| Hannah Tsai

หมู่บ้านอะจิ (Achi Village) สุดโรแมนติก ผืนฟ้าที่ดวงดาวระยิบระยับที่สุดในญี่ปุ่น

มานอนแหงนมองดูดาวกับคู่รักหรือเพื่อนของคุณระหว่างพักที่โรงแรมออนเซ็นหรือเดินไปตามถนนยาว 1 กิโลเมตรที่มีดอกพีชบานสะพรั่ง หมู่บ้านอะจิในจังหวัดนากาโน่เท่านั้นที่จะมอบโอกาสการเดินทางที่น่าประทับใจได้เช่นนี้ Centrip Japan ได้เตรียมแผนการเดินทางในหมู่บ้านอะจิพร้อมรายละเอียดวิธีการซื้อตั๋วสำหรับการดูดาว!

ท้องฟ้าที่มีดวงดาวระยิบระยับที่สุดในญี่ปุ่น: หมู่บ้านอะจิ จังหวัดนากาโน่

ท้องฟ้าที่มีดวงดาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่นได้รับมาจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นโดยการประเมินทางวิทยาศาสตร์หลายองค์ประกอบ รวมถึงปริมาณแสงไฟและความสว่างของดาวและนี่ส่งผลให้หมู่บ้านอะจิ หมู่บ้านเล็ก ๆ ประกอบด้วยประชากรประมาณ 6,000 คนได้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการดูดาว

นอกจาก ฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้ว หมู่บ้านอะจิยังเป็นที่ตั้งของฮิรุกามิออนเซ็น น้ำพุร้อนทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นทำให้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของสาว ๆ ชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังออนเซ็นยังเดินเล่นบนถนนที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่นที่ขนาบไปด้วยดอกพีช นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเก็บเกี่ยวผลไม้และผักสดตลอดปีซึ่งทำให้กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนสุดโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ

บทความนี้ พวกเราอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับคอร์สการเดินทางแบบ 2 วัน 1 คืนสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาที่หมู่บ้านอะจิเป็นครั้งแรก เราไปนอนดูดาวและแช่ออนเซ็นกันเถอะ

หมู่บ้านอะจิ 2 วัน 1 คืน: นอนดูดาวแช่ออนเซ็น

[วันที่ 1] 14:00 น. สัมผัสประสบการณ์เก็บผลไม้สด ๆ ที่ฟาร์มฮิโกะ คังโค (Higo Kanko Farm)

บลูเบอร์รี่ที่เพิ่งเก็บสด ๆ มีรสอร่อยอมเปรี้ยว
สวนบลูเบอร์รี่ไกลสุดลูกหูลูกตา

เมื่อคุณเดินทางมาถึงหมู่บ้านอะจิ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์เฉพาะตัว : การเก็บผลไม้

สถานที่แห่งนี้มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืนซึ่งเป็นอากาศที่เหมาะสมสำหรับการสะสมน้ำตาลในผลไม้และผักในบริเวณหมู่บ้านอะจิ ทำให้การเก็บผลไม้เป็นกิจกรรมยอดนิยมของหมู่บ้านอะจิและมีให้คุณได้ลองมาสัมผัสตลอดปี

การเก็บผลไม้ที่มินามิ-ชินชู (Minami-Shinshu)

แอปเปิ้ล: ปลายสิงหาคมถึงปลายพฤศจิกายน
สตรอว์เบอร์รี่: ปลายมกราคมถึงต้นมกราคม
องุ่น: กลางสิงหาคมถึงกันยายน
เชอร์รี่: กลางมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม

บลูเบอร์รี่ลูกใหญ่ (ราคากล่องละ 500 เยน)

ครั้งนี้เราได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มฮิโกะ คังโคเพื่อเก็บผลไม้ สวนบลูเบอร์รี่ยาวสุดลูกหูลูกตานี้ปลอดยาฆ่าแมลง และกินได้ทันทีหลังการเก็บเกี่ยว สำหรับเราที่เป็นคนที่เกิดในเขตกึ่งเขตร้อนที่มีบลูเบอร์รี่ราคาแพงและจัดว่าเป็นผลไม้หรูหรา จึงมองว่าที่นี่เป็นเหมือนกับความฝันที่เป็นจริงที่จะสามารถกินบลูเบอร์รี่เท่าไหร่ก็ได้ตามที่ใจต้องการในราคาที่ไม่แพง

ถ้าคุณอยากลองมาเด็ดผลไม้ คุณสามารถจองคิวออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ Achi☆Hirugami Tourism Bureau ในฮารุกามิออนเซ็น (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

16:00 น. เพลิดเพลินกับออนเซ็นและค้างคืนที่เรียวกังในฮิรุกามิออนเซ็น (Hirugami Onsen)

