| Centrip Editorial Board

อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) ขับรถไปยังจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพสุดชิค

บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์

อิเสะ-ชิมะเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากการจัดการประชุม G7 Ise-Shima Summit ในปี 2016 และเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายของที่พักแบบรีสอร์ทที่สำคัญของญี่ปุ่นซึ่งขนานไปกับแนวชายฝั่งที่งดงามและโรงแรมหรูมากมาย และก็ยังมีพื้นที่พักอาศัยของชาวญี่ปุ่นจำนวนมากและศาลเจ้าอิเสะจิงกุ (Ise Jingu Shrine) อีกด้วย

บริเวณอิเสะ-ชิมะแบ่งเป็น 3 เมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแตกต่างกันไป ได้แก่ เมืองอิเสะ (Ise) เมืองโทบะ (Toba) และเมืองชิมะ (Shima) บทความนี้จะแนะนำการเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของพื้นที่อิเสะ-ชิมะผ่าน 2 เส้นทาง ได้แก่ อิเสะ-ชิมะ สกายไลน์ (Ise-Shima Skyline) ที่เชื่อมระหว่างอิเสะและโทบะและถนนแห่งไข่มุกที่เชื่อมระหว่างโทบะและชิมะ

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง: อิเสะจิงกุ (Ise Jingu) และโอคาเกะ โยโคโจ (Okage Yokocho)

อิเสะจิงกุเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งมีประวัติความเป็นมากว่า 2,000 ปี การเดินแสวงบุญไปยังอิเสะมีชื่อ เรียกว่า โออิเสะ-มิอิริ (Oise-Mairi) เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมในยุคเอโดะ (1603-1867) ในเวลานั้น การเดินทางจากเอโดะ (โตเกียว) ไปยังศาลเจ้าอิเสะนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลักเดือนสำหรับการเดินทางไปอิเสะพร้อมกับเที่ยวชมบริเวณโดยรอบ

ก่อนที่เราจะเริ่มทริปอิเสะ-ชิมะ เราได้ขอพรที่ศาลเจ้าอิเสะจิงกุเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและสนุกสนาน

สะพานอุจิ (Uji Bridge) ของศาลเจ้าอิเสะจิงกุที่อยู่เหนือแม่น้ำอิสุสุ (Isuzu River)
โอโฮราอิมาจิ (Oharaimachi) ด้านหน้าศาลเจ้าอิเสะจิงกุ

อิเสะจิงกุมีศาลเจ้า 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าชั้นนอกและศาลเจ้าชั้นใน (จริง ๆ แล้วศาลเจ้าอิเสะจิงกุเป็นชื่อรวมของศาลเจ้าทั้งหมด 125 แห่ง) แต่ถ้าคุณต้องเลือกเพียงศาลเจ้าแห่งเดียว ขอแนะนำศาลเจ้าชั้นในซึ่งเป็นพื้นที่กว้างและมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและต้นไม้แต่ละต้นก้มีความงดงามเฉพาะตัว ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจถึงความยิ่งใหญ่ของศาลเจ้าแห่งนี้

ถนน 2 เส้น คือโอฮาไรมาจิ (Oharaimachi) และโอกะเกะโยโกโชะ (Okageyokocho) รอบๆ ศาลเจ้าชั้นใน ถนนทั้ง 2 เส้นอยู่หน้าประตูโทริอิ ในบริเวณนี้ คุณจะได้เพลิดเพลินกับการทานอาหารแบบสบาย ๆ และซึมซับบรรยากาศเดียวกันกับนักบุญอิเสะในสมัยเอโดะ

อิเสะ-ชิมะ สกายไลน์ เส้นทางจากอิเสะไปยังโทบะ

หลังจากที่ไปเยี่ยมชมศาลเจ้า เรามุ่งหน้าไปยังทางเข้าอิเสะ-ชิมะ สกายไลน์ ถนนโทลล์เวย์ยาว 16.3 กิโลเมตรเส้นนี้เชื่อมกับอิเสะและโทบะ (ค่าโทลล์เวย์ 1,270 เยน) ทางเข้าอยู่ใกล้ศาลเจ้าอิเสะจิงกุและใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาทีในการเดินทางจากที่จอดรถไปยังศาลเจ้าด้านใน

จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่เคยเป็นจุดชมวิวในอดีต

เมื่อผ่านบริเวณทางเข้าคุณจะพบกับเส้นขึ้นเนินไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาและทางลงไปสู่บริเวณโทบะ บรรยากาศระหว่างทางโดยเฉพาะส่วนที่เป็นทางลงนั้นงดงามเกินจะบรรยาย คุณจะได้เห็นชายฝั่งและเกาะเล็ก ๆ ในทะเล ทุก ๆ มุมมีความงดงามใหม่ ๆ ให้คุณได้ค้นหา

2 สถานที่แนะนำบนอิเสะ-ชิมะ สกายไลน์ ได้แก่ จุดชมวิว อะสะคุมะ (Asakuma Summit) และวัดคงโกโชจิ (Kongoshoji) ก่อนถึงจุดชมวิวอะสะคุมะ

จุดชมวิวอะสะคุมะหรือ Asakuma Summit Observation

ที่นั่งสุดพิเศษที่มาพร้อมวิวสุดตระการตา

จุดชมวิวอะสะคุมะตั้งอยู่ประมาณครึ่งทางระหว่างอิเสะ-ชิมะ รอบ ๆ จุดชมวิวมีเส้นทางเดินเล่นและม้านั่งที่วางไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ให้ความตระการตาของอ่าวอิเสะเป็นจุดถ่ายรูปและจุดยอดนิยม คือ ตู้ไปรษณีย์ย้อนยุคสีแดงและอ่างแช่เท้า

ตู้ไปรษณีย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
คุณยังแช่เท้าระหว่างชมวิวได้อีกด้วย

วัดคงโกโชจิ (Kongoshoji Temple)

วัดคงโกโชจิตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวอะสะคุมะ (Asakuma Observatory) ซึ่งเป็นวัดเก่าที่สร้างช่วงปลายศตวรรษที่ 6 เพื่อปกป้องศาลเจ้าอิเสะจากเหล่าปีศาจ (โอนิมอน) ในยุคเอโดะ (1603 - 1867) ผู้แสวงบุญมักเดินทางมาวัดแห่งนี้เมื่อแวะมาที่ศาลเจ้าอิเสะจิงกุ

สะพานที่อยู่ในสระน้ำดอกบัว
ประตูทางเข้าอาคารด้านใน

สวนอันสวยงามแห่งนี้มีสระน้ำดอกบัวอยู่เคียงคู่กับสะพานสีแดง เส้นทางไปสู่อาคารด้านในมีเจดีย์ไม้สูง 5-6 เมตรอยู่ทุกด้าน คุณจะตะลึงเมื่อได้เห็นเป็นครั้งแรก

ถนนแห่งไข่มุก จากโทบะสู่ชิมะ

เมื่อออกจากอิเสะ-ชิมะ สกายไลน์แล้วให้มุ่งหน้าไปยังอีกเส้นทางหรือถนนแห่งไข่มุก เส้นทางระหว่างอิเสะ-ชิมะ สกายไลน์และสะพานอาโสะ โนะ อุระที่เป็นจุดเริ่มต้นของถนนแห่งไข่มุกมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

ระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะและเกาะมิกิโมโต้ซึ่งคุณแวะเที่ยวได้ถ้าคุณสนใจเป็นพิเศษ

แมวน้ำไบคาลของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก
เกาะไข่มุกมิกิโมโต้หรือ Mikimoto Pearl Island

ถนนแห่งไข่มุกมีความยาว 23.8 กิโลเมตรเชื่อมระหว่างโทบะและชิมะซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งของทะเลริอัส (Rias) อันขรุขระที่ทำให้คนจำนวนมากชื่นชอบการขับผ่านเส้นทางนี้และที่สำคัญ เส้นทางนี้ไม่มีการเก็บค่าผ่านทาง

สะพานโอโสะ โนะ อุระ หรือ Aso-no-Ura Bridge

สะพานโอโสะ โนะ อุระเป็นจุดเริ่มต้นของถนนแห่งไข่มุก

บริเวณจุดเริ่มต้นของถนนแห่งไข่มุกมีสะพานสีขาวงดงามตัดระหว่างท้องฟ้ากับทะเล บนผืนน้ำมีแพสำหรับเลี้ยงหอยนางรมลอยเหนือน้ำ หอยนางรมเป็นอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่บริเวณนี้

