| กองบรรณาธิการCentrip

เช่ากิโมโนและแปลงโฉมเป็นสาวยุคเมจิ! สถานที่น่าถ่ายรูปมากมายในเมจิมุระและอินุยาม่า!

รู้จักเมจิมุระกันไหม? ที่นี่อยู่ในเมืองอินุยาม่า ไม่ไกลจากนาโกย่า เมจิมุระเป็นสถานที่ที่มีมุมถ่ายรูปย้อนยุคสวยๆเต็มไปหมดเลยล่ะ

เมจิมุระเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงสิ่งก่อสร้างของญี่ปุ่นจากยุคเมจิ สิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่ตั้งอยู่ที่นี่เป็นของจริงที่ขุดย้ายเอามาจากสถานที่เดิม มาย้อนยุคไปกับการชมสิ่งก่อสร้างโบราณหลากชนิด เช่น ศาลเจ้า โรงแรม ที่ทำการไปรษณีย์ โรงละคร ฯลฯ กันเถอะ
นอกจากนี้เมจิมุระยังมีบริเวณกว้างขวางสุดๆ มีรถไฟให้ขึ้นด้วยแหล่ะ! บอกได้ว่าทั้งวันก็เที่ยวไม่หมด

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนที่นี่ก็มีจำนวนไม่น้อย มีผู้คนหลายแบบมาเยี่ยมชมเมจิมุระ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบสิ่งก่อสร้าง ผู้ที่ชอบประวัติศาสตร์ ผู้ที่รักการถ่ายรูป
เราได้เตรียมแผนการท่องเที่ยวเมจิมุระสำหรับผู้ที่ "อยากถ่ายรูปสวยๆเยอะๆ" ไว้ให้คุณแล้ว! และท้ายบทความจะมีการแนะนำอาหารน่ากินในเมืองเก่าบริเวณปราสาทอินุยาม่าด้วย!

・เกร็ดความรู้ :

ยุคเมจิคือช่วงค.ศ.1869-1912 เป็นยุคที่ญี่ปุ่นเปิดรับวัฒนธรรมและระบบต่างๆของตะวันตกเข้ามาอย่างเต็มที่ การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมตะวันตกปรากฎให้เห็นในเครื่องแต่งกาย สิ่งก่อสร้าง ศาสนา ฯลฯ ที่เกิดในสมัยนั้น

เตรียมตัวพร้อมรึยัง?

  • กล้อง ไม้เซลฟี่ (การเซลฟี่ในสิ่งก่อสร้างถือเป็นการรบกวนผู้อื่น และไม่ให้ความเคารพต่อสถานที่)
  • รองเท้าสวมสบาย (ไม่แนะนำให้ใส่ส้นสูง)
  • หมวก ร่ม อุปกรณ์กันแดดต่างๆ (เนื่องจากต้องเดินข้างนอกเยอะ)
  • ชุดสวยๆ ยิ่งถ้าใส่ชุดตะวันตกแบบย้อนยุคก็จะเข้ากับบรรยากาศเมืองเก่ามากๆเลยล่ะ (สำหรับผู้ที่ไม่เช่ากิโมโน)
  • เครื่องแต่งหน้า สำหรับเติมหน้า


ถ้าพร้อมแล้ว ไปถ่ายรูปที่เมจิมุระกันเลย!

ใส่กิโมโนของยุคเมจิแล้วไปเดินชมเมจิมุระกันเถอะ!

ห้องเสื้อไฮคัลเลอร์―เช่าชุดนักเรียนญี่ปุ่นยุคเมจิ!

เมื่อเข้ามาในเมจิมุระแล้วให้ตรงไปที่ร้านเช่าชุด "ห้องเสื้อไฮคัลเลอร์" มาเช่าชุดและแปลงโฉมกันเถอะ

ยุคเมจิเป็นยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในประเทศ ทำให้ยุคสมัยนั้นมีทั้งกิโมโนและเสื้อผ้าแบบตะวันตก ที่เมจิมุระมีบริการให้เช่าชุดย้อนยุคให้เลือกทั้งสองแบบ!