ถ้าคุณอยากดูดาวช่วงกลางคืน เราแนะนำให้ไปที่ฮิรุกามิออนเซ็นช่วงบ่าย เมื่อคุณเช็คอินแล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของทัวร์ออนเซ็นของญี่ปุ่น

ฮิรุกามิออนเซ็นมีชื่อเสียงเกี่ยวกับน้ำแห่งความงาม

ที่แห่งนี้แตกต่างจากออนเซ็นรีสอร์ทอื่น ๆ ของญี่ปุ่นที่มีมาเป็นเวลานานแต่ฮิรุกามิออนเซ็นเพิ่งมีอายุเพียง 50 ปีซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่ สถานที่แห่งนี้ล้อมรอบด้วยแม่น้ำและภูเขาแสนสงบทำให้เป็นเมืองออนเซ็นอันเงียบสงบที่มีชื่อเสียงด้านออนเซ็นเพราะมีน้ำที่ให้ความชุ่มชื่น ช่วยเรื่องความขาวใสและชะลอวัยอีกด้วย

ล็อบบี้อันกว้างขวางของเรียวกังเคอิเก็ทซึออนเซ็น (Keigetsu Onsen Ryokan)
อ่างแช่น้ำร้อนที่ทำจากไม้โคยะ-มากิ (Koya-maki) หรือไซปรัสญี่ปุ่น

ที่เรียวกังคาอิเก็ทซึออนเซ็น เราเพลิดเพลินกับออนเซ็นอัลคาไลน์ที่มีคุณสมบัติชะลอวัยในอ่างที่ทำจากไม้โคยะ-มากิซึ่งไม้โคยะ-มากินี้มีเนื้อที่แข็งกว่าและหาได้ยากกว่าไซปรัสญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป

บางห้องมีอ่างแช่น้ำแบบส่วนตัว

ห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่กว้างขวางเหล่านี้ บางห้องมีห้องอาบน้ำส่วนตัวเป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายของคุณโดยไม่มีผู้อื่นมารบกวน อาหารมื้อเย็น คือ อาหารคาอิเซกิ (Kaiseki) เสิร์ฟเนื้อวัวมุราซาวะ (Murasawa Beef) และวัตถุดิบจากท้องถิ่นอื่น ๆ

เพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งและแคมป์ใต้ดวงดาว

สถานที่แห่งนี้ยังมีที่พักแบบพิเศษโดยการตั้งแคมป์ในหมู่บ้านอะจิและพักค้างคืนภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น มีตัวเลือกการตั้งแคมป์มากมายไม่ว่าจะเป็น Ginga Momiji ซึ่งมีที่พักให้คุณเลือกมากมาย ทั้งที่พักแบบกระท่อมและเต็นท์ ดังนั้นเพียงคุณอ่านภาษาญี่ปุ่นได้และมีประสบการณ์การตั้งแคมป์บ้างคุณก็มาพักที่นี่ได้สบาย ๆ

19:00 น. กระเช้าลอยฟ้ามุ่งหน้าสู่สวรรค์ยามค่ำคืน

ไฮเลท์ของทัวร์นี้ คือ ทัวร์ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เหมือนสรวงสวรรค์ที่ความสูงกว่า 1,400 เมตร

กระเช้าลอยฟ้ากว้างพอจะบรรทุกรถเข็นได้อีกด้วย
กระเช้าลอยฟ้ากำลังลอยสู่ท้องฟ้าและดาวระยิบระยับ

ถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยงแสงจากในเมือง เราแนะนำให้นั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูเขาไปประมาณ 15 นาที ในความมืดระหว่างการนั่งกระเช้าลอยฟ้า คุณจะได้ชมวิวสุดพิเศษจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

เมื่อคุณเดินทางมาถึงจุดชมวิว ปูเสื่อบนพื้นหญ้าและนั่งชิลรอให้งานเริ่ม และเมื่อถึงเวลาไฟจะดับลง ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคน นอกจากนี้ ยังมีการบรรยาย เพลงชวนฝัน และมีวิดีโอให้รับชมอีกด้วย

บนยอดเขามีอากาศหนาวเย็นแม้ในฤดูร้อน อย่าลืมเตรียมผ้าห่มและเสื้อผ้าอุ่น ๆ มาด้วย ดนตรีบรรเลงที่สถานที่จัดงานทำให้เป็นสถานที่สุดโรแมนติก

[วันที่ 2] 6:00 น. ตลาดเช้าที่ฮิรุกามิออนเซ็น

หากคุณตื่นเช้า อย่าลืมไปเยี่ยมชมตลาดเช้าที่เปิดตลอดปีที่ฮิรุกามิออนเซ็นซึ่งคุณจะได้ซื้อสินค้าท้องถิ่นรวมถึงผลไม้ตามฤดูกาล ผัก แยม งานฝีมือและอื่น ๆ อีกมากมาย เราแนะนำให้คุณชิมผลไม้ที่มีให้ลองชิมได้ที่ตลาดแห่งนี้เท่านั้น

ตลาดเช้า

เมษายนถึงตุลาคม: 6:00 น. ถึง 8:00 น.
พฤศจิกายนถึงมีนาคม: 6:30 น. ถึง 8:00 น.

