| กองบรรณาธิการCentrip
5 เมนูเด็ดในเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ
เมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซุโอกะอยู่ห่างจากนาโกย่าเพียง 30 นาทีและเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งจากโตเกียวหากเดินทางด้วยรถไฟชินกันเซ็น เมืองนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "เมืองแห่งดนตรี" เพราะที่นี่มีบริษัทเครื่องดนตรีระดับโลกอย่าง”ยามาฮ่า”และ”คาวาอิ” และเนื่องจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่มาพร้อมกับแสงแดดอันอบอุ่นทำให้วัตถุดิบที่มาจากฮามามัตสึนั้นมีรสชาติที่ดีเลิศ
เมื่อพูดถึงอาหารรสเลิศของฮามามัตสึแล้ว สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงคงจะเป็น เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึและข้าวหน้าปลาไหล แต่นอกจากจานเด็ดที่มีชื่อเสียงทั้งสองนี้แล้ว ชาฮามามัตสึและเหล้าสาเกก็ถือเป็นเมนูสุดพิเศษเช่นกัน ในฐานะคนรักอาหาร วันนี้ฉันจะมาลองชิมอาหารรสเลิศของฮามามัตสึพร้อมกับแนะนำอาหาร 5 เมนูที่ไม่ควรพลาด
Table of Contents
- อุนะกิด้งฟูจิตะ : ข้าวหน้าปลาไหลที่สืบทอดกันมายาวนานถึงสี่รุ่น
- มุระมัตสึโชเต็ง : ร้านกาแฟจากมือโปรที่ทำเองตั้งแต่เพาะปลูกไปจนถึงการชง
- ฮามะทาโร่เกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์ : เกี๊ยวซ่าแสนอร่อยที่คุณมั่นใจได้เพราะปรุงขึ้นตรงหน้าคุณ
- วัดโฮโคจิ: ชิมอาหารแบบชาวพุทธ ลองนั่งสมาธิ
- โรงกลั่นเหล้าฮานะโนะมะอิ : ชิมสาเกได้แบบฟรี ๆ ที่นี่
- การไปเที่ยวเมืองฮามามัตสึจะสะดวกกว่าหากเช่ารถ
- ที่พักฮามามัตสึ: คิตะโนะริวะ THE KURETAKESO
- สรุป
อุนะกิด้งฟูจิตะ : ข้าวหน้าปลาไหลที่สืบทอดกันมายาวนานถึงสี่รุ่น
อุนะกิด้งฟูจิตะ : ข้าวหน้าปลาไหลที่สืบทอดกันมายาวนานถึงสี่รุ่น
"ปลาไหลฟูจิตะ" ที่มารับประทานในครั้งนี้อยู่ใกล้กับสถานีฮามามัตสึและก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 130 ปีที่แล้วครอบครัวฟูจิตะซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับปลาไหลมาหลายชั่วอายุคนโดยเริ่มจากคุณปู่ของพวกเขาที่ทำธุรกิจขนส่งปลาไหลได้รับฉายาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านปลาไหล
ครอบครัวฟูจิตะสร้างฟาร์มปลาไหลของตัวเองในทะเลสาบฮามานะใกล้เคียงเพราะต้องการเลี้ยงปลาไหลที่สดที่สุด ปลาไหลสดที่ราดด้วยซอสปลาไหลสูตรลับที่ให้รสชาติที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานถึง 50 ปีนี้เป็นรสชาติที่ทานเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยน.