เสื้อผ้าแบบตะวันตกเป็นแบบที่ทุกคนน่าจะเคยเห็น ชุดเดรสสุดคลาสสิคที่ใส่แล้วดูราวกับคุณหนู ส่วนกิโมโนนั้นต่างจากกิโมโนทั่วไปเล็กน้อย
ชุดกิโมโนที่ท่อนล่างเป็นฮากามะแบบนี้เรียกว่า "ยากะสุริ" (矢絣) ซึ่งคือเป็นที่นักเรียนหญิงยุคเมจิใส่กันโดยทั่วไป ยากะสุริมีลวดลายเป็นขนนกบนปลายลูกธนู ลวดลายนี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมการออกเรือนของหญิงสาวในสมัยเอโดะ ซึ่งแฝงความหมายที่เป็นมงคลว่า "ออกไปแล้วจะไม่กลับเข้ามา" เหมือนกับธนูที่ยิงออกไปแล้วจะไม่ย้อนคืนมา โอบิหรือผ้าคาดเอวของยากะสุจะอยู่สูงทำให้เดินง่าย ยิ่งถ้าใช้โอบิอันใหญ่ก็จะยิ่งดูน่ารักสุดๆ

ที่นี่มีคอร์สเช่าชุด 2 แบบ แบบแรกคือ "คอร์สถ่ายรูปที่ระลึก" เช่าชุดและถ่ายรูปได้เป็นเวลา 5 นาที 800 เยน แบบที่สองคือ "คอร์สเดินเล่น" เช่าชุดและสวมออกไปเดินเล่นได้ทั้งวันในราคา 3,500 เยน
มีคำอธิบายเกี่ยวกับการเช่าชุดเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน

"คอร์สถ่ายรูปที่ระลึก" สามารถเลือกใส่ชุดญี่ปุ่นหรือชุดตะวันตก ยืมร่มญี่ปุ่นและอุปกรณ์ประดับต่างๆ และถ่ายรูปได้ตามใจที่มุมถ่ายรูปในร้าน

"คอร์สเดินเล่น" สามารถเช่าชุดกิโมโนได้ทั้งวัน ไปถ่ายรูปกับสถานที่ต่างๆได้ตามใจชอบ และยังมีกระเป๋าน่ารักๆเข้ากับชุดให้ถือด้วย
ทว่า คอร์สนี้มีแค่กิโมโน (ยากะสุริ) ให้เลือกเท่านั้น และยังจำกัดจำนวนผู้เช่าเพียง 20 คนต่อ 1 วัน รีบมาตั้งแต่เช้าเพื่อเช่าชุดดีกว่านะ

ชุดนักเรียนหญิงสมัยก่อนแบบนี้ไม่สามารถหาเช่าตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปได้ง่ายๆ อุตส่าห์มาถึงสถานที่ที่มีบรรยากาศโบราณและมุมถ่ายรูปมากมายอย่างเมจิมุระทั้งที ถ้าไม่ลองใส่ชุดยากะสุริเดินเล่นในเมจิมุระกับ "คอร์สเดินเล่น" ก็จะน่าเสียดายมากๆเลยล่ะ

