「สกีรีสอร์ทโกไซโช」ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินเซ็นแทรร์มากที่สุด และสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการขับรถเช่าหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาโกไซโชแห่งเทือกเขาซูซูกะที่มีระดับความสูงเหนือน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร และสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยกระเช้าลอยฟ้า ที่นี่คุณสามารถสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น สกี, เดินย้ำหิมะด้วยสโนว์ชูวส์ และเลื่อนหิมะ รวมถึงต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งที่สวยงาม นอกจากนี้เรายังขอแนะนำอาหารรสเลิศ, โรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนที่คุณสามารถเข้าพักหลังจากสนุกไปกับหิมะ และยังมีสถานที่ใกล้เคียงอื่นๆ ที่คุณสามารถแวะเที่ยวชมได้ในวันถัดไปอีกด้วย

วิธีที่จะสนุกเพลิดเพลินไปกับภูเขาโกไซโชะในฤดูหนาว

เมื่อได้มาถึงหน้ากระเช้าลอยฟ้าโกไซโชแล้ว ก็มาขึ้น「กระเช้าลอยฟ้าโกไซโช」กันเถอะ ค่าโดยสารไปกลับสำหรับผู้ใหญ่ราคา 2,600 เยน และค่าโดยสารสำหรับเด็ก (อายุ 4 ถึง 12 ปี) ราคา 1,300 เยน จาก「สถานียูโนยามะออนเซ็น」ที่เชิงเขาเพื่อไปยัง 「สถานียามากามิโคเอ็น」 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที และมีระดับความสูงที่แตกต่างกันประมาณ 780 เมตร หอคอยเหล็กสีขาว 「หอคอยเหล็กหมายเลข 6」 ที่สามารถมองเห็นได้ในยามที่กระเช้าสีแดงแกว่งไปมา นี้เป็นหอคอยเหล็กที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นที่ใช้สำหรับรองรับกระเช้าลอยฟ้า และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกระเช้าลอยฟ้าโกไซโชะอีกด้วย

1) เมื่อมองจากกระเช้าลอยฟ้าคุณจะได้พบกับโลกสีเงิน

ที่ด้านล่างของกระเช้าลอยฟ้าคุณสามารถมองเห็นเมืองยกไกจิที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง และคุณยังสามารถมองเห็นอ่าวอิเสะจากระยะไกลอีกด้วย เมื่อเริ่มต้นผ่านเข้าใกล้ไหล่เขาทันทีทันใดคุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมราวกับว่ามีหน้าผาของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอยู่ตรงหน้าคุณ และที่บนภูเขาโกไซโชมีเลียงผาญี่ปุ่นอาศัยอยู่หากคุณโชคดีก็อาจจะได้เห็นโฉมหน้าของพวกมันอีกด้วย ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคมจากพื้นที่ที่สูงกว่า 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีโอกาสที่คุณจะได้เห็นต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งที่เรียกว่า 「จูเฮียวหรือปีศาจหิมะ」หากคุณต้องการเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะที่สวยงามเราขอแนะนำให้คุณปั่นจักรยานในตอนเช้า

มุมมองลึกลับของปีศาจหิมะ

“จูเฮียว” หรือปีศาจหิมะ คือ ปรากฏการณ์ไอซิ่งซึ่งเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาอย่างหนึ่ง กล่าวคือเมื่ออุณหภูมิใกล้พื้นดินลดลงต่ำกว่า 0 องศา ไอน้ำภายในของต้นไม้ใหญ่จะเกาะติดกับพื้นผิวของต้นไม้และแข็งตัวทำให้ต้นไม้ทั้งต้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นบางๆ ของ น้ำแข็ง ความงามของต้นไม้ที่ส่องประกายสีเงินถือเป็นศิลปะที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติอย่างแท้จริง ปรากฏการณ์นี่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อสภาพอากาศ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และทิศทางลมตรงกัน จึงไม่สามารถพบเห็นได้ตลอดทุกครั้ง โดยทั่วไปจุดที่ปกคลุมไปด้วยปีศาจหิมะบนภูเขาโกไซโชะคือ ที่บริเวณจัตุรัสอาซาโยไดในสวนโกไซโช ซันโจ ซึ่งทอดยาวไปทางขวาหลังจากลงจากกระเช้าลอยฟ้า, เส้นทางเดินเท้าจากสถานีซังโจโคเอ็นไปยังโกไซโชะสกีรีสอร์ท และที่รอบๆ ยอดเขาของภูเขาโกไซโชะ.