[9:30 น. Hirugami Kiwosk]

ช็อกโกแลตแอปเปิ้ลที่บรรจุในกล่องขนาดเท่าฝ่ามือ
ไซเดอร์มากมายให้คุณได้เลือก รวมถึง เหล้าแอปเปิ้ลด้วย

อย่าลืมซื้อของที่ระลึกระหว่างทางด้วยล่ะ บริเวณใกล้ ๆ ตลาดเช้าแล้วยังมี Hirugami Kiwosk ที่คุณเลือกซื้อของที่ระลึกจากหมู่บ้านอะจิได้ ร้านแห่งนี้เปิดบริการถึง 17:00 น. เลือกซื้อของที่ระลึกที่ร้านแห่งนี้ จัดกระเป๋าและเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมยามบ่ายกันเถอะ

11:00 น. เพลิดเพลินกับความงดงามของที่ราบสูงและป่าไม้: Heavens Sonohara

จากนั้นให้นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปยัง Heavens Sonohara บนที่ราบสูงคุณได้ชมงาน Paradise in the Sky ทิวทัศน์จะดูแตกต่างไปจากช่วงกลางวันจนคุณอาจไม่เชื่อว่าเป็นสถานที่เดียวกัน

หากคุณเยี่ยมชมที่ราบสูงในตอนกลางวัน ให้คุณไปที่ป่าอิวานะ (Iwana Forest) ที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ในตอนกลางคืน ทะเลสาบใสสะอาดสวยงาม มีดอกไม้ป่าและนกหายาก

ถึงจะเป็นป่าแต่ทางเดินก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและใช้รถเข็นได้ (สำนักงานการท่องเที่ยวหมู่บ้านอะจิมีบริการให้เช่ารถเข็นและบริการอื่น ๆ ฟรี)

ถ้าคุณชอบเดินป่าคุณควรไปที่ยอดเขาซึ่งมองเห็นภูเขาที่มีชื่อเสียง 23 แห่งจาก 100 แห่งของญี่ปุ่นพร้อม ๆ กัน จาก Heavens Sonohara ให้ขึ้นลิฟต์และรถบัสอีกประมาณ 30 นาทีเพื่อไปยังยอดของที่ราบสูงฟูจิมิ (Fujimi) กับมาพร้อมกับวิวตระการตาแบบ 360 องศา

17:00 น. โฮชิโซระ โชคุโด (Hoshizora Shokudo)

ร้านอาหารสไตล์ยุโรป: โฮชิโซระ โชคุโด (Hoshizora Shokudo)
ร้านอาหารแห่งนี้มีการฉายด้วยดาวที่คุณจะได้ทานอาหารกลางดวงดาวแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางวันก็ตาม

ก่อนที่คุณจะเดินทางกลับจากหมู่บ้านอะจิ อย่าลืมแวะทานอาหารที่โฮชิ โซระ โชคุโดที่คุณจะได้ชมดวงดาวระยิบระยับของหมู่บ้านอะจิเป็นครั้งสุดท้าย เพลิดเพลินกับมื้ออาหารท่ามกลางอุกกาบาตและรูปภาพของอวกาศ โปรเจคเตอร์จำนวนมากถูกติดตั้งในร้านอาหารเพื่อสร้างบรรยากาศอันผ่อนคลายและสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจของท้องฟ้าของหมู่บ้านอะจิ

เนื้อชินชูย่างพริกไทยดำ (เสิร์ฟพร้อมข้าว)
สปาเก็ตตี้เนื้อกวางหมู่บ้านอะจิ

มื้ออาหารส่วนใหญ่ของโฮชิ โซระ โชคุโดใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและคุณจะได้ลิ้มรสชาติของหมู่บ้านอะจิจากเมนูสปาเก็ตตี้เนื้อกวางที่คุณจะไม่มีโอกาสได้ชิมที่ไหนนอกจากที่หมู่บ้านแห่งนี้

สถานที่แนะนำสำหรับฤดูใบไม้ผลิ: หมู่บ้านฮานาโมโม โนะ ซาโตะ (Hanamomo no Sato) หรือหมู่บ้านแห่งดอกบ๊วย

