งอยู่บริเวณใจกลางของคิโซจิเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเอโดะและเกียวโตอีกด้วย ทางด้านเหนือสุดของที่พักระหว่างทางจะมีด่านสำหรับตรวจตราการเข้า-ออกของประชาชนและสิ่งของที่เรียกว่าเซคิโช (ด่านตรวจฟุคุชิมะเซคิโช) ตั้งอยู่ ซึ่งในสมัยเอโดะบริเวณนี้มีผู้คนพลุกพล่านมาก เพราะเป็นจุดสำคัญของการคมนาคมที่ตั้งอยู่บริเวณทางแยกของทางหลวงที่นำไปสู่ภูเขาออนทาเกะซึ่งเป็นภูเขาแห่งการสักการะ

ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ฟุคุชิมะเซคิโช ซึ่งได้มีการบูรณะอาคารที่พักอาศัยของตระกูลยามามุระ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลคุ้มกันเซคิโชขึ้นมาใหม่ ภายในพื้นที่อุเอะโนดันฉิคุยังคงมีภาพเงาของอดีตเมืองที่พักระหว่างทางหลงเหลืออยู่ มีวัดโคเซ็นจิที่เป็นสุสานของโยชินากะ คิโซ และยังมีโรงหมักสาเกที่พัฒนามาพร้อมๆ กับประวัติศาสตร์ของเมือง

การเดินทางจากนาโกย่าไปยังฟุคุชิมะ-จุกุ

การเดินทางด้วยรถไฟ ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษชินาโน (Wide View Shinano) ที่สถานี JR นาโกย่า ไปยังสถานีคิโซฟุคุชิมะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ และใช้เวลาเดินอีกประมาณ 10 นาทีจากสถานีคิโซฟุคุชิมะไปยังฟุคุชิมะ-จุกุ

การเดินทางด้วยรถยนต์ จากทางแยกต่างระดับนาโกย่า ให้ลงที่ทางแยกต่างระดับนาคะทสึกาวะ แล้วขับมาที่โคมาคิ JCT (ถึงตรงนี้จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที) จากนั้นคุณจะมาถึงทางหลวงหมายเลข 19 ซึ่งทับซ้อนกับเส้นทางในนากะเซนโดในอดีต จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พิพิธภัณฑ์ฟุคุชิมะเซคิโชและคฤหาสน์ยามะมุระไดคัง

หากคุณสนใจประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นและเดินทางมาที่คิโซคุณจะได้สัมผัสตัวตนและความยิ่งใหญ่ของตระกูลยามามูระ ผู้พิทักษ์แห่งด่านตรวจฟุกุชิมะเซกิโช

ในช่วงสมัยเอโดะ ตระกูลยามามุระได้ปกครองภูมิภาคคิโซ ซึ่งรวมถึงที่พักระหว่างทางในคิโซจำนวน 11 แห่ง เป็นเวลาถึง 280 ปี จากการปกป้องคุ้มครองด่านตรวจ และดูแลการจัดการไม้ล้ำค่าที่เรียกว่า คิโซ โกโบคุ ทำให้พวกเขามีอำนาจอย่างมหาศาล ตราประจำตระกูลเขียนเป็นหมายเลขหนึ่งในวงกลม ซึ่งแสดงถึงอำนาจสูงสุดในภูมิภาค อำนาจของตระกูลยามามุระในเวลานั้นยังคงเห็นได้จากคฤหาสน์ยามามูระไดคังอันกว้างใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ตระกูลมายามูระสามารถปกครองคิโซได้เป็นอย่างดี และได้ปรากฏตัวในนวนิยายประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของโทซง ชิมาซากิ ที่มีชื่อว่า『ก่อนรุ่งอรุณ』ซึ่งเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 19 นอกจากนี้มัคคุเทศก์ท้องถิ่นยังคงเรียกพวกเขาว่าท่านยามามูระด้วยความเคารพ