3) เดินลุยหิมะ

กิจกรรมเดินหิมะซึ่งช่วยให้คุณเดินบนหิมะที่หนาได้โดยไม่จม ถือเป็นกิจกรรมที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่จะสนุกเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นบนภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถเช่ารองเท้าเดินหิมะสโนว์ชูส์ได้ที่บ้านสกี (1,000 เยนต่อวัน) ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจากสถานีซังโจโคเอ็น มันเป็นความคิดที่ดีที่จะเดินเล่นบนเส้นทางเดินหิมะที่ทางฝั่งตะวันตกของสวนยามากามิ (ระยะทางเดินที่ยาวที่สุด: 1,000 ม. เวลาที่ต้องใช้: ประมาณ 90 นาที)

４）สกี

「โกไซโชสกีรีสอร์ท」เป็นลานสกีที่มีเนินสกีส่วนตัวที่คุณสามารถสนุกเพลิดเพลินกับการเล่นสกีไปพร้อมๆ กับวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะที่สวยงาม ค่าเช่าสกี (ชุดสกี รองเท้า และไม้ค้ำ) ราคา 3,000 เยนต่อวัน และตั๋วสำหรับลิฟต์สกีมีราคา 300 เยนต่อวัน นอกจากนี้ยังมีคูปองแบบ 6 ใบในราคา 1,000 เยน และบัตรผ่านสำหรับ 1 วัน ราคา 2,000 เยน อีกด้วย

５）กระดานเลื่อนหิมะ

「โกไซโชสกีรีสอร์ท」มีทางลาดเฉพาะสำหรับกระดานเลื่อนหิมะ ห้ามเล่นสกีในโซนนี้ ทำให้เด็กเล็กสามารถสนุกเพลิดเพลินกับการเล่นหิมะได้อย่างสบายใจ โดยมีบริการเช่ากระดานเลื่อนหิมะในราคา 600 เยนต่อวัน และเซ็ตเช่ากระดานเลื่อนและรองเท้าสโนว์ชูส์ (รองเท้าลุยหิมะ) ในราคา 1,000 เยนอีกด้วย

อาหารขึ้นชื่อของโกไซโชะ

หากคุณต้องการรับประทานอาหารที่ภูเขาโกไซโช เราขอแนะนำร้านอาหารชมวิว「เนเจอร์」ซึ่งอยู่ติดกับสถานีซังโจโคเอ็นทางด้านทิศใต้ ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร ถือได้ว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดในจังหวัดมิเอะ ทำให้ที่นี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมเทือกเขาซูซูกะ, เมืองยกไกจิ อ่าวอิเสะ และอื่นๆ อีกมากมาย

รายการเมนูยอดนิยมของที่นี้ คือ 「แกงกะหรี่อุด้งโกไซโช」อันโด่งดัง ซึ่งโดดเด่นด้วยเส้นที่เหนียวนุ่ม และ「อาหารชุดไก่ทอดภูเขาโกไซโซ」 ทั้งสองเมนูให้ปริมาณเยอะเมื่อได้รับประทานจึงอิ่มแบบเต็มคำ

