| セントリップ・ジャパン編集部

【เมืองนิชิโอะ จังหวัดไอจิ】 เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วมิคาวะโคเกอิและสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกในเมืองนิชิโอะ

เมืองนิชิโอะตั้งอยู่ในพื้นที่มิคาวะทางตะวันตกของจังหวัดไอจิ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นอกจากการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น มัทฉะและมิโซะแล้ว เมืองนี้ยังมีจุดถ่ายภาพที่หลากหลาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครคอยดึงดูดความสนใจ ทำให้กลายมาเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในภูมิภาคชุบุและภูมิภาคโทไค

การเดินทางด้วยรถยนต์จากนาโกย่าไปยังใจกลางเมืองนิชิโอะ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 23 (ถนน Meiho) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าคุณเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้ขึ้นรถไฟจากสถานี Meitetsu Nagoya ไปยังสถานี Nishio ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

ในบทความนี้จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำ「พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วมิคาวะโคเกอิ」ที่มีกล้องคาไลโดสโคปขนาดมหึมา และสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด 5 แห่งในเมืองนิชิโอะ สำหรับแผนการท่องเที่ยวในเมืองนิชิโอะที่เน้นการเดินทางรอบเกาะซาคุโปรดดู「เดินท่องไปกับประสบการณ์ขนมหวานจากมัทฉะและ「เกาะซาคุ」เกาะแห่งศิลปะ」 และ 「ตื่นตาไปกับทะเลแหวกและคาเฟ่เมอร์บูรีอัน (MerBrillante) ณ ฮิกาชิฮาสึ」ที่ซึ่งทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์สันดอนเชื่อมเกาะจะปรากฏขึ้นจากปรากฏการณ์ทะเลแหวกที่เราเคยนำเสนอไปแล้ว

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วมิคาวะโคเกอิ: เต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปที่ให้ภาพสวยๆ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วมิคาวะโคเกอิมีชื่อเสียงในฐานะจุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคชูบุและโทไค ความแตกต่างระหว่างสีและลวดลายกระจกทรงเรขาคณิตกับเงาของคนทำให้คุณสามารถถ่ายภาพที่สวยงามได้ ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย

ประตูสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์
ทางร้านมีสินค้าออริจินอลจัดจำหน่าย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วมิคาวะโคเกอิเปิดให้บริการในปี 2000 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงงานหัตถกรรมเครื่องแก้วขนาดต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการแล้ว ยังมีสินค้าออริจินัลจำหน่ายที่ร้านค้าภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ และคุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำงานหัตถกรรมเครื่องแก้ว เช่น กระจกสีและการทำกล้องคาไลโดสโคป(ต้องจองล่วงหน้าสำหรับการทำงานหัตถกรรม)

รูปแบบของคาไลโดสโคปที่เปลี่ยนไปในแต่ละชั่วขณะ
มาโพสท่าถ่ายรูปสักรูปกันเถอะ!

ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์คือกล้องคาไลโดสโคปขนาดมหึมาที่เรียกว่า「Sphere」 ว่ากันว่าเกิดจากความคิดของผู้อำนวยการคามิยะว่า 「จะวิเศษขนาดไหนถ้าเราสามารถเข้าไปในกล้องคาไลโดสโคปได้」ด้วยความยาว 7.3 เมตร ความกว้าง 3.1 เมตร และความสูง 2.55 เมตร กล้องคาไลโดสโคปขนาดมหึมานี้ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ออฟ เรคคอร์ด ในปี 2002 ว่าเป็นกล้องคาไลโดสโคปที่ใหญ่สุดในโลกในขณะนั้น

เมื่อคุณก้าวเข้าไปภายในกล้องคาไลโดสโคป กระจกสีจะหมุนไปรอบๆ พร้อมเสียงที่ชวนให้นึกถึงอวกาศ ลวดลายต่างๆ ถูกสร้างขึ้นโดยการสะท้อนจากกระจก 54 บาน สำหรับการเล่น 1 ครั้งใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังเมื่อทั้งฉากสว่างขึ้นและฉายภาพเงาของบุคคลอย่างชัดเจนก็จะเป็นโอกาสในการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม

คงจะดีถ้าคุณสามารถถ่ายรูปใหม่ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยม จึงมักมีคนเข้าแถวต่อคิวรอเสมอ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2022 ทางพิพิธภัณฑ์อนุญาตให้บันทึกวิดีโอภายในกล้องคาไลโดสโคปซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกห้ามได้ ดังนั้นขอแนะนำให้บันทึกภาพเป็นวิดีโอและแคปช่วงเวลาโปรดจากวิดีโอ