มาเที่ยวคิโซฟุคุชิมะที่เคยปกครองโดยตระกูลยามามูระกันเถอะ

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของคิโซฟุคุชิมะ

ทิวทัศน์ของเมืองที่พักระหว่างทางฟุคุชิมะ-จุกุ

จากสถานีคิโซฟุคุชิมะ เดินมาเพียงแค่ 10 นาที คุณจะมาถึงพื้นที่ที่เรียกว่า 「อุเอะโนะดันฉิ 」ซึ่งยังคงบรรยากาศของเมืองที่พักระหว่างทางในอดีตไว้ เดิมทีฟุกุชิมะ-จุกุเป็นเมืองที่พักระหว่างทางขนาดใหญ่ แต่อาคารส่วนใหญ่ถูกเผาทำลายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปีพ.ศ. 2470 ทำให้อาคารเก่าแก่หลงเหลืออยู่แค่ในบริเวณนี้เท่านั้น

อย่างไรก็ดีเรายังคงสามารถจินตนาการถึงภาพทิวทัศน์ของเมืองในเวลานั้นได้จากผนังไม้กระดานแนวตั้งแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า 「เซนบงโกชิ」 และ「กำแพงนามะโกะ」โครงตาข่ายที่ทำจากไม้อันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีอาคารมะทสึริไคคัง ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับงานประเพณีแบบดั้งเดิม เช่น การเต้นรำ และเทศกาลคิโซ (เข้าชมฟรี)

หลังจากผ่านถนนส่วนบนของเมืองแล้วทางจะเริ่มมีความลาดชัน และระหว่างทางลงจะมีกระดานข่าวโคซัทสึบะ เป็นสถานที่สำหรับแขวนป้ายไม้ (「โคซัทสึ」) ที่มีการเขียนกฎหมายและข้อบังคับถูกวางไว้ในเมืองที่พักระหว่างทางที่มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน สำหรับกระดานข่าวโคซัทสึบะทรงสูงนี้ได้รับการบูรณะขึ้น และกล่าวกันว่ามีขนาดเพียงสองในสามของของจริงเท่านั้น

หากเดินต่อไปคุณจะพบกับทิวทัศน์ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ คุณอาจจะสนใจที่นี่ แม้ว่าจะไม่ใช่ถนนจากสมัยซามูไร แต่ก็ให้ความรู้สึกย้อนยุคไปถึงยุคโชวะของญี่ปุ่น อีกทั้งยังดูเหมือนสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ และโรงหมักสาเกนานะวะระอิที่จะกล่าวถึงในตอนท้ายก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวเช่นกัน

หลังจากผ่านถนนย่านร้านค้าไปแล้วจะพบกับบันไดสูงชันทางด้านขวามือ ด้านบนสุดของบันไดเป็นเนินเขาสามารถมองเห็นถนนที่เพิ่งเดินผ่านมาได้ และหากคุณลงไปตามตรอกแคบๆ บนหน้าผา จะพบบ้านหลังเก่าของตระกูลทาคาเสะที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม และถ้าคุณไปต่ออีกคุณจะไปถึงที่ตั้งของฟุคุชิมะเซกิโช

พิพิธภัณฑ์ฟุคุชิมะเซคิโช

ฟุคุชิมะเซคิโชเป็นด่านตรวจหลักในสมัยเอโดะเพื่อติดตามการสัญจรไปมาบนเส้นทางสายนากะเซ็นโด ทำหน้าที่ควบคุมการนำปืนเข้าสู่เอโดะอย่างเข้มงวด และป้องกันการหลบหนีของภรรยาและลูกสาวของขุนนางศักดินาที่ถูกคุมขังเป็นตัวประกันในเอโดะ ด่านตรวจนี้ถูกกั้นขึ้นบนพื้นที่แคบ ๆ ด้านบนสุดของหน้าผาเพื่อรอนักเดินทาง

ปัจจุบันภายในพิพิธภัณฑ์ได้ทำการจำลองบรรยากาศของด่านตรวจ และมีการจัดแสดงวัสดุล้ำค่า เช่น พัดไม้ และอาวุธ โดยบัตรเข้าชมจำหน่ายในราคา 900 เยน ซึ่งนอกจากพิพิธภัณฑ์ฟุคุชิมะเซคิโชแล้ว ยังสามารถเข้าชมคฤหาสน์ยามามุระไดคัง และวัดโคเซ็นจิได้อีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเข้าเยี่ยมชมสถานที่ทั้งสามแห่งไปพร้อมๆ กัน