การเดินทางไปยังภูเขาโกไซโชะจากนาโกย่า/เซ็นแทรร์

มีวิธีในการเดินทางจากนาโกย่า/เซ็นแทรร์ไปยังภูเขาโกไซโช สองวิธีการหลักๆ ได้แก่ การเดินทางโดยรถไฟและการเดินทางด้วยรถบัสด่วน การใช้รถด่วนมีความสะดวกสบายเพราะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย แต่ก็มีจำนวนรอบโดยสารไม่มากนัก ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับตารางเวลาการเดินทาง บางครั้งการใช้รถไฟอาจเป็นวิธีการเดินทางที่ราบรื่นกว่า มาลองดูวิธีเดินทางไปภูเขาโกไซโชจากเซ็นแทรร์กันเถอะ

1) รถบัสด่วน + รถไฟคินเท็ตสึ + รถบัสหรือแท็กซี่จากสนามบินเซ็นแทรร์ถึงเมืองยกไกจิ (จังหวัดมิเอะ)

จากอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศอาคาร 1 และอาคาร 2 ของสนามบินเซ็นแทรร์ไปยังสถานีคินเท็ตสึยกไกจิใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีโดยรถบัสด่วน และจากสถานีคินเท็ตสึยกไกจิ ไปยังสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็นโดยรถไฟท้องถิ่น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นอกจากนี้หากคุณต้องการเดินทางต่อไปยังยูโนะยามะออนเซ็น หรือกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช คุณสามารถใช้บริการรถบัสมิเอะโคซือหรือรถแท็กซี่ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที โปรดทราบว่ามีรถบัสด่วนเพียงสามเที่ยวต่อวันจากสนามบินเซ็นแทรร์ไปยังเมืองยกไกจิคลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

2) จากสนามบินเซ็นแทรร์ไปยังรถไฟเมเท็ตสึ + รถบัสด่วนพิเศษ

จากสนามบินเซ็นแทรร์ไปยังสถานีเมเทตสึนาโกย่าใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟด่วนพิเศษ และจากศูนย์รถบัสเมเทตสึไปยังยูโนะยามะออนเซ็น/ด้านหน้าของกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาทีโดยรถบัสมิเอะโคซือ โดยรถบัสมีบริการวันละหนึ่งครั้งในวันธรรมดา และวันละสองครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

3）จากสนามบินเซ็นแทรร์: รถไฟเมเท็ตสึ + รถไฟคินเท็ตสึ+ รถบัสหรือแท็กซี่

จากสนามบินเซ็นแทรร์ไปยังสถานีเมเท็ตสึนาโกย่าโดยรถไฟด่วนพิเศษ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และจากสถานีคินเท็ตสึนาโกย่าไปยังสถานีคินเท็ตสึยกไกจิโดยรถไฟด่วนพิเศษ จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นให้คุณเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่นที่สถานีคินเท็ตสึยกไกจิเพื่อไปยังสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็น จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีอีกเช่นกัน นอกจากนี้หากคุณต้องการเดินทางต่อไปยังยูโนะยามะออนเซ็น หรือกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช คุณสามารถใช้บริการรถบัสมิเอะโคซือหรือรถแท็กซี่ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที การเดินทางด้วยวิธีนี้แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนรถไฟหลายครั้ง แต่เนื่องจากมีรอบรถไฟหลายรอบจึงง่ายต่อการจัดตารางเวลาให้เหมาะสม

พักแช่น้ำพุร้อนภายหลังจากการเล่นหิมะ

หลังจากสนุกเพลิดเพลินกับการเล่นหิมะและวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะอย่างเต็มที่แล้ว ทำไมไม่ลองพักค้างคืนที่ 「ยูโนะยามะออนเซ็น」ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเชิงเขาโกไซโช แล้วมาเพลิดเพลินและผ่อนคลายที่บ่อน้ำพุร้อนดูล่ะ? ยูโนะยามะออนเซ็นเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี และถูกเรียกว่า 「บ่ออาบน้ำกวาง」 เนื่องจากมีตำนานว่าที่นี้สามารถรักษากวางที่ได้รับบาดเจ็บได้ บ่อน้ำพุร้อนเป็นน้ำพุอัลคาไลน์เรเดียมที่มีคุณภาพ น้ำใสและไม่มีสี และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ 「บ่อน้ำพุร้อนแห่งความงาม」 เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวได้ดีเยี่ยม