ฉากดอกไฮเดรนเยียและไอริสระยิบระยับงดงาม
ในที่สุดฉากจะเปลี่ยนเป็นเกล็ดน้ำแข็งในฤดูหนาว

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งควบคู่ไปกับ「Sphere」 คือห้อง 「ประติมากรรมกระจก」ด้วยกระจกที่ติดรอบห้องทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าผนังเริ่มต้นที่ใดและสิ้นสุดที่ใดทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ท่องไปในจักรวาลอันลึกลับ กระจกในห้องมีสีสันสวยงามที่ใช้เทคนิค Sandblasting เป็นธีมฤดูทั้งสี่ของญี่ปุ่น ห้องนี้ยังดึงดูดความสนใจในฐานะเป็นจุดถ่ายรูปเซลฟี่ที่น่าประทับใจอีกด้วย

โชคะคุเอ็น :ลิ้มรสชาติมัทฉะ ณ「เมืองมัทฉะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น」นิชิโอะ

เมืองนิชิโอะเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตมัทฉะชั้นนำของญี่ปุ่น เทนฉะที่ผลิตในนิชิโอะ (วัตถุดิบสำหรับผลิตมัทฉะ) มีสัดส่วนประมาณ 20% ของการผลิตทั้งหมดในญี่ปุ่น แม่น้ำยาฮากิได้นำดินที่อุดมสมบูรณ์มา และว่ากันว่าหินแกรนิตที่จำเป็นสำหรับการทำครกชานั้นถูกขุดขึ้นมาได้มากมายจากบริเวณใกล้เคียง ซึ่งนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของการผลิตมัทฉะในบริเวณนี้

ไร่ชาที่มองเห็นได้จากสวนสาธารณะไร่ชาอินาริยามะ
คำจารึกเพลงเก็บชานิชิโอะพร้อมเนื้อเพลง

คุณสามารถทอดสายตามองวิวมุมกว้างของไร่ชาของเมืองนิชิโอะได้จากสวนสาธารณะไร่ชาอินาริยามะ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำยาฮางิ ในเดือนพฤษภาคมในช่วงฤดูเก็บชา คุณจะเห็นคนงานเก็บชาทำงานท่ามกลางสันเขาสีเขียวขจีที่สวยงาม

มีร้านชาอยู่หลายแห่งในเมืองนิชิโอะ ซึ่งแต่ละร้านจะนำเสนอวิธีการดื่มที่แตกต่างกันไปเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับมัทฉะของนิชิโอะ สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เราได้เยี่ยมชมร้านชา「โชคะคุเอ็น」หนึ่งในร้านชาเก่าแก่ที่เป็นตัวแทนของนิชิโอะมาช้านาน

บรรยากาศคล้ายกับโกดังแบบญี่ปุ่นของร้านโชคะคุเอ็นสาขาหลัก
จำหน่ายชาและขนมต่างๆ

นอกจากมัทฉะและเรียวคุฉะแล้วร้านโชคะคุเอ็นยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออริจินอล เช่น ขนมหวานที่ทำจากชา และภายในร้านมีร้านน้ำชาชื่อว่า (ซะยุ) ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับมัทฉะพร้อมกับขนมญี่ปุ่นวากาชิตามฤดูกาลและพาร์เฟ่ต์มัทฉะยอดนิยม

มัทฉะที่เสิร์ฟพร้อมขนมวากาชินั้นยอดเยี่ยมมาก
ชุดนาโกมิมัทฉะ ราคา 1,580 เยน ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

สำหรับการเยี่ยมชมโรงงานมัทฉะจะมีเฉพาะการจองแบบกลุ่มเท่านั้น คุณจะได้สัมผัสกระบวนการทำมัทฉะด้วยการบดผงชาบนโม่หิน (จองแบบกลุ่มสำหรับผู้ใหญ่ 10 คนขึ้นไป ราคา 1,900 เยนต่อคน รวมมัทฉะและขนม)

อะโอะโทระ:มัทฉะที่กินได้!? ต้นกำเนิดของ「เท็นฉะเมชิ」

ที่「ร้านอาหารญี่ปุ่น อะโอะโทระ」มัทฉะไม่ได้เพียงแค่สำหรับดื่มเท่านั้น แต่ยังสามารถเพลิดเพลินด้วยการ「กิน」ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาอาหารกลางวันสไตล์นิชิโอะที่ไม่เหมือนใคร

ลักษณะภายนอกของร้านอะโอะโทระ
นอกจากที่นั่งแบบเคาน์เตอร์แล้ว ยังมีที่นั่งแบบเสื่อทาทามิที่กว้างขวางอีกด้วย