ถนนอิฐแดง เร็นกะโดโอริ——เข้าย่านช็อปปิ้งของยุคเมจิ

ออกจากร้านเช่าชุดแล้วก็ตรงไปถนนอิฐแดง "เร็นกะโดโอริ" กันเถอะ ถนนเส้นนี้ขนาบข้างไปด้วยตึกเก่าๆ มีบรรยากาศครึกครื้นจนเรียกว่าเป็น "กินซ่าของยุคเมจิ" ได้เลยล่ะ! ถ้าอยากสัมผัสกับบรรยากาศของบ้านเมืองในยุคเมจิก็ต้องที่นี่แหละ และรู้ไหมว่าถนนอิฐแดงแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นฉากถ่ายละครญี่ปุ่นหลายเรื่องด้วย เช่น ละครของ NHK เรื่อง "Bon Appetit ยอดหญิงยอดเชฟ" (ชื่อญี่ปุ่น : ごちそうさん โกจิโซซัง) มาเริ่มต้นการย้อนยุคไปสู่สมัยเมจิด้วยการถ่ายรูปที่ถนนแห่งนี้กันเถอะ! ฉากสวยๆแบบนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถถ่ายรูปแล้วออกมาดูเหมือนโปสเตอร์หนังได้ใช่ไหมล่ะ? นอกจากนี้ยังมีคนมาสเก็ตภาพของที่นี่ด้วยนะ โคมไฟทั้งสองข้างของถนนอิฐแดงแห่งนี้สะท้อนใช้ชีวิตของชาวเมจิในสมัยก่อน

ขนมปังแกงกะหรี่ โชะคุโดระคุ——ชิมรสชาติดั้งเดิม 120 ปีก่อน

ข้างๆถนนอิฐแดงมีร้าน "โชะคุโดระคุ โนะ คาเรปัง" (食道楽のカレーぱん) ขนมปังแกงกะหรี่ที่มีรสชาติที่สืบทอดมายาวนาน

"โชะคุโดระคุ" เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นในยุคเมจิ ในสมัยนั้นอาหารตะวันตกยังไม่แพร่หลาย แต่หนังสือเล่มนี้ได้เขียนอธิบายสูตรอาหารและวิธีการรับประทานอาหารตะวันตกไว้อย่างละเอียด สูตรไส้แกงกะหรี่ในขนมปังแกงกะหรี่ของเมจิมุระก็นำมาจากหนังสือเล่มนี้ มาลองชิม "รสชาติของยุคเมจิ" ได้ที่นี่!

ขนมปังทอดกรอบสอดไส้แกงกะหรี่รสชาติกลมกล่อม วิธีทำอาจต่างกับขนมปังแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสมัยนี้ แต่รับรองได้ว่าอร่อยแน่นอน!

นากาอิซะเรียว――ชิมของหวานจากโรงเหล้า

ใส่กิโมโนไปทานของหวานญี่ปุ่นที่ร้านนากาอิซะเรียวกันเถอะ

ตึกของร้านน้ำชา(ซะเรียว)ร้านนี้เดิมเป็นโรงกลั่นเหล้าสาเกที่ถูกสร้างขึ้นในเกียวโตเมื่อปี 1870 และได้ถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งไว้ที่เมจิมุระในปัจจุบัน ข้างในตึกจะมีถังเก็บข้าว ข้าวสาร ห้องหมักข้าว ฯลฯ ให้เห็น

เมนูของร้าน เช่น "มัชชะเซ็ต" มัชชะซอฟต์ครีม เหล้าญี่ปุ่น ฯลฯ ลองชิมขนมญี่ปุ่นโบราณที่โรงกลั่นเหล้าเก่าแก่และเพลิดเพลินไปกับบรรยยากาศของญี่ปุ่นยุคเมจิกันได้ร้านนี้

เอาล่ะ มาศึกษาวิธีการดื่มมัชชะที่ถูกต้องกันดีกว่า



  • 1. ก่อนดื่มชาต้องรับประทานขนมหวานเป็นลำดับแรก
  • 2. ยกถ้วยชาขึ้นด้วยมือขวาขึ้นมาข้างหน้าตัว。
  • 3. หมุนถ้วยชาบนมือซ้ายไป 90 องศาตามเข็มนาฬิกา
  • 4. ทำซ้ำ 3-4 ครั้งและดื่มชาจนได้ยินเสียงลมซึ่งแสดงว่าดื่มหมดแล้ว
  • 5. เมื่อดื่มเสร็จให้ใช้นิ้วเช็ดขอบถ้วยส่วนที่โดนริมฝีปาก
  • 6. ลองสำรวจความงามของถ้วยชา
  • 7. หมุนถ้วยชากลับ 90 องศาทวนเข็มนาฬิกา

