หากคุณมุ่งหน้าไปทางเหนือจากนาโกย่า คุณจะเห็นชิราคาวะโกะในทาคายามะ และคานาซาวะรวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆมากมาย แต่ก่อนจะไปถึงทาคายามะ มีสถานที่ที่เป็นเสน่ห์ของญี่ปุ่นมากมายที่คุณไม่ควรพลาด นั่นก็คือ กุโจฮาจิมัน และ เกโระโดยบทความนี้จะเป็นบทความที่พูดถึงกุโจฮาจิมัน

กุโจฮาจิมัน คือ？

กุโจฮาจิมันตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุที่อยู่ในภูมิภาคชูบุซึ่งเป็นใจกลางของประเทศญี่ปุ่น มีปราสาทบนภูเขาสูงตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่ระดับความสูงประมาณ 200 เมตรและแม่น้ำที่สวยงามไหลผ่านเมืองด้านล่าง

เมื่อชาวญี่ปุ่นได้ยินเกี่ยวกับ กุโจฮาจิมัน หลายคนจะนึกถึง“กุโจโอโดริ” กุโจโอโดริ เป็นหนึ่งในการละเล่นการเต้นพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นทุกปีตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนและมีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเต้นรำแบบตลอดทั้งคืนที่เต้นกันยันสว่างในกลางเดือนสิงหาคม

กุโจโอโดริ ควรค่าแก่การมาชมเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้เสน่ห์ของเมืองนี้ยังมีอีกมากมาย ซึ่งมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น เกียวโตขนาดย่อม เมืองแห่งน้ำ เมืองแห่งตัวอย่างอาหาร ฯลฯ ไม่ใช่เพียงแค่การเต้นรำในฤดูร้อนของเทศกาลการเต้นพื้นเมืองเท่านั้น

วิธีไปกุโจฮาจิมัน

ในกรณีของรถไฟ ให้ออกเดินทางจากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีกิฟุ ด้วยรถไฟสาย JR โทไคโด Main Line จากนั้นจากสถานีกิฟุเดินทางไปยังสถานีมิโนตะ ด้วยรถไฟสาย JR ทาคายาม่า Main Line ไปยังสถานีมิโนโอตะ จากนั้นขึ้นรถไฟนาการะกาวะไปยังสถานีกุโจฮาจิมัน ค่าโดยสารอยู่ที่ 2550 เยน ต่อเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเวลาอาจเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับการเวลาของเปลี่ยนรถไฟ หากคุณขึ้นรถไฟด่วนที่มีชื่อว่าไวด์วิวฮิดะ จากนาโกย่าไปยังสถานีมิโนตะล่ะก็ คุณจะมาถึงเร็วกว่านี้เล็กน้อย แต่ราคาก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย

ในกรณีที่โดยสารโดยรถบัส จะมีรถบัสกิฟุ จากสถานีขนส่งเมเทะทสึนาโกย่า ไปยังเมืองล่างปราสาทกุโจฮาจิมัน ได้อย่างง่ายดายด้วยสายนาโกย่า-กุโจฮาจิมัน สถานที่ลงรถนั้นอยู่ใกล้กับปราสาท กุโจฮาจิมันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุโจฮาจิมัน ราคาอยู่ที่ 2,260 เยน แต่ถ้าคุณซื้อตั๋วไปกลับ คุณจะได้ตัวในราคา 4100 เยน การเดินทางใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางอื่น ๆ แต่คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนไปขึ้นแท็กซี่ไปยังเมือง เพราะจุดจอดรถบัสจะอยู่บนทางด่วน

ตั้งแต่เดือนเมษายน 2019 เส้นทางจากนาโกย่า-กุโจฮาจิมัน-ทาคายามะก็ถูกเพิ่มเข้าไปในโชริวโดบัสพาส นอกจากการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับจากนาโกย่าแล้ว คุณยังสามารถเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ที่ใช้นาโกย่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง เช่น ทาคายามะ ชิราคาวะโกะและคานาซาว่า ได้อีกด้วย วิธีการใช้ตั๋วโชริวโดบัสพาสจะถูกอธิบายอย่างละเอียดด้านล่างของบทความ

นอกจากนี้หากคุณใช้ทางด่วนจากนาโกย่า คุณสามารถมาถึงที่นี่โดยใช้เวลาประมาณ 70 นาที ขอแนะนำให้คุณลองเช่ารถยนต์จะลองขับรถในญี่ปุ่นดูก็สนุกไปอีกแบบ

สถานที่ท่องเที่ยวหลักขอ กุโจฮาจิมัน

สถานีกุโจฮาจิมัน

หากคุณไม่ได้ใช้บริการรถไฟก็อาจจะไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมมากแต่สถานีกุโจฮาจิมันและรถไฟ นาการะกาวะ เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม มีหลายคนที่เดินทางมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ในการขึ้นรถไฟย้อนยุคสีแดงพี่มีเพียงตู้เดียว