ที่พักแนะนำ

อิโระโดริโคโย

WEBsite
ที่อยู่ ：8497 โคโมโนะ, โคโมโน-โช, มิเอะกุน, จังหวัดมิเอะ 510-1233
การเดินทาง: ขับรถประมาณ 8 นาทีจากสถานียูโนะยามะออนเซ็น/ มีบริการรถรับส่งจากสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็น

โรงแรมยูโนะโมโตะ

WEBsite
ที่อยู่ ：8497 โคโมโนะ, โคโมโน-โช, มิเอะกุน, จังหวัดมิเอะ 510-1233
การเดินทาง: มีบริการรถรับส่งจากสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็น/ อยู่ติดกับจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช

โรงแรมเดอ มาร์รอนเนียร์ ยูโนะยามะ ออนเซ็น

WEBsite
ที่อยู่ ：8563 ยูโนยามะ, โคโมโน, โคโมโนมาชิ, มิเอะกุน, จังหวัดมิเอะ 510-1233
การเดินทาง: ขับรถประมาณ 10 นาทีจากสถานียูโนะยามะออนเซ็น/ มีบริการรถรับส่งจากสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็น

โรงแรมชิกะโนะยู

WEBsite
ที่อยู่ ：โคโมะยูโนะยามะ, โคโมโน, โคโมโนมาชิ, มิเอะกุน, จังหวัดมิเอะ 510-1233
การเดินทาง: ขับรถประมาณ 10 นาทีจากสถานียูโนะยามะออนเซ็น/ มีบริการรถรับส่งจากสถานีคินเท็ตสึยูโนะยามะออนเซ็น

แนะนำการท่องเที่ยวสำหรับวันถัดไป

ต่อไปนี้คือสถานที่แนะนำที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งคุณสามารถแวะมาได้ในวันรุ่งขึ้นหลังจากเพลิดเพลินกับการเข้าพักที่โรงแรมบ่อน้ำพุร้อนแล้ว

แวะช้อปปิ้งที่นาบานะ โนะ ซาโตะและแจ๊สดรีม นากะชิมะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟคินเท็ตสึ + รถบัส)

「แจ๊สดรีม นากะชิมะ」 เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าเอาท์เล็ตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีแบรนด์และผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศประมาณ 300 ราย รวมถึงร้านค้าที่ได้รับการคัดเลือก ที่นี้คุณสามารถซื้อสินค้าแฟชั่นล่าสุด สินค้าตกแต่งภายใน อุปกรณ์กีฬา และอื่นๆ อีกมากมายในราคาเอาท์เล็ตที่ดีที่สุด หลังจากเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งแล้ว มาเดินทางต่อไปยัง「นาบานะ โนะ ซาโตะ」สวนสนุกธีมดอกไม้และสีเขียวที่มีดอกไม้สวยงามบานสะพรั่งบนพื้นที่อันกว้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น「สวนบีโกเนีย 」หนึ่งในอาคารเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยพื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร ซึ่งจัดแสดงบีโกเนียและดอกไม้อื่น ๆ ที่รวบรวมจากทั่วทุกมุมโลก หรือ 「อุโมงค์แสงไฟ」อุโมงค์ที่ประดับแสงไฟยาวกว่า 200 เมตร การแสดงไฟอิลูมิเนชั่นบนผืนน้ำ และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันตระการตาที่เกิดจากการจัดแสดงแสงไฟที่ 「นาบานะ โนะ ซาโตะอิลูมิเนชั่น」 ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับโลกแห่งอิลูมิเนชั่นอันงดงาม

ซูซูกะเซอร์กิต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 ถึง 2 ชั่วโมงโดยรถไฟคินเท็ตสึ + รถไฟอิเสะ)