ธรรมเนียมการดื่มมัชชะเกิดจากความใส่ใจของผู้ดื่มชาที่ต้องการแสดงความนับถือต่อมาสเตอร์(เจ้าของร้าน) ผู้ดื่มชาจะระวังไม่ให้เสียมารยาทต่อทั้งเจ้าของร้านและผู้ที่ร่วมดื่มชา มารยาทของการดื่มมัชชะสะท้อนถึงวัฒนธรรมความกลมเกลียวที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

บ้านของสึคุมิจิ ไซโก――บ้านขุนนางทรงยุโรปสีขาว

ไปต่อที่อิจโจเมะ เรามาชม "บ้านของสึคุมิจิ ไซโก" กันเถอะ

ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของสึคุมิจิ ไซโก น้องชายของซามุไรระดับสูงชื่อ ทาคาโมริ ไซโก บ้านหลังนี้เป็นบ้านทรงยุโรปที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับอาคันตุกะจากต่างประเทศ ว่ากันว่าตัวบ้านถูกออกแบบโดยชาวฝรั่งเศสในปี 1880 ทำให้ของประดับตกแต่งภายในหลายชิ้นในบ้าน เช่น ราวบันได กรอบประตู ถูกนำเข้ามาทางเรือจากฝรั่งเศส แค่มองของพวกนี้แล้วก็สัมผัสถึงบรรยากาศในยุคนั้นได้เลยใช่ไหมล่ะ

มีบริการแนะนำสถานที่ฟรีที่บ้านของสึคุมิจิ ไซโก สามารถเข้าร่วมรับฟังได้เลยตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้

แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่นี่ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆเลยล่ะ!

สถานที่ถ่ายรูปที่อยากจะแนะนำคือศูนย์อาหารและระเบียง คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของงานเลี้ยงยามค่ำคืนในยุคเมจิด้วยการนั่งบนเก้าอี้ของจริงที่นำมาจากพระราชวังของสมัยนั้น และสามารถถ่ายรูปสวยๆท่ามกลางแสงธรรมชาติที่ส่องลงมาบนระเบียงได้

มาลองนั่งและศึกษาการคมนาคมของยุคเมจิกัน!

เมจิมุระมีพื้นที่ที่กว้างขวาง ยานพาหนะของที่นี่จึงมีถึง 3 ประเภทคือ รถบัส รถไฟฟ้า และรถไฟ ราคาตั๋วสำหรับหนึ่งวันราคา 1300 เยน ถ้าซื้อตั๋วนี้คุณจะสามารถนั่งยาพาหนะชนิดไหนก็ได้และกี่ครั้งก็ได้

ถ้าลองนั่งรถไฟฟ้าก็จะได้เห็นชุดของพนักงานเก็บตั๋วในยุคเมจิอีกด้วย

นอกจากนี้บรรยากาศของเมจิมุระจะแตกต่างกันตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ร่วงจะสามารถชมใบเมเปิ้ล และฤดูใบไม้ผลิจะสามารถชมดอกซากุระได้

โบสถ์เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ - กระจกสีอัศจรรย์

พลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปที่โบสถ์แห่งนี้

ยุคเมจิเป็นยุคที่ศาสนาคริสต์เริ่มถูกเผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ในสมัยนั้นโบสถ์แห่งนี้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่แปลกตา โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นที่เมืองเกียวโตในปี 1890 โดยบาทหลวงจากประเทศฝรั่งเศส และในปัจจุบันได้ถูกย้ายมาตั้งอยู่ที่ที่เมจิมุระ การขนย้ายและติดตั้งเป็นไปอย่างยากลำบากมากๆ

ลักษณะเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือหน้าต่างกระจกสี กระจกสีเป็นภาพดอกไม้สีขาวเคลือบด้วยกระจกใสด้านนอกเพื่อป้องกันภาพข้างใน

มุมถ่ายรูปที่อยากจะแนะนำ คือ ด้านหน้าของกระจกสี แต่ควรระวังภาพเบลอเนื่องจากข้างในโบสถ์ค่อนข้างมืดซึ่งส่งผลให้สปีดชัตเตอร์ช้าลง