ปลาไหลของฟูจิตะคือปลาไหล "สไตล์คันโต" กล่าวคือ นำปลาไหลไปย่างและนึ่ง ก่อนนำไปแช่ซอส และทำซ้ำ 3 รอบ ถือเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากมากทีเดียว โดยปลาไหลที่อบด้วยวิธีนี้จะมีน้ำมันและไขมันน้อยจึงทำให้หนังกรอบและเนื้อข้างในนุ่ม
"อุนากิจู (ไซส์ใหญ่)" (4400 เยน) ที่ฉันสั่งมีกลิ่นหอมย่างเตาถ่าน เมื่อกัดเข้าไปคำแรก เนื้อปลาไหลที่หวานนุ่มละลายในปาก ส่วนน้ำซอสก็เข้ากันกับข้าวที่มีความหนึบ ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งฉันคิดว่าคุ้มกับราคานี้มาก ๆ
ในร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็แค่เพียงชึ้เมนูที่ต้องการสั่งให้พนักงานดู
: ฮามะทาโร่เกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์ : เกี๊ยวซ่าแสนอร่อยที่คุณมั่นใจได้เพราะปรุงขึ้นตรงหน้าคุณ
ฮามามัตสึเป็นเมืองที่มีปริมาณการขายเกี๊ยวซ่าเป็นอันดับหนึ่งหรืออันดับต้น ๆ จนถูกเรียกว่าเป็น "เมืองเกี๊ยวซ่า" แล้วความน่าสนใจของเกี๊ยวฮามามัตสึคืออะไรกัน ? เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึจะถูกวางเรียงกันเป็นทรงกลม ลักษณะเด่นคือมีถั่วงอกอยู่ข้างใน เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึมีผักเช่นกะหล่ำปลีและหัวหอมมากกว่าเกี๊ยวซ่าธรรมดา รสชาติของมันจึงมีความสดชื่นเป็นพิเศษ
มีกฎว่าเกี๊ยวต้องถูกทำขึ้นจากผู้ที่อาศัยอยู่ในฮามามัตสึมานานกว่า 3 ปีเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเรียกว่า "เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึ" ได้ นอกจากนี้ต้องทำเกี๊ยวซ่ายังต้องทำขึ้นในเมืองฮามามัตสึ จึงจะสามารถรับประกันรสชาติแสนอร่อยของเกี๊ยวซ่่าฮามามัตสึได้
ในครั้งนี้เราได้มาเยือนที่ร้าน "ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์" เป็นร้านที่รวมโรงงานเกี๊ยวซ่าและร้านขายค้าเอาไว้ด้วยกัน นอกจากจะได้เห็นขั้นตอนการผลิตของโรงงานเกี๊ยวซ่าซึ่งปกติหาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว คุณยังสามารถซื้อเกี๊ยวซ่าแช่แข็งและเกี๊ยวซ่าดิบได้ในราคาที่ส่งจากโรงงานโดยตรงอีกด้วย
เกี๊ยวซ่าจากฮามามัตสึเกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์มีราคาถูกและอร่อย ราคาอยู่ที่ 630 เยน / 6 ชึ้น, 980 เยน / 12 ชึ้น ,1,280 เยน / 18 ชิ้น นอกจากจะมีเกี๊ยวซ่าแล้วยังมีข้าว ซุปมิโซะ ผักดอง ฯลฯ รวมอยู่ในเซ็ตอีกด้วย (ที่ญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องปกติในการกินเกี๊ยวซ่ากับข้าว) รับรองว่าอิ่มแน่นอน
มุระมัตสึโชเต็ง : ร้านกาแฟจากมือโปรที่ทำเองตั้งแต่เพาะปลูกไปจนถึงการชง
ชาในจังหวัดชิซุโอกะมีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น จนเรียกได้ว่าสามารถรับประกันคุณภาพของชาที่ผลิตที่นี่ได้ คราวนี้เราจะพาทุกคนไปที่ "มุระมัตสึโชเต็ง"
คุณมุระมัตสึเจ้าของร้าน "มุระมัตสึโชเต็ง" จบจากมหาวิทยาลัยด้านการวิจัยโรคในใบชา เขาทำทุกอย่างตั้งแต่การปลูกชาไปจนถึงการผลิตและการขายด้วยตัวเอง จึงสามารถรับประกันคุณภาพของชาจากแหล่งที่มาได้ เขาพาฉันชมรอบ ๆ ไร่ชาของตัวเองและมันทำให้ฉันรู้ว่าการจะปลูกชาต้องมีความรู้มากมายเพียงใด ตัวอย่างเช่น การป้องกันต้นชาจากน้ำค้างแข็งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนให้เปิดพัดลมในไร่ชาเพื่อไม่ให้อากาศเย็นเกินไป และคุณภาพของชาจะดีกว่าถ้าเลือกปลูกในดินที่มีความหนืด
ชาที่ร้านใช้วิธีนึ่งแบบนาน ซึ่งจะนานกว่าการเวลานึ่งทั่วไป (ประมาณ 90 - 120 วินาที) และรสชาติของชาที่ได้จะแตกต่างกันแม้จะเป็นเพียงไม่กี่วินาที มีความเข้มข้นกว่าและหวานกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชาที่มีรสชาติเข้มข้น