ความพิเศษของอะโอะโทระ 「เท็นฉะเมชิ」คือ เป็นข้าวอบกับปลากะพง และโรยด้วยเท็นฉะหนาจนคุณมองไม่เห็นข้าวที่อยู่ข้างใน ไม่เพียงแต่ดูน่าประทับใจเท่านั้น แต่เมื่อคุณเปิดฝาออกกลิ่นหอมของชาจะเติมเต็มความอยากอาหารของคุณ ผสมทุกอย่างภายในหม้อด้วยทัพพีให้เข้ากัน รับประทานคู่กับยะคุมิ (ผักและเครื่องเทศ) ที่คุณชื่นชอบ

「เท็นฉะเมชิ」แบบมาตรฐาน
ฉันรู้สึกตกใจกับปริมาณเท็นฉะโรยอยู่!

หลังจากสั่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการทำอาหาร ดังนั้นหากคุณติดต่อทางร้านล่วงหน้าและแจ้งทางร้านว่าคุณจะเข้ามารับประทานอาหารกลางวันในช่วงเวลาใดก็จะราบรื่นยิ่งขึ้น

มิโซะปาร์ค ・ฮะโตยะ : โกดังมิโซะอายุ 100 ปี ที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการกลั่นเบียร์ของนิชิโอะ

ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่น น้ำคุณภาพดี และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการหมักและการกลั่น ทำให้จังหวัดไอจิมีความเจริญรุ่งเรืองในอุตสาหกรรมการกลั่นสาเก น้ำส้มสายชู มิริน ซีอิ๊วขาว และมิโซะ มาตั้งแต่โบราณ เมืองนิชิโอะและเมืองโอคาซากิที่อยู่ใกล้เคียงมีชื่อเสียงร่วมกันในฐานะศูนย์กลางของมิโซะจากถั่วเหลือง (มิโซะสีแดง) มิโซะจากถั่วเหลืองถือเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมอาหารของไอจิ เช่น มิโซะคัตสึ, โดเทะนิ และมิโซะ-นิโคมิอุด้ง

ภาพโกดังที่เรียงรายไปด้วยถังไม้ทรงสูงที่น่าประทับใจ!

「มิโซะปาร์ค ・ฮะโตยะ」เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเยี่ยมชมกระบวนการผลิตมิโซะจากถั่วเหลืองและสัมผัสวัฒนธรรมการหมักและการกลั่นของนิชิโอะ ฮะโตยะเป็นผู้ผลิตมิโซะถั่วเหลืองและชิโระโชยุ ก่อตั้งขึ้นในปี 1861 โดยตระกูลโทริยามะ ว่ากันว่าตระกูลนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลปราสาทนิชิโอะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิชิโอะในสมัยเอโดะ

สวนมิโซะกับบรรยากาศย้อนยุคแสนสนุก
ชาจิโฮโกะสัตว์ในตำนานคติชนญี่ปุ่นมีหัวเป็นเสือและตัวเป็นปลาคาร์ฟของแท้ของปราสาทนิชิโอะ

ในปี 2009 มิโซะปาร์คได้เปิดเป็นศูนย์รวมสำหรับการเพลิดเพลินไปกับมิโซะ นอกจากจะสามารถเที่ยวชมภายในโกดังที่ผลิตมิโซะด้วยวิธีการแบบโบราณโดยใช้ถังไม้ขนาดใหญ่ และยังการจัดแสดงวัตถุล้ำค่าที่มีความสัมพันธ์กับฮะโตยะด้วย

คุณสามารถเยี่ยมชมโกดังได้ ยกเว้นในช่วงเวลาทำงาน
ก้นถังไม้ที่ใช้มากว่า 100 ปี

เมื่อคุณเข้าไปในโกดังมิโซะซึ่งสร้างขึ้นในปี 1904 คุณจะประหลาดใจกับขนาดของถังไม้และน้ำหนักของก้อนหินที่วางซ้อนกันอยู่ด้านบน ภายในโกดังยังมีถาดลองก้นถังขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับลองถังไม้มานานกว่า 100 ปี

ร้านค้าเรียงรายไปด้วยผลิตภัณฑ์ออริจินอล
บาร์「เด็นโนะคุระ」ที่ปรับปรุงจากโกดังเก่า

คุณสามารถเยี่ยมชมมิโซะปาร์คได้ตลอดเวลา และถ้าคุณทำการจองล่วงหน้าคุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ทำ "「มิโซะมารุ」 (ส่วนประกอบของซุปมิโซะสำหรับ 1 คน) โดยใช้มิโซะและวัตถุดิบแห้งผสมกัน และทำน้ำสลัดแบบออริจินัลของคุณเองโดยมีค่าธรรมเนียม