รอบ ๆ สะพานโอโสะ โนะ อุระมีร้านอาหารที่ขายเมนูหอยนางรมจำนวนมากซึ่งนักท่องเที่ยวมาทานหอยนางรมได้ในราคา 2,000 - 3,000 เยนต่อคนในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูของหอยนางรมโดยเฉพาะ หอยนางรมอีกชนิดที่อร่อยมีชื่อว่า อิวากากิ (Iwagaki) ซึ่งมีให้ทานกันในช่วงฤดูร้อน

จุดชมวิวโทบะ (Toba Observatory)

จุดชมวิวหลายแห่งบนถนนแห่งไข่มุกแต่จุดชมวิวโทบะมีวิวที่งดงามที่สุด จุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 163 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

จุดชมวิวโทบะเป็นศาลาเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมองเห็นอ่าวทั้งหมด

จุดชมวิวโทบะเป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและในวันที่อากาศแจ่มใสยังมองเห็นภูเขาไฟฟูจิซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ด้านหน้าของคุณเป็นความเขียวขจีตัดกับแนวชายฝั่งทะเลอันสลับซับซ้อนที่อยู่ไกลออกไปและเส้นขอบฟ้าที่ทอดยาวออกไปอีก ลมที่พัดมาจากมหาสมุทรก็เย็นสบายสุด ๆ ไปเลย

ร้านอาหารที่จุดชมวิว
ถนนแห่งไข่มุกสุดลูกหูลูกตายาวไปถึงจุดชมวิว

ร้านอาหารที่จุดชมวิวมีเบอร์เกอร์ที่ทำมาจากวัตถุดิบในพื้นที่ให้คุณได้มาลองชิม

จุดชมวิวแสนสนุก สะพานอ่าวอาอิสะ-มาโทยะ (Aisa-Matoya Bay Bridge)

นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวโอโมชิโระซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่มาพร้อมห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ สองข้างทางขนาบด้วยต้นไม้เขียวขจีทำให้ขับรถได้อย่างสบายใจ แต่เส้นทางนี้มีสัตว์ป่าจำนวนมากจึงควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

จุดชมวิวโอโมชิโระ (Omoshiro Obseratory) ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่
ขับรถเพลิน ๆ

ถ้าคุณเดินทางมาที่โทบะ เราแนะนำให้ออกจากถนนแห่งไข่มุกและไปดูเหล่านักดำน้ำ (อาจิสะ (Ajisa) เมืองของอะมะ (Ama))

อะจิกิเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมการดำน้ำแบบอะมะ
นักดำน้ำอะมะกำลังปรุงอาหารต่อหน้าคุณ

เมื่อกลับมาบนถนนแห่งไข่มุกอีกครั้งนึงคุณจะเห็นสะพานสีแดง เมื่อข้ามสะพานไปก็ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของถนนแห่งไข่มุก ก่อนจะถึงสะพานมีจุดชมวิวที่คุณจะแวะถ่ายภาพแนวชายฝั่งและสะพานรถไฟรูปทางโค้งสีแดง

สะพานอ่าวมาโทยะที่สวยเตะตาด้วยสะพานเหล็กสีแดง

จุดชมวิวโยโกยาม่า (Yokoyama Observatory)

หลังจากลงจากถนนแห่งไข่มุก จุดหมายต่อไป คือ จุดชมวิวโยโกยาม่าที่อยู่ห่างออกไป 7-8 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้แคบนิดหน่อยโปรดขับรถอย่างระมัดระวังโดยใช้ GPS นำทาง

จุดชมวิวโยโกยาม่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา

จุดชมวิวโยโกยาม่าเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวในบริเวณอิเสะ-ชิมะซึ่งมีชื่อว่าได้ 1 ดาวใน Michelin Green Guide Japon จุดชมแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 140 เมตรที่มองเห็นวิวมุมกว้างของอ่าวอะโกที่มีเกาะต่างๆ กว่า 60 เกาะ เป็นภาพที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน

ทางลาดไม้ยาวจากที่จอดรถไปยังจุดชมวิวและที่จุดชมวิวมีคาเฟ่ชื่อว่า Mirador Shima ซึ่งขายแซนด์วิช ไอศกรีม และของว่างอื่น ๆ

เรือสำราญเคนชิม่า เอสพาน่า (Kenshima España Cruise)

หลังจากการชมวิวอันตระการตาที่จุดชมวิวโยโกยาม่าแล้ว เดินทางไปยังอ่าวอะโก (Ago Bay) กันเถอะซึ่งคุณมองเห็นได้จากจุดชมวิว

เรือสำราญเอสพารัญซ่า (Esperanza Cruise Boat)

อันดับแรก เราจะข้ามสะพานไปยังเกาะเคนชิม่า (Kenshima)

เกาะเคนชิม่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอ่าวอะโกและเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในชิมะนับตั้งแต่โรงแรมชิมะเคนโค (Shima Kanko Hotel) ในปี 1951 สำหรับการเดินทางชิล ๆ ในอ่าวอะโกจากเคนชิม่าให้คุณขึ้นเรือสำราญเอสพารัญซ่าซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากเรือแกลเลี่ยนในศตวรรษที่ 16 หรือช่วงเวลาแห่งการสำรวจ การเดินทางไปกลับในอ่าวอะโกใช้เวลาประมาณ 50 นาที (ค่าโดยสารเรือเอสพารัญซ่าอยู่ที่ 1,800 เยนสำหรับผู้ใหญ่ นักเรียนมัธยมต้นและผู้สูงอายุ และ 1,000 เยนสำหรับเด็ก (อายุ 4 ขวบ -ประถมศึกษา) 1,000 เยน)

※ ราคาที่ระบุเป็นข้อมูล ณ เวลาที่เผยแพร่บทความ กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดอีกครั้ง

อ่าวอะโกจากเอสพารัญซ่า
การสาธิตขั้นตอนการผลิตไข่มุก

เรือมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยพื้นที่พิเศษเฉพาะบางส่วนของชั้น 2 จะมีค่าบริการเพิ่มเติม [ค่าบริการสำหรับที่นั่งพิเศษ: ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 500 เยน และเด็ก (ระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่า) 300 เยน ซึ่งไม่รวมอยู่ในค่าโดยสารปกติ] เรือแล่นในน่านน้ำที่คลื่นลมสงบ ทำให้แทบจะไม่รู้สึกถึงการสั่นไหว หากอากาศดีเราขอแนะนำให้นั่งบนดาดฟ้าชั้น 3 เพื่อสัมผัสลมทะเลที่แสนสดชื่น

ราคาที่ระบุเป็นข้อมูล ณ เวลาที่เผยแพร่บทความ กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดอีกครั้ง

หมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชิมะ (Shima Mediterranean Sea Village)

ระหว่างที่นั่งอยู่บนเรือสำราญเอสพารัญซ่าคุณจะได้ชมวิวของโรงแรมหรูมากมายเรียงตัวกันสลับกับอาคารรูปลักษณ์เฉพาะตัวรอบ ๆ อ่าวอะโกและอาคารที่สะดุดตาที่สุดตาที่สุด คือ หมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชิมะที่มีหลังคาสีส้มโดดเด่น

สัมผัสหมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจำลองที่หมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชิมะ)

หมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชิมะเป็นโรงแรมรีสอร์ทที่สร้างบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน สีที่ตัดกันระหว่างสีฟ้าของท้องฟ้า สีขาวของกำแพง สีสันสดใสของอิฐและสีครามของอ่าวอะโกช่างงดงามเหลือเกิน ภายในหมู่บ้านนี้มีจุดให้ถ่ายภาพมากมาย

คุณเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แตกต่างกันไปได้ในแต่ละพื้นที่
วิวอ่าวอะโกจากหมู่บ้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

แม้ว่าสถานที่นี้มีไว้สำหรับแขกค้างคืนแต่ถ้าคุณอยากเข้าชมก็สามาถเข้าได้โดยมีค่าเข้าชมแบบไปเช้าเย็นกลับในราคา 700 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) นอกจากร้านอาหารและคาเฟ่แล้ว ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น การล่องเรือและการทำรถไฟเหาะโดยใช้กระเบื้องโมเสก