ครั้งนี้ฉันได้ลองเข้าร่วมกิจกรรม "ชาคาบูกิi" ซึ่งจัดขึ้นในห้องชงชาภายในร้าน นี่ไม่ใช่ละคร "คาบูกิ" แต่อย่างใด แต่เป็นเกมที่ให้ดื่มชาและทายน้ำชานั้น ๆ เป็นการพนันที่ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยโบราณ เล่นกันตั้งแต่คนชั้นสูงไปจนถึงคนทั่วไป ในสมัยก่อนบางคนก็เล่นเพื่อหวังแค่จะเพิ่มเงินในกระเป๋าก็มี
เกมรอบนี้ไม่ได้จัดใหญ่มากนัก ก่อนอื่นจะลองเล่นแบบไม่กดดันดูก่อน ขั้นแรกคุณมุระมัตสึ ผู้ดำเนินการแข่งเป็นผู้เตรียมชาทั้ง 5 ประเภทและได้วางกระดาษให้ผู้ที่ลงแข่งได้จดบันทึกกลิ่น สีและลักษณะต่าง ๆ บนแผ่นกระดาษ
จากนั้นก็ชงชาและให้ทุกคนดื่ม หลังจากดื่มแล้วก็ให้ทุกคนเขียนคำตอบลงในกระดาษของทางร้าน ถึงจะดื่มถ้วยถัดไปแล้วเสียใจว่า "เขียนคำตอบชาก่อนหน้านี้ผิด" ก็ไม่สามารถเปลี่ยนคำตอบได้
เนื่องจากฉันเป็นคนต่างชาติ รอบนี้จึงเล่นเพียงแค่ 5 ชนิดที่สามารถเดาได้ง่าย แต่ปรากฎว่าไม่มีใครเดาได้ถูกทั้งหมด มันยากกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก
เกม"ชาคาบูกิ" จะถูกอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ดังนั้นในการเข้าแข่งคุณจำเป็นต้องมีล่ามที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้มาด้วย แต่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเมนูชา เพราะที่เมนูมีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ
วัดโฮโคจิ: ชิมอาหารแบบชาวพุทธ ลองนั่งสมาธิ
โฮโคจิเป็นวัดนิกายเซนที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคชูบุของญี่ปุ่น คุณสามารถชมวัดพุทธได้โดยเดินไปตามถนนบนภูเขาที่เงียบสงบซึ่งมีรูปปั้นหินของพระอรหันต์กว่า 500 รูปเรียงรายอยู่ สิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในโฮโคจิสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 650 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่ถูกทำลายลงจากเหตุอัคคีภัย แต่แม้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ อาคารไม้หลังนี้ก็ยังคงทำให้วัดเซนมีบรรยากาศที่ดูเงียบสงบ วัดโฮโคจิมีหลักสูตรการนั่งสมาธิ การสวดพระสูตรและการวาดภาพทางพุทธ คุณสามารถสงบจิตสงบใจและร่างกายของคุณและสัมผัสกับความลึกลับของศาสนาพุทธญี่ปุ่นได้ที่นี่
ครั้งนี้ฉันได้ลอง "โชจินเรียวริ" เป็นอาหารที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ และไม่ใช้ผักที่มีกลิ่นฉุนในการปรุง (เช่นกระเทียม) เพื่อให้พระมีสมาธิในการฝึกเรียนสิ่งต่าง ๆ
โชจินเรียวริของวัดโฮโคจิมีความพิเศษอยู่ที่เมนู "ปลาไหล" ซึ่งปรุงขึ้นเพื่อให้เข้ากับอาหารยอดฮิตของ ฮามามัตสึ "ปลาไหล" ของที่นี่ทำจากรากบัว มันภูเขาและเต้าหู้ มีเนื้อนุ่ม ราดด้วยซอสเผ็ดอมหวานสีน้ำตาล ทำให้ดูเหมือนกับกำลังกินปลาไหลจริง ๆ เลยละ
โชจินเรียวริของวัดโฮโคจิมีความพิเศษอยู่ที่เมนู "ปลาไหล" ซึ่งปรุงขึ้นเพื่อให้เข้ากับอาหารยอดฮิตของ ฮามามัตสึ "ปลาไหล" ของที่นี่ทำจากรากบัว มันภูเขาและเต้าหู้ มีเนื้อนุ่ม ราดด้วยซอสเผ็ดอมหวานสีน้ำตาล ทำให้ดูเหมือนกับกำลังกินปลาไหลจริง ๆ เลยละ
ก่อนรับประทานอาหาร พระจะเคาะกระดานไม้และท่อง "โกะคังโนะเกะ" เนื้อหาของ "โกะคังโนะเกะ" คือการขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและรับประทานอาหารเพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น ฯลฯ
ฉันยังได้ลองนั่งสมาธิอีกด้วย ฉันหลับตาและทำสมาธิในพื้นที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นธูป และรู้สึกว่าได้ยินเสียงร้องของนกแบบเบา ๆ จากที่ไกล ๆ เวลานั่งสมาธิ พระก็จะเดินถือไม้ยาว ๆและเดินวนรอบ ๆ เมื่อพระมายืนตรงหน้าคุณให้โค้งคำนับและพระสงฆ์จะตีหลังและไหล่ของคุณด้วยไม้ นี่ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็น "เคซะคุ" เป็นวิธีการเพิ่มสมาธิ กระตุ้นร่างกายที่แข็งจากการนั่งสมาธิและผ่อนคลายร่างกาย
โรงกลั่นเหล้าฮานะโนะมะอิ : ชิมสาเกได้แบบฟรี ๆ ที่นี่
