กระท่อมภูเขา Enzanso ที่สวยงามและเป็นที่รักของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่บนสันเขาใกล้กับยอดเขาทสึบาคุโระ ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือฉลองครบรอบ 100 ปีในปีนี้ ในบทความนี้ เราจะเล่าถึงประวัติศาสตร์ของกระท่อม ตลอดจนเคล็ดลับความสำเร็จที่ดึงดูดให้นักปีนเขากลับมาพักซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา

วิวัฒนาการของการปีนเขาและกระท่อมในญี่ปุ่น

แม้การเดินป่าจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในญี่ปุ่นประชากรประมาณ 10% ชื่นชอบการเดินป่า แต่ความเป็นจริงแล้วในอดีต การปีนเขาไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนัก มีคนคิดว่าภูเขาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานควรแสดงความเคารพจากพื้นที่ไกลออกไป เพราะมีความเชื่อว่าภูเขามีหน้าที่ในการรับใช้ศาสนา ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ความรู้สึกในการปีนเขานั้นเปลี่ยนไปโดยเปลี่ยนจากการปีนเขาเพื่อแสวงหาจิตวิญญาณเป็นการสำรวจและกีฬา ต่อมาชาวยุโรปได้จ้างให้รัฐบาลเมจิพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้มีกระท่อมภูเขากว่า 80 หลังในบริเวณแอลป์ทางเหนือ แต่ก่อนที่การเดินเขากลายเป็นกิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลินนั้น มีเพียงที่พักพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกพื้นฐานสำหรับนายพรานและนักตัดไม้เพื่อมาพักเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 หนังสือและนิตยสารเริ่มตีพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับการปีนเขาในประเทศทำให้กลุ่มนักปีนเขาของญี่ปุ่นเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1905 ความสนใจในตัวเจแปนแอลป์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและใช้เวลากว่าสองทศวรรษเพื่อทำให้ความนิยมในการปีนเขาเพิ่มขึ้นเหมือนในปัจจุบัน กระแสความนิยมดังกล่าวมาพร้อมกับจำนวนที่พักที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับนักปีนเขาที่เพิ่มจำนวนขึ้นอีกด้วย

Enzanso: กระท่อมต้นแบบที่ได้รับความนิยม

Enzanso เป็นหนึ่งในกระท่อมแรก ๆ ที่สร้างขึ้นในแอลป์ซึ่งได้รับการสนับสนุนการก่อสร้างโดยนักปีนเขาชิฮิโระ อะคานุมะ และสร้างเสร็จสิ้นในปี 1921 ต่อมามีที่พักยาริซาวะ ในปี 1918 และกระท่อมโจเน็น ในปี 1919 ต่อมามีการซ่อมแซมและขยายขนาดอยู่นานหลายปีเพื่อเพิ่มที่พักซึ่งเคยจุคนได้ 50 คนเป็นที่พักขนาดใหญ่ที่พร้อมด้วยความสะดวกสบายสำหรับ 650 คน

จำนวนนักท่องเที่ยวมาที่ Enzanso เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมาพร้อมชื่อเสียงที่โด่งดังในฐานะกระท่อมบนภูเขาที่ดีที่สุดและเป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี การสำรวจนั้นจัดทำโดยสำนักพิมพ์กิจกรรมกลางแจ้งและเว็บไซต์ออนไลน์ได้จัดอันดับให้อยู่สถานที่แห่งนี้อยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่องในหมวดหมู่ต่างๆ เช่น 'กระท่อมภูเขาที่โปรดปราน' 'กระท่อมที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 จากนักปีนเขา' และ 'อันดับ 1 กระท่อมที่นักปีนเขามีความสุขที่ได้พัก' มีคำอธิบายมากมายเกี่ยวกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ลองมาดูที่คำอธิบายหลักบางส่วนกัน

ความลับของความสำเร็จของ Enzanso

สิ่งที่เขียนต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของฉันเองที่ใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการเดินป่าทั่วเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ ฉันได้จัดความประทับใจของฉันออกเป็นสี่หมวดหมู่หลักเพื่อให้เข้าใจอย่างง่ายดาย : ทิวทัศน์ จุดยุทธศาสตร์ การให้บริการ และสไตล์ โดยแยกออกเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ เรามาดูกันเลย

ทิวทัศน์สุดแสนสวยงาม

ภูเขาไฟทสึบาคุโระ

Enzanso ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,712 ม. และอยู่ห่างจากยอดเขาทสึบาคุโระที่มีความสูง 2,763 ม.เพียง 1 กม. หินธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ผุกร่อนและถนนทรายสีขาวละเอียดเรียงรายไปตามเส้นทางสู่ยอดเขานั้น ทำให้เป็นภูเขาที่สวยงามมาก เส้นทางนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน่าจดจำ ทสึบาคุโระมีชื่อเสียงหินรูปร่างคล้ายสัตว์หรือรูปร่างอื่น ๆ เช่น 'หินปลาโลมา' และ 'หินแว