| กองบรรณาธิการ Centrip

ศาลเจ้า Miwa Jinja ต้นกำเนิดชื่อเมืองยาบะ

ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นในยุค Genki (1570 – 1572) เมื่อมาคิวาคาซะ โนะ โมริ นากาคิโยะ อันเชิญเทพเจ้าโอคูนินูชิ (เทพเจ้าไดโคคุ) เทพเจ้าที่เขาให้ความนับถือเป็นอย่างมากมาสถิตที่ศาลเจ้านี้

ในปี1668 สำนักฝึกการยิงธนูของตระกูลโอวาริ โทคุกาวะได้ถูกสร้างขึ้นในบริเวณศาลเจ้า Miwa Jinja สำนักฝึกนี้ได้ถูกตั้งชื่อว่า ยาบะ ซึ่งเป็นที่มาของการนำเรียกชื่อเมืองนี้ว่า ยาบะ นั่นเอง


Torii (เสาของศาลเจ้า) มีชื่อว่า Miwa Torii หรือ Mitsu Torii ประกอบไปด้วยMiyoujin Torii (เสาที่มีลักษณะโค้ง) และด้านข้างทั้งสองด้านมี Torii ขนาดเล็กอีกด้านละต้นซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ค่อนข้างแปลกกว่าปกติทั่วไป

ในบริเวณศาลเจ้ามีรูปปั้นกระต่ายอยู่ด้วย โดยเปรียบกระต่ายเสมือนผู้ส่งสารของเทพเจ้า มีความเชื่อว่าหากลูบที่หัวกระต่ายเบา ๆ คำอธิษฐานจะสมดังปรารถนาและหากลูบที่ส่วนอื่นก็ยังสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดตามส่วนที่ลูบได้อีกด้วย


ในปี 1959 ต้นไม้ที่กล่าวกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าโค่นลงเพราะใต้ฝุ่นอิเซะ ต่อมากจึงมีคนนำต้นไม้นั้นไปสลักเป็นรูปปั้นของเทพเจ้าไดโคคุ (หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า โอคูนินูชิ) รูปปั้นนี้ถูกตั้งชื่อว่า Omokaru-san Daikoku-sama มีพลังพิเศษที่เชื่อว่าหากนั่งข้างหน้ารูปปั้นนี้แล้วยกรูปปั้นขึ้น วางลงและภาวนาว่า “หากคำอธิษฐานจะเป็นจริงขอให้ยกขึ้น หากจะไม่เป็นจริงขอให้ยกไม่ขึ้น” แล้วจึงยกขึ้นอีกครั้ง หากครั้งที่สอง ยกแล้วรู้สึกรูปปั้นเบาลง แปลว่า คำอธิษฐานจะเป็นจริงดั่งที่หวังไว้ ในปัจจุบัน โอโมคารุซัง ไดโคคุซามะถูกตั้งไว้ตรงตำแหน่งเดิมที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เคยตั้งอยู่