คฤหาสน์ยามะมุระไดคัง

เมื่อออกจากพิพิธภัณฑ์ฟุคุชิมะเซคิโช ให้ข้ามแม่น้ำคิโซที่อยู่ทางด้านหน้า แล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยังคฤหาสน์ยามะมุระไดคัง ถึงแม้ว่าจะเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่แต่ว่ากันว่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสถานที่ดั้งเดิมเท่านั้น เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะได้เห็นการจำลองอาหารอันโอ่อ่าที่ชาวบ้านทำขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ปกครอง คุณสามารถสัมผัสได้ถึงอำนาจของตระกูลยามามูระในฐานะผู้ปกครองพื้นที่คิโซ และที่ทำหน้าที่เป็นเซกิโช (ผู้พิทักษ์ด่าน) ของด่านตรวจฟุกุชิมะมาโดยตลอดสมัยเอโดะ

วัดโคเซ็นจิ

วัดโคเซ็นจิเป็นวัดเซ็นเก่าแก่ที่เป็นตัวแทนของคิโซ ที่นี่มีสุสานของโยชินากะ คิโซ หนึ่งในวีรบุรุษของ "สงครามเก็นเปอิ " เมื่อปลายศตวรรษที่ 12 ซึ่งญี่ปุ่นยังคงแบ่งออกเป็นสองส่วน และมีสุสานของตระกูลยามามุระ ผู้ปกครองคิโซในสมัยเอโดะ คุณจะต้องแปลกใจเมื่อก้าวผ่านประตูหลักของวัดที่ได้รับการดูแลอย่างดีและพบว่าภายในมีวัดที่แสนงดงามในเมืองที่เงียบสงบเช่นนี้

ภายในบริเวณนี้มีสวนญี่ปุ่นอยู่สี่แห่ง แต่ละแห่งมีโครงสร้างที่วิจิตรบรรจง แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือสวนหินที่ชื่อว่า 「คุโมนิวะ」สวนแห่งนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลเมฆเป็นสัญลักษณ์ แทนด้วยหินและกรวด และยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถมองเห็นภูเขาคิโซได้อีกด้วย

ทัวร์เยี่ยมชมโรงหมักสาเกของฟุคุชิมะ-จุกุ,「นานะวะระอิ」และ 「นากะโนริซัง」

การเดินเล่นไปตามนากะเซนโดเพื่อเยี่ยมชมเมืองที่พักระหว่างทางจะยิ่งสนุกยิ่งขึ้นหากคุณเพิ่มทัวร์โรงหมักสาเกเข้าไป โรงหมักสาเกของที่นี่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อดับกระหายให้แก่นักเดินทางจำนวนมากที่แวะมาพักผ่อน มีโรงหมักสาเกสองแห่งในคิโซฟุคุชิมะ ได้แก่ โรงหมัก「นานะวะระอิ」และ 「นากะโนริซัง」ซึ่งแต่ละแห่งมีการหมักสาเกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีให้ชิมและทัวร์ด้วย ดังนั้นอย่าลังเลใจที่จะแวะมาเยี่ยมชม (※ อาจมีการจำกัดการเข้าชมขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแผ่ระบาดของโควิด-19)

บทส่งท้าย

หากคุณเดินทางด้วยสารรถไฟ JR สายชุโอจากสถานีคิโซฟุคุชิมะคุณสามารถไปยังสถานีนาระอิจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที บริเวณรอบๆ สถานีนาระอิ คุณจะได้พบกับเมืองนาระอิ-จุกุที่มีทิวทัศน์เมืองของเมืองที่พักระหว่างทางที่ยาวที่สุดบนเส้นทางนากาเซนโด แม้ว่าผู้คนมักจะมองข้ามคิโซฟุคุชิมะแต่ที่นี่คือศูนย์กลางทางการเมืองของคิโซมาช้านาน และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย โดยมีระยะห่างระหว่างสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งไม่ไกลกันมากนัก คุณสามารถเยี่ยมชมทุกที่ได้ภายในครึ่งวัน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นประตูสู่เส้นทางมิทาเกะโคโดซึ่งจะพาคุณไปสู่ภูเขามิทาเกะ ดังนั้นเราขอแนะนำคิโซฟุกุชิมะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการท่องเที่ยวในคิโซ

Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information