นอกจากนี้ ในบริเวณมิโซะปาร์คยังมีบาร์ชื่อ 「เด็นโนะคุระ」ซึ่งเป็นโกดังเก็บของเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดร้านอาหารอื่นๆ ในบ้านส่วนตัวเก่าที่มีมิโซะและอาหารหมักเป็นธีมเพื่อให้บริการในอนาคต ดูเหมือนว่าสถานที่นี้จะเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับมิโซะจากมุมมองและรูปแบบต่างๆ ได้

อิวาเสะบุงโค:「พิพิธภัณฑ์หนังสือเก่า」แห่งแรกของญี่ปุ่น

อิวาเสะบุงโคะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "พิพิธภัณฑ์หนังสือเก่า" แห่งแรกของญี่ปุ่น สถานที่นี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1908 โดยคุณยะสุเกะ อิวะเสะ ผู้มีรายได้มหาศาลในฐานะนักธุรกิจของเมืองนิชิโอะ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือสังคมผ่านหนังสือ

อิวาเสะบุงโคได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมจากจังหวัดไอจิ
นิทรรศการถาวรในหัวข้อประวัติศาสตร์หนังสือญี่ปุ่น

ที่อิวาเสะบุงโคมีหนังสือกว่า 80,000 เล่ม รวมถึงหนังสือคลาสสิกที่ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ นอกจากหนังสือที่มีค่าจำนวนมากแล้ว สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือหนังสือส่วนใหญ่สามารถหยิบขึ้นมาอ่านได้โดยทุกคน (แน่นอนว่าแม้แต่ผู้ที่มาเที่ยวชมเมืองนิชิโอะก็เช่นกัน)

「เสียงกระซิบของไม้ไผ่」 คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเลื่อนภาพที่สวยงาม
สารานุกรมนกที่มีภาพวาดประกอบอย่างวิจิตรบรรจงในสมัยเอโดะ

คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานที่ยุ่งยาก กรุณาอย่าลังเลที่จะบอกภัณฑารักษ์ว่าคุณต้องการอ่านหนังสือประเภทใด 「อยากเห็นม้วนหนังสือภาพสวยๆ ที่เจ้าหญิงอาจเคยอ่านเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว」 หรืออยากลองแก้ไขปัญหา「หนังสือโจทย์คณิตศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยเอโดะ (วะซัน)」 หรือ 「แค่อยากเห็นของหายาก」คุณสามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับหนังสือต่างๆ ได้

คัมภีร์พระสูตรถือเป็นสิ่งพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
ตำราวะซัน, หนังสือคณิตศาสตร์ญี่ปุ่นที่อธิบายวิธีการคำนวณหนู

ในวันนี้เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับม้วนภาพจากยุคกลางที่เรียกว่า 「เสียงกระซิบของไม้ไผ่」 เราได้รับการบรรยายเรื่องราวอย่างละเอียดขณะเปิดม้วนภาพไปพร้อมๆ กัน 「พระภิกษุผู้หลงรักสาวสวยได้ใช้หลอดไม้ไผ่กระซิบบอกพ่อแม่ของหญิงสาวในตอนกลางดึกล่อหลอกให้ส่งลูกสาวใส่หีบยาวส่งมาที่วัด ระหว่างทางขุนนางที่ผ่านไปได้ช่วยเหลือหญิงสาว และนำวัวตัวหนึ่งใส่เข้าไปในหีบ เมื่อพระภิกษุเปิดหีบยาวออกมาก็ตกใจ」

อิวาเสะบุงโคเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งคุณสามารถสัมผัสกับหนังสือญี่ปุ่นคลาสสิกมีทรงคุณค่าได้โดยตรง ฉันรู้สึกว่ามันวิเศษมากที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวนี้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ตามความประสงค์ของคุณยะสุเกะ อิวะเสะ ผู้ก่อตั้ง หากคุณสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นกรุณาแวะมาเยี่ยมชมที่นี้

※ ※ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ จึงลดจำนวนที่นั่งในห้องอ่านหนังสือลง และจำเป็นต้องจองล่วงหน้าเพื่อขอดูเอกสาร

บทสุดท้าย

คุณชอบการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในเมืองนิชิโอะหรือไม่? พื้นที่ตอนกลางของเมืองนิชิโอะเพียงแห่งเดียวก็เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจที่หลากหลาบ หากคุณรวมพื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะที่ห่างไกลออกไปที่นี่มีมนต์เสน่ห์ให้สำรวจอีกมากมาย พื้นที่นี้อยู่ใกล้กับ Ghibli Park ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ดังนั้นกรุณาแวะมาเยี่ยมชมเมืองนิชิโอะ

Related Articles Related Articles