※ ราคาที่ระบุเป็นข้อมูล ณ เวลาที่เผยแพร่บทความ กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดอีกครั้ง

เพลิดเพลินกับ VISON จุดเช็คอินยอดฮิตจุดใหม่

ต่อไป มุ่งหน้าไปยัง VISON ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 หากเดินทางจากฝั่งชิมะและใช้เส้นทาง อิเสะไอซี (Ise IC) บนทางด่วนอิเสะ คุณสามารถเข้าถึง VISON ได้โดยตรงผ่านทางออกทาคิ วิซอน สมาร์ทไอซี (Taki VISON Smart IC) (จำกัดเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบ ETC เท่านั้น)

VISON HOTELS อาคารรูปทรงคล้ายบันได

VISON เป็นอาคารขนาด 54 เฮกเตอร์ที่เปิดเป็นตลาดขายผักและอาหารทะเลในท้องถิ่น ร้านอาหาร โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โรงแรมแห่งนี้เป็นอาคารรูปบันไดที่โดดเด่นซึ่งปรับมาจากความลาดชันของภูเขา

ภาพของ VISON จากด้านบนของบันไดเลื่อน
แผนกต้อนรับของโรงแรมที่สะท้อนกับผืนน้ำ

VISON มีออนเซ็นชื่อว่า ฮอนโซ ยุ (Honzo Yu) ซึ่งมีการใช้สมุนไพรให้บริการแขกของโรงแรม การเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการขับรถไปในเส้นทางอิเสะ-ชิมะ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค แจ๊ส ดรีม นางาชิมะ

หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งระหว่างเดินทางกลับจากการขับรถเที่ยวในพื้นที่อิเสะชิมะมายังนาโกย่า ขอแนะนำให้แวะที่ แจ๊สดรีม นางาชิมะ ซึ่งเป็นเอาท์เล็ตรูปแบบใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ ที่นี่คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสูงในราคาประหยัดแบบเอาท์เล็ต การเดินทางก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางหลวง และยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง นางาชิมะ สปาแลนด์ และ นาบานะ โนะ ซาโตะ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการประดับไฟอีกด้วย

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค แจ๊ส ดรีม นางาชิมะ
ที่นี้มีร้านค้ามากมายเรียงรายอยู่ ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้ตลอดทั้งวัน

ที่พักแนะนำ: Fairfield by Marriott Mie Okuise Odai

การตกแต่งภายนอกของ Fairfield by Marriott Mie Okuise Odai
ล็อบบี้ที่มีบรรยากาศทันสมัย
ห้องพักตกแต่งอย่างสวยงาม

ในการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ที่อิเสะชิมะ เราขอแนะนำให้พักที่โรงแรม Fairfield by Marriott Mie Okuise Odai ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล

บริเวณรอบๆ โรงแรมมีธรรมชาติอันสวยงามที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลให้คุณได้สัมผัส และยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่าให้ได้สนุกสนาน โรงแรมทุกแห่งของ Fairfield by Marriott เป็นสถานีริมทางซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวทางถนนในญี่ปุ่น ทำให้สะดวกในการสนุกกับของฝากท้องถิ่นและอาหารอร่อย ขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไปได้อย่างสะดวกสบาย

บทสรุป

ทริปนี้ครอบคลุมจุดชมวิวที่สวยงาม 3 แห่งและจุดถ่ายภาพหลายแห่งในพื้นที่อิเสะ-ชิมะเมื่อใช้เส้นทางอิเสะ-ชิมะ สกายไลน์และถนนแห่งไข่มุก คุณเดินทางผ่านทั้งเส้นทางได้ในวันเดียวแต่ระหว่างทางก็ยังมีมีสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักที่น่าสนใจอีกมากมายในพื้นที่อิเสะ-ชิมะซึ่งหากคุณมีเวลาว่างสักสองสามวัน เราแนะนำให้คุณเยี่ยมเดินทางมาอิเสะ-ชิมะเพื่อสัมผัสประสบการณ์วันหยุดที่ยอดเยี่ยมในญี่ปุ่น

Related Articles Related Articles