| John Asano
ปราสาทสุโนะมาตะ: ปราสาทในตำนานที่สร้างเสร็จในชั่วข้ามคืนแห่งจังหวัดกิฟุ
ปราสาทสุโนะมาตะ เป็นปราสาทในตำนานของญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ใกล้โอกากิ จังหวัดกิฟุ ตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาเยี่ยมชมเพราะเป็นสถานที่ที่มีเรื่องเล่าอันยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งที่อยู่เบื้องหลังการก่อสร้าง
Table of Contents
ปราสาทที่สร้างเสร็จในชั่วข้ามคืน
ปราสาทสุโนะมาตะเป็นที่รู้จักในชื่อ ปราสาทอิจิยะ (ปราสาทคืนเดียว) ซึ่งได้มาจากตำนานที่บอกว่าปราสาทแห่งนี้สร้างเสร็จในคืนเดียวโดยซามุไรชั้นนายพลอย่าง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (1537 - 1598) ก่อนการโจมตีปราสาทกิฟุหรือปราสาทอินะบายะมะในสมัยนั้นโดยกองกำลังของขุนนางอันทรงพลังอย่างโอดะ โนบุนากะ (1534 - 1582)
ในปี 1567 โนบุนากะสั่งการให้สร้างปราสาทขึ้นบริเวณพื้นที่ติดต่อกับอาณาเขตของศัตรูเพื่อเป็นป้อมสำหรับการโจมตีครั้งสุดท้ายที่ปราสาทหลักของตระกูลซาอิโตะที่ตั้งอยู่ในเมืองกิฟุ ความสำเร็จในการก่อสร้างของปราสาทแห่งนี้ส่งผลให้โนบุนากะเอาชนะกองทหารที่ตั้งอยู่ที่กิฟุและได้ขึ้นมาเป็นผู้ปกครองของอาณาจักรมิโนะ (จังหวัดกิฟุในปัจจุบัน) เหตุการณ์นี้เป็นก้าวสำคัญในการเข้ายึดครองเกียวโตและการรวมประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามระหว่างรัฐ (1467 - 1615)
ความเป็นจริงแล้ว ป้อมปราการแห่งนี้ใช้เวลาสองถึงสามวันในการสร้างโครงสร้างสำหรับการป้องกันขั้นพื้นฐาน การเร่งการก่อสร้างปราสาทให้เร็วที่สุดก่อให้เกิดภาพลวงตาว่าสร้างเสร็จใน "ชั่วข้ามคืน" ที่ทั้งสร้างความประหลาดใจและข่มขวัญเหล่าศัตรู
ปราสาทสมัยใหม่
ปราสาทสุโนะมาตะถูกสร้างใหม่ด้วยคอนกรีตซึ่งแตกต่างจากป้อมปราการไม้แบบดั้งเดิมในอดีต ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการรอบนอกมากกว่าจะเป็นปราสาทเต็มรูปแบบที่มีอาคารหลัก
ป้อมปราการไม้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีการประกอบไว้ล่วงหน้าชาญฉลาด โครงสร้างกำแพงที่เป็นไม้เป็นที่ตั้งของหอสังเกตการณ์ รั้วไม้ และคูน้ำแห้งที่มีความเรียบง่ายเพื่อข่มขู่และทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงเสียขวัญ
ปราสาทในปัจจุบันนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำซาอิซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 1991 และเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น หอคอยของปราสาทหลักนั้นก่อสร้างตามแบบของปราสาทโอกากิ
การขึ้นมาเรืองอำนาจของฮิเดโยชิ
ความสำเร็จในการสร้างปราสาทแห่งนี้ส่งเสริมบารมีและอำนาจของฮิเดโยชิและโนบุนากะเป็นอย่างมากและเป็นจุดเริ่มต้นของการเรืองอำนาจของเขา
เขากลายเป็นหนึ่งในแม่ทัพแถวหน้าของโนบุนากะและสืบสานการรวมประเทศญี่ปุ่นหลังการเสียชีวิตของโนบุนากะ
คุณจะพบกับรูปปั้นของฮิเดโยชิที่ปลายสุดของสะพานที่พาคุณไปยังปราสาทซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจให้นึกถึงประวัติศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้
น้ำเต้าที่เรียงราย