ที่นี้เป็นสวนสนุกที่มีศูนย์กลางของสนามแข่งรถนานาชาติที่ใช้สำหรับจัด Japan Grand Prix F1 ตั้งอยู่ และในพื้นที่เดียวกันยังมีสวนสนุก โรงแรม และสถานที่ตั้งแคมป์อีกด้วย 「ซูซูกะ เซอร์กิต พาร์ค」 เป็นสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นต่างๆ เช่น รถจักรยานยนต์และโกคาร์ท ซึ่งทุกคนตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่สามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสนุกสนานได้ แนะนำเป็นพิเศษสำหรับคนที่แอคทีฟและต้องการเคลื่อนไหวร่างกาย

อิเสะ ชิมะ (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ, เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ, จุดชมวิวโยโกยามะ)

ที่อิเสะชิมะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของจังหวัดมิเอะ และมีหลายสิ่งหลายอย่างให้คุณแวะดูและเยี่ยมชม ก่อนอื่นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะอยู่ห่างจากสถานี JR・คินเท็ตสึโทบะ โดยใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีเลี้ยงสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ มากที่สุดในญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 12 โซนตามธีม และคุณสามารถสำรวจพิพิธภัณฑ์ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการกำหนดเส้นทาง ดังนั้นแม้ว่าคุณจะมีเวลาจำกัด คุณก็สามารถสำรวจได้อย่างอิสระตามที่คุณต้องการ ที่นี่เป็นสถานที่แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เพาะพันธุ์พะยูน ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของนางเงือก และยังมีนากทะเลและโลมาหัวบาตรหลังเรียบอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงต่างๆ เช่น การแสดงสิงโตทะเลและการเดินเล่นของนกเพนกวินก็ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เกาะไข่มุกมิกิโมโตะอยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที เป็นเกาะแห่งแรกของโลกที่สามารถเพาะเลี้ยงไข่มุกได้สำเร็จ นอกจากยังมี 「พิพิธภัณฑ์ไข่มุก」 ซึ่งจัดแสดงขั้นตอนการผลิตไข่มุก และคุณยังสามารถเยี่ยมชม 「เพิร์ลพลาซ่า」ที่มีเครื่องประดับและผลิตภัณฑ์จากไข่มุกอื่นๆ วางเรียงรายอยู่ นอกจากนี้คุณยังสามารถชมการสาธิตโดยนักดำน้ำอามะที่ใช้วิธีเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบในอดีตขึ้นมาได้อีกครั้ง หากคุณต้องการชมวิวทิวทัศน์ของมหาสมุทรที่สวยงามและริอาอ่าวที่มีชายฝั่งเว้าแหว่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น อย่าลืมแวะมาที่จุดชมวิวโยโกยามะ จากความสูง 140 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล คุณสามารถมองเห็นเกาะเล็กๆ กว่า 60 เกาะและแพมุกที่ลอยอยู่ในอ่าวอาโงะ ถนนสำหรับการเดินป่าที่ได้รับการดูแลอย่างดีเหมาะกับการเดินป่าแบบไฮกิ้งหรือการเดินป่าระยะไกลแบบเทรคกิ้ง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนพร้อมร้านกาแฟแบบซื้อกลับบ้านและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะอีกด้วย

บทสรุป

หลังจากเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์หิมะอันสวยงามที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติและเล่นสนุกกับหิมะแล้ว มาผ่อนคลายและพักที่โรงแรมบ่อน้ำพุร้อน นอกจากนี้ที่ภูเขาโกไซโชะ และ โกไซโชะสกีรีสอร์ท ยังมีสถานที่ให้แวะพักผ่อนอีกมากมายในวันถัดไป ทำไมไม่ลองแวะมาที่โกไซโชะสกีรีสอร์ท ที่ที่คุณสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของญี่ปุ่นในฤดูหนาวได้อย่างเต็มที่ล่ะ?