โรงละครคุเรหะซะーพบกับโรงละครในสมัยยุคเมจิ

โรงละครแห่งนี้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เป็นแหล่งบันเทิงและสถานที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆของประชาชน อีกทั้งยังถูกใช้ในการปราศรัยของนักการเมืองอีกด้วย

โรงละครคุเรหะซะถูกใช้มามากกว่า100 ปี อาคารสองชั้นที่ทำด้วยไม้แห่งนี้มีลูกเล่นมากมายที่เอื้อต่อการแสดง เช่น เวทีหมุนด้วยมือที่เอาไว้ใช้ในการแสดงคาบุกิ ห้องที่ซ่อนอยู่ใต้เวที เป็นต้น

ฝั่งที่นั่งของผู้ชมจะถูกคั่นด้วยไม้ หากดูดีๆก็จะเห็นเลขที่นั่งติดอยู่ ซึ่งเหมือนกับการระบุเลขที่นั่งของโรงภาพยนตร์ในสมัยปัจจุบัน

สามารถถ่ายภาพโดยการยืนอยู่ตรงกลางของโรงละคร และสามารถใช้อุปกรณ์ที่อยู่บนเวทีและเปลี่ยนเป็นชุดในยุคสมัยเมจิได้อีกด้วย
สามารถเข้าชมด้านในได้เฉพาะเวลาที่มีไกด์นำเข้าชมเท่านั้น (มีแค่ภาษาญี่ปุ่น)

ร้านค้าสถานีโตเกียวSL―มาเลือกซื้อสินค้าออริจินัลกัน!

เยี่ยมชมสิ่งก่อสร้างเสร็จแล้วก็มาต่อกันที่ร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าเฉพาะของเมจิมุระวางจำหน่าย ซื้อของจากที่นี่กลับไปเป็นของฝากก็ดีนะ!

รถจักรไอน้ำ - รถจักรไอน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

นั่งรถจักรไอน้ำจาก "สถานีโตเกียว" สู่สถานที่ต่อไปกันเถอะ

รถจักรไอน้ำของเมจิมุระเป็นรถจักรไอน้ำที่ยังถูกใช้งานอยู่ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งผลิตขึ้นในปี 1874 รถจักรไอน้ำขบวนนี้ยังคงสภาพเดิมให้ได้เห็นและยังคงวิ่งด้วยพลังงานไอน้ำที่เกิดจากการเผาถ่านหินเช่นเดียวกับในสมัยก่อน

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ รถจักรไอน้ำนี้ถูกบังคับด้วยคนจริงๆ!

Movie

มาเซลฟี่กับไอน้ำที่พุ่งออกมาจากตัวรถกันเถอะ!
ฉากแบบนี้ก็เหมาะกับการถ่ายภาพเลียนแบบละครตอนที่ตัวละครต้องแยกจากกันด้วยนะ!

Movie

ร้านสินค้าญี่ปุ่นเบ็ดเตล็ด "ระคุ" ― มองหาสินค้าญี่ปุ่นน่ารักๆ

ร้านระคุจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ผสมผสานประเพณีดั้งเดิมกับความทันสมัยเข้าด้วยกัน ของชิ้นเล็กๆของที่นี่เป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้หญิง

สิ่งค้าของร้าน เช่น ต่างหู กระเป๋าสตางค์สไตล์ญี่ปุ่น ผ้าเช็ดหน้า สบู่อาบน้ำซูโม่ ผ้าเช็ดมือที่เขียนวิธีการลดน้ำหนัก และก็ยังมีของน่าสนใจอย่างอื่นอีกเต็มไปหมด

ผ้าเช็ดมือของญี่ปุ่นมีวิธีการใช้ที่หลากหลาย ใช้เช็ดมือ ใช้พันรอบคอเหมือนผ้าพันคอ ใช้ตกแต่งห้อง ใช้ห่อของขวัญ หรือให้เป็นของขวัญก็ได้