ในประเทศญี่ปุ่นน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและคุณจะได้พบกับน้ำเต้าจำนวนหนึ่งรอบ ๆ ปราสาทสุโนะมาตะซึ่งมีความเชื่อมโยงที่สำคัญกับฮิเดโยชิซึ่งเขาเป็นซามุไรที่หลงรักน้ำเต้าเป็นอย่างมากจนใช้ "หนึ่งพันน้ำเต้า" เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของเขาและน้ำเต้าเหล่านี้ได้นำความโชคดีมาให้เขาเป็นอย่างมากระหว่างการก่อสร้างปราการแห่งนี้และชัยชนะเหนือตระกูลซาอิโตะในกิฟุในเวลาต่อมา
โอซาก้ายังคงใช้สัญลักษณ์แห่งการต่อสู้นี้เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ฮิเดโยชิสร้างปราสาทโอซาก้าและเป็นที่ตั้งสำหรับการบริหารในโอซาก้าช่วงสมัยที่เขาเป็นผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงแบบจำลองของปราสาทแบบดั้งเดิมพร้อมกับมีอาวุธและชุดเกราะของซามุไรในสมัยนั้นมาจัดแสดงอีกด้วยโดยพิพิธภัณฑ์จะเน้นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของปราสาท รวมถึงความรู้เกี่ยวกับชีวิตของฮิเดโยชิตั้งแต่เกิดจนเขาได้ขึ้นปกครองญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างโนบุนากะและตระกูลซาอิโตะจัดแสดงอีกด้วย
วิวจากด้านบนของอาคารหลักของปราสาทดูแล้วน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ในวันที่อากาศแจ่มใส คุณอาจมองเห็นปราสาทกิฟุที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคินคะทางเหนือ และตึกสูงของนาโกย่าที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตรและด้านบนของปราสาทจะมีชาจิจากทองคำแท้ (鯱) ประดับอยู่ซึ่งเป็นชาจิเพียงหนึ่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น
ชาจิหรือชาจิโฮโกะเป็นสัตว์ในตำนานของญี่ปุ่นที่มีหัวเป็นเสือและตัวเป็นปลาคาร์พโดยมีความเชื่อว่าชาจิจะปกป้องวัดและปราสาทจากไฟเพราะมีพลังเรียกฝนให้ตกลงมาได้
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม
ช่วงเวลาที่ดี่ที่สุดในการไปชมปราสาทสุโนะมาตะ คือ ช่วงซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิโดยที่รอบ ๆ ปราสาทและบริเวณใกล้เคียงมีต้นซากุระพันธุ์โยชิโนะเรียงรายกว่า 1,000 ต้น
ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดี่ที่สุดของกิฟุ ช่วงกลางคืน ตัวปราสาทมีการประดับไฟเป็นฉากหลังที่งดงามสำหรับการชมซากุระยามค่ำคืน
อุโมงค์ซากุระ
ถนนริมแม่น้ำรอบปราสาทเรียงรายไปด้วยซากุระที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์ซากุระในฤดูใบไม้ผลิซึ่งการเดินชมซากุระที่บานสะพรั่งช่วงปลายเดือนมีนาคมนั้นเป็นอะไรที่ตระการตาเป็นอย่างมาก
บทสรุป
"ปราสาทสุโนะมาตะเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากลองเดินทางออกนอกเส้นทางหลักและอยากพบกับปราสาทอันน่าสนใจพร้อมเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่แล้วละก็ ปราสาทแห่งนี้ตอบโจทย์ของคุณอย่างแน่นอน ดั้งนั้น บริเวณโดยรอบโอกากิจึงคุ้มค่ากับการเดินทางไปเยี่ยมเยือนเป็นอย่างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเดินทาง
นั่งรถไฟสาย JR Tokaido จากสถานี JR Nagoya ไปยังสถานี Ogaki ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าโดยสาร ¥770 (ขาเดียว) จากทางออกทิศใต้ของสถานี JR Ogaki ให้นั่งรถบัส Meihan Kintetsu มุ่งหน้า Gifu Shotoku Gakuen ไปลงที่ป้ายรถเมล์ Sunomata จากนั้น เดินเพียง 5 นาทีก็ถึงปราสาทสุโนะมาตะแล้ว
Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information