สถานีกุโจฮาจิมันยังมีร้านกาแฟที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว และคุณยังสามารถดื่มกาแฟในขณะที่รอรถไฟมาถึง นอกจากนี้คุณยังสามารถเช่าจักรยานได้ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวอีกด้วย。

เมืองล่างปราสาท

เมืองกุโจฮาจิมันนั้นมีขนาดเล็กและคุณสามารถเดินจากสถานีไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆได้ ขณะเดียวกันก็มีรถบัสคอยให้บริการวิ่งรอบเมือง ลองไปที่จุดลงรถบัสจุดสุดท้ายพี่ปราสาทของเมืองกันเถอะ เมืองล่างปราสาทตั้งอยู่ในใจกลางเมืองและเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเที่ยวชมกุโจฮาจิมัน มาเดินทางโดยรถบัสด้วยราคาเพียง 100 เยน

ปราสาทกุโจฮาจิมัน

ถ้าคุณขึ้นเขาจากเมืองล่างปราสาท คุณจะเข้าสู่บริเวณปราสาทกุโจฮาจิมันทันที
ในญี่ปุ่นมีสำนวนว่า“ อุจิสึเกะอิจิโกะ”อยู่ โดยมีความหมายว่า“ ความสำเร็จของภรรยาคือการสนับสนุนสามีอยู่เบื้องหลัง”ซึ่งเจ้าของสำนวนนี้ก็คือจิโยะ ภรรยาของยามาอุจิ คะสึโตะโยะ ที่มาจากโรนินและได้กลายเป็นไดเมียว ว่ากันว่าการสนับสนุนของจิโยะนั้นอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคะสึโตะโยะ และจิโยะที่เรากำลังกล่าวถึงมีบ้านเกิดอยู่ที่กุโจฮาจิมัน

ลองขึ้นไปตามทางลาดและบันได เพื่อไปชมหอคอยปราสาทเหนือรูปปั้นของคู่สามีภรรยาคู่นี้กัน

หากคุณขึ้นไปตามเส้นทางภูเขาที่สูงชันเล็กน้อยประมาณ 15 นาที คุณจะเห็นกำแพงหินและหอคอยปราสาทที่สวยงาม หอคอยปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1933 แต่เป็นปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

ปราสาทกุโจฮาจิมันไม่ใช่ปราสาทขนาดใหญ่ แต่ด้วยความที่ปราสาทตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาและทิวทัศน์ของเมืองปราสาทจากปราสาทนั้น ทำให้ที่นี่ดูวิเศษมาก ในสมัยก่อน ชิบะเรียวทาโร่ นักเขียนนวนิยายชื่อดังชาวญี่ปุ่นเคยเรียกปราสาทกุโจฮาชิมันว่าเป็น“ ปราสาทภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น”พอได้ไหมเห็นจริงๆก็เลยเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้น

• Spot Info

การเดินเล่นรอบ ๆ ถนนกุโจฮาจิมัน 1: วัดและศาลเจ้าเก่า

ในประเทศญี่ปุ่น มักจะเรียกเมืองที่มีบรรยากาศคล้าย ๆ กับเมืองเกียวโตว่า“ เมืองเกียวโตเล็ก” แต่เมื่อมีการจัด“ ประชุมเมืองแห่งเมืองเกียวโต” ซึ่งมีเมืองเล็ก ๆ ที่รวมตัวกันเป็นสมาชิก ก็มีสมาชิกมากถึง 44 เมืองด้วยกัน

กุโจฮาจิมัน เป็นหนึ่งในเมืองเกียวโตขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงและมีวัด ศาลเจ้ามากมายในเมือง โดยในพื้นที่เล็ก ๆ มีวัดและศาลเจ้ารวมกันมากถึง 13 แห่งที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ภายในหนึ่งชั่วโมง นอกจากไม่ใช่เพียงแค่มีจำนวนมากเท่านั้น ยังมีความงดงามของประตูของแต่ละวัดและศาลเจ้า ขนาดของระฆัง ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ชอบเมืองเก่าของญี่ปุ่น

ในขณะที่มองไปรอบ ๆ วัดและศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่อนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามของภูมิทัศน์เมืองกุโจฮาจิมันอันเก่าแก่ได้อีกด้วย

การเดินเล่นรอบ ๆ ถนนกุโจฮาจิมัน ２：เมืองแห่งน้ำ

กุโจฮาจิมันเป็นเมืองแห่งน้ำ มีแม่น้ำใสไหลผ่านเมืองและคุณสามารถได้ยินเสียงน้ำจากทั่วเมืองได้ มุมมองของปราสาทกุโจฮาจิมันจากสะพานมิยากาเสะโกะเหนือแม่น้ำโยชิดะที่สวยงามก็ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ขณะเดินไปรอบ ๆ เมือง ให้ลองเงี่ยหูฟังเสียงน้ำ ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสนุกไปกับเมืองกุโจฮาจิมัน