และที่นี่ยังมีพุริคุระ ตู้ถ่ายรูปสไตล์ญี่ปุ่นให้ลองได้ถ่ายเล่นกันอีกด้วย

NAGOYA Ann - ร้านอาหารนาโกย่า

NAGOYA Ann เป็นร้านอาหารที่เชี่ยวชาญด้านอาหารสไตล์นาโกย่า ไม่ว่าจะเป็น อูด้ง หมูทอดมิโซะ ปีกไก่ทอด ฯลฯ ที่นี่มีอาหารสไตล์นาโกย่าหลากเมนูแต่เมนูที่เราแนะนำมากที่สุดคือ คิชิเม็ง !

ในร้านอาหารมีโปสเตอร์ละครที่ถ่ายในเมจิมุระ จะเที่ยวตามรอยละครก็ได้อีกด้วย!

แวะกินอาหารในเมืองรอบๆปราสาทอินุยาม่า

ปราสาทอินุยาม่าตั้งอยู่ใกล้กับเมจิมุระ ที่บริเวณนั้นมีร้านขนมและอาหารว่างมากมาย เราจะแนะนำสองร้านที่น่าไปลอง

World Cuisine Passport :คาเปร์เซ่สลัดเสียบไม้รูปหัวใจ

ร้านอาหารที่เราอยากจะแนะนำก็คือ ร้านMorinomarushe และอาหารที่อยากจะแนะนำมากที่สุดคือ คาเปร์เซ่สลัดสลัดเสียบไม้ สีแดงจะเป็นมะเขือเทศส่วนสีขาวจะเป็นมอสซาเรลล่าชีสรูปหัวใจ ไม่ใช่แค่รูปร่างสวยเท่านั้น รสชาติอร่อยไม่มีที่ติและยิ่งไปกว่านั้นถ้าได้กินคู่กับเบียร์หรือไวน์จะอร่อยเพิ่มขึ้นนอกจากนี้เรายังมีเบียร์ที่ผสมกับน้ำผลไม้ถึง 4ชนิดให้คุณได้ลองดื่มกัน
ไม่สนใจนั่งกินเบียร์บรรยากาศชิวๆใต้ปราสาทหรอครับผม

Hyokaroujin : ขนมโมจิและโยโมกิทอด

เราอยากจะแนะนำขนมญี่ปุ่นไว้สำหรับเดินกินคือ โกะโมจิ กับ โยโมกิทอด โกะโมจิจะทำเป็นรูปร่างเครื่องดนตรีสมัยก่อนซึ่งรูปร่างแปลก ความนุ่มของโมจิจะมี2ชนิดส่วนซอสจะมีทั้งหมด 4แบบ(โชยุ โชยุแบบหวาน ซอสพริก ซอสแกงกระหรี่) โดยสามารถเลือกซอสเองได้ ส่วนราคานั้น 1 ไม้จะราคา 90 เยน

โยโมกิทอดคือ การนำโยโมกิไปเผาแล้วก็นำไปทอดจนสวยงามและนำถั่วแดงจากฮอกไกโดมาใส่ด้านบน ถ้าใครชอบกินขนมหวานของญี่ปุ่นขนมอันนี้ไม่ควรพลาด

สรุป

เมจิมุระเป็นสถานที่เงียบสงบและมีเสน่ห์อย่างมาก ไม่ว่าใครๆก็สามารถสนุกไปกับหมู่บ้านเมจิมุระได้ในสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น คนที่ชอบถ่ายรูป แฟนประวัติศาสตร์ แฟนละคร

ครั้งนี้เราได้แนะนำแผนการท่องเที่ยวเมจิมุระสำหรับผู้ที่ "อยากถ่ายรูปสวยๆ" แต่ถ้าใครยังสนใจสถานที่ท่องเที่ยวนอกจากนี้ ลองอ่านบทความอื่นๆของ Centrip Japan และลองสร้างความสนุกกับหมู่บ้านเมจิมุระในสไตล์ของตัวเอง!

Sponsored by THE MUSEUM MEIJI-MURA

Related Articles Related Articles