โรงกลั่นเหล้าฮานะโนะมะอิ" เป็นโรงกลั่นเหล้าสาเกที่เปิดดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 150 ปี มีชื่อเสียงมายาวนานและตั้งอยู่ในเมืองฮามามัตสึ เหล้าสาเกของที่นี่ได้รับการผลิตอย่างพิถีพิถันโดยผู้ผลิตเหล้าสาเกใช้ข้าวจากชิซูโอกะและน้ำใต้ดินจากเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้มาผลิต
หากคุณเข้าใจภาษาญี่ปุ่นขอแนะนำให้คุณเข้าร่วมทัวร์โรงกลั่นเหล้าฮานะโนะมะอิแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย (ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง) คุณสามารถชมขั้นตอนการทำสาเกได้จากการอธิบายของคุณโมริ อันดับแรกจะเป็นการแนะนำวิดีโอเกี่ยวกับวิธีการกลั่นเหล้าของฮานะโนะมะอิ คุณอาจมีโอกาสได้ชมถังเก็บสาเกของจริง อีกทั้งยังได้ดื่มสาเกที่ทำขึ้นใหม่ ๆ อีกด้วย
แม้ที่นี่จะไม่สามารถไกด์เป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ในวิดีโอมีคำบรรยายภาษาอังกฤษ และคุณโมริผู้แสนใจดีจะพยายามอธิบายเป็นภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้คุณ
หลังจากเยี่ยมชมโรงกลั่นเหล้าสาเกแล้ วผู้ผลิตเหล้าสาเกก็แนะนำให้เรารู้จักกับสาเกแสนอร่อยที่ชื่อว่า "ไดเก็นโจนามะเก็นจูฮานะโนะไม" ซึ่งเป็นเหล้าที่มีกลิ่นหอมหวานและนุ่มนวล และฉันขอแนะนำ "Abysse" ผลิตขึ้นข้าวขาวแต่ให้กลิ่นหอมแบบไวน์
นอกจากนี้ยังมีมุมชิมฟรีอีกด้วย สำหรับการชิมเหล้าสาเกในสถานที่ทั่วไปนั้นอาจต้องเสียตังค์ แต่ที่โรงกลั่นเหล้าฮานะโนะมะอิจะให้ทุกคนได้ชิมเหล้าสาเกแบบฟรี ๆ คุณโมริกล่าวว่าจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดคือการเผยแพร่สาเกฮามามัตสึให้กับทุกคนได้รู้จัก ลองแวะชิมที่มุมชิมฟรีและหาสาเกที่อร่อยที่สุดดู
การไปเที่ยวเมืองฮามามัตสึจะสะดวกกว่าหากเช่ารถ
แม้จะมีรถประจำทางและรถไฟในฮามามัตสึ แต่รถประจำทางไม่ได้มีมากขนาดนั้น หากคุณสามารถขับรถได้ การเช่ารถจะสะดวกกว่ามาก ฉันใช้รถเช่าของ TOYOTA สำหรับการเดินทางไปฮามามัตสึในครั้งนี้ ซึ่ง ร้านเช่ารถของ TOYOTA ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีฮามามัตสึ
ขั้นตอนที่สำคัญในการเช่ารถนั้นมีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล และคุณยังสามารถประหยัดเวลาในการเช่ารถได้ ด้วยการใช้บริการจองล่วงหน้าทางช่องทางออนไลน์
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการเช่ารถแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำรถมา และให้ตรวจสอบว่ารถมีความเสียหายบริเวณไหนหรือไม่ พร้อมกับอธิบายวิธีการใช้งาน
ที่พักฮามามัตสึ: คิตะโนะริวะ THE KURETAKESO
โรงแรมแห่งนี้ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาทีจากสถานีฮามามัตสึ และคุณจะมองเห็นโรงแรมได้ทันทีเมื่อออกจากสถานี
โรงแรมเพิ่งสร้างเสร็จในปี 2019 ใหม่มาก ๆ ห้องพักสะอาดและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องฟอกอากาศและเบาะนวดในแต่ละชั้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับไปใช้ในห้องพักได้อย่างอิสระ
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้ามีให้เลือกมากมาย ความพิเศษอยู่ที่โรงแรมมีเชฟเป็นคนไทย ดังนั้นคุณจะได้เห็นอาหาร อาทิเช่น หม้อไฟไทยและแกงเขียวหวานที่หาไม่ได้ในโรงแรมทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเมนูนาเบะ แม้ว่าจะเป็นโรงแรมแบบบิสิเนส แต่ความอร่อยของอาหารเช้าถือว่าชนะของโรงแรมบิสิเนสทั่วไปได้อย่างขาดลอย
สรุป
ในบรรดาอาหารรสเลิศใดในเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซุโอกะ สนใจเมนูไหนมากที่สุด ? ในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ ลองมุ่งหน้าไปที่ฮามามัตสึซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารจานเด็ด ๆ ดู
Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information