โซกิซุยเป็นสัญลักษณ์ของน้ำสะอาดในเมืองกุโจฮาจิมัน เป็นแหล่งน้ำแร่แห่งประวัติศาสตร์ได้รับการอนุรักษ์อย่างระมัดระวังโดยผู้คนในเมืองและเป็นแหล่งน้ำแร่แห่งแรกได้รับการคัดเลือกโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมในฐานะหนึ่งใน 100 น้ำที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มได้อย่างอิสระอีกด้วย

หลังจากดื่มน้ำที่โซกิซุยแล้ว ลองเดินไปยังไปทางทิศใต้แล้วข้ามสะพานมิยากาเสะโกะ หลังจากข้ามสะพานและไปถึงทางแยกคุณจะเห็นทางน้ำที่เรียกว่า มิสุโนะโคะมิจิ(ทางน้ำสายเล็ก)ทันที เส้นทางที่สวยงามมีก้อนหินวางอยู่มากมาย ถัดจากทางน้ำเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดเล็กที่บ้านเก่าได้รับการปรับปรุงใหม่และคุณยังสามารถแวะไปดื่มชาเขียวในห้องสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ร้านกาแฟได้อีกด้วย

หากคุณข้ามสะพานมิยากาเสะโกะ ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับมิสุโนะโคะมิจิ คุณจะพบกับหออนุสรณ์อาคารรัฐบาลเก่ากุโจฮาจิมัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว นอกจากนี้คุณยังสามารถให้อาหารปลาคาร์พที่ว่ายน้ำอยู่ในทางน้ำได้ เส้นทางที่เงียบสงบแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและมักถูกใช้ในการถ่ายทำโฆษณาทางโทรทัศน์ต่าง ๆ

ฉันอยากให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของอิคะวะโคะมิจิในวิดีโอดู เพิ่งวีดีโอนี้ถ่ายเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ถ้าฤดูกาลเปลี่ยนไปบรรยากาศก็จะดูแตกต่างกันไปอีก

ประสบการณ์อุตสาหกรรมในท้องถิ่น: การพิมพ์ซิลค์สกรีนและตัวอย่างอาหาร

กุโจฮาจิมันมีอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มากมาย ในบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆ มีสิ่งที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนอยู่นั่นก็คือการพิมพ์สกรีนผ้าไหมและการทำตัวอย่างอาหาร
กุโจฮาจิมันเป็นแหล่งกำเนิดของการพิมพ์ซิลค์สกรีนและการผลิตตัวอย่างอาหารในญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เพียงแต่จะได้เข้าไปเยี่ยมชมดูการทำเท่านั้นแต่ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ของอุตสาหกรรมทั้ง 2 แบบได้

การพิมพ์ซิลค์สกรีนอยู่ที่ Takara Work Gallery Room ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอิวะโคะมิจิ และการทำตัวอย่างอาหารสามารถทดลองทำได้ตามจุดต่างๆซึ่งมีหลายแห่ง กระจายอยู่ทั่วเมือง

วัฒนธรรมอาหารของกุโจฮาจิมัน

ถ้าคุณเหนื่อยกับการเดินเล่นรอบๆเมืองแล้วล่ะก็ มาเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารของกุโจฮาจิมันกัน
เช่นเดียวกับทาคายามะ มีร้านอาหารมากมายที่คุณสามารถทานเนื้อฮิดะได้ แต่ถ้าเป็นฤดูกาลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมขอแนะนำให้คุณรับประทานเมนูที่ทำจากปลาอายุซึ่งตกได้ในแม่น้ำใกล้กับกุโจฮาจิมัน น่าเสียดายที่วันนี้อยู่นอกฤดูกาล ฉันจึงทานอีกหนึ่งเมนูพิเศษของกุโจฮาจิมัน นั่นก็คือโซบะ

บริเวณรอบ ๆ แม่น้ำโยชิดะนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าโซบะยอดนิยมและไม่ว่าจะไปที่ไหนก็อร่อยไปหมด สามารถรับประทานโซบะได้ในราคาเพียง 1,000 เยนเท่านั้น

สรุป

จากต้นจนจบฉันได้แนะนำสถานที่น่าสนใจมากมายของเมืองกุโจฮาจิมัน แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่าสถานที่เที่ยวมากมายเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นปราสาท วัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่ทางน้ำใส workshop และร้านโซบะ ล้วนแล้วแต่อยู่ในบริเวณที่สามารถเดินไปถึงกันได้ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันก็น่าจะเพียงพอสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเมืองกุโจฮาจิมัน ทางนี้ก็ถือเป็นเมืองที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับจากนาโกย่า หรือจากเมืองอื่นๆพี่สามารถเดินทางมายังที่นี่ได้