ถ้าคุณได้มาที่หมู่บ้านอะจิช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน ดอกบ๊วยจะบานเต็มที่พอดี อย่าลืมเพิ่มหมู่บ้านฮานาโมโม โนะ ซาโตะเข้าไปในแผนการเดินทางของคุณ

มีต้นบ๊วยกว่า 10,000 ต้นที่ปลูกในหมู่บ้านอะจิ ช่วงเวลาที่บานเต็มที่ต้นไม้แต่ละต้นจะมีดอกไม้สีแดง สีขาวและสีชมพูที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์สีสันสดใสที่ยาวเรียงกันหลายไมล์ ทุก ๆ ปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงดงามนี้มากกว่า 200,000 คน ถ้าคุณได้เดินทางมาที่หมู่บ้านอะจิในช่วงนั้นของปี อย่าลืมแวะมาชมอุโมงค์ดอกบ๊วยด้วยล่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้านอะจิ

หมู่บ้านอะจิเป็นเส้นทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายที่ตั้งอยู่รอบ ๆ หมู่บ้านแห่งนี้ หลังจากที่คุณเยี่ยมชมหมู่บ้านอะจิแล้ว อย่าลืมเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ และสนุกสนานกับภูมิภาคชูบุของญี่ปุ่น

ถ้าคุณชื่นชอบบรรยากาศแบบเก่า ๆ เราแนะนำให้คุณขับรถไปยังมาโกเมะจุโกะ (Magomejuku) ที่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ถ้าคุณอยากทำกิจกรรมกลางแจ้ง การล่องแก่งในแม่น้ำเท็นริวจะพาคุณนั่งเรือลำเล็กผ่านหุบเขา ซึ่งเริ่มต้นที่เมืองอีดะ ขับรถประมาณ 20 นาที

คุณสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านอะจิจากนาโกย่า (ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีโดยรถยนต์) คามิโคจิ (ประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์) ทาเทยาม่า (ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีโดยรถยนต์) จุดเริ่มต้นของเส้นทางอัลไพน์ (ประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์) และยังใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ไปยังสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คุณเลือกวิธีการเดินทางได้อย่างมากมาย

วิธีการซื้อตั๋วเข้าชม Tenku no Rakuen Stargazing Spot ช่วงกลางคืนและข้อควรระวัง

บทความส่วนถัดไปเป็นการอธิบายวิธีการซื้อตั๋วสำหรับการเข้าชม Tenku no Rakuen Starguzing Spot ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดชม

ตั๋ว Tenku no Rakuen Stargazing Spot มีราคาตั้งแต่ 2,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่​ (นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป) และ 1,000 เยนสำหรับเด็ก (นักเรียนมัธยมต้นลงไป) และราคาเปลี่ยนแปลงไปตามวันที่เข้าชม

วิธีการจองตั๋วที่ง่ายที่สุด คือ การค้างคืนที่เรียวกัง ฮิรุกามิออนเซ็นเคียวและลองสอบถามเรื่องตั๋วจากเจ้าหน้าที่ของเรียวกัง อีกข้อดีของการจองตั๋วผ่านเรียวกังคือ คุณไม่จำเป็นต้องทำการจองออนไลน์ (การจองออนไลน์เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด) และช่วงเวลาการจองก็ไม่จำกัด (การจองออนไลน์ต้องทำล่วงหน้าทำได้เพียง 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง)

ถ้าคุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้และไม่ได้วางแผนจะค้างคืนที่ฮิรุกามิออนเซ็นเคียว คุณต้องจองออนไลน์ การจองเปิดตั้งแต่ 10:00 น. 2 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง โปรดระมัดระวังอย่าเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองแม้มีปัจจัยทางด้านอากาศหรือเหตุผลอื่น ๆ ถึงแม้คุณอาจไม่ได้เห็นดวงดาวเพราะฝนตกหรือเมฆครื้ม คุณก็ยังเพลิดเพลินกับดาวของอะจิผ่านเรื่องราวของไกด์และวิดีโอ

บทสรุป

การได้ใช้เวลากับคนที่คุณรักใต้ท้องฟ้าและแสงดาวระยิบระยับเป็นสิ่งที่หาสิ่งใดเทียบไม่ได้และเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน ความงดงามของธรรมชาติของหมู่บ้านอะจิที่ไม่มีแสงไฟหรือชิงช้าสวรรค์มารบกวน ระหว่างการเดินทางมายังภูมิภาคชูบุ ทำไมไม่ลองมานอนค้างคืนที่หมู่บ้านอะจิและสัมผัสกับความเงียบสงบและความโรแมนติกใต้แสงดาว

Related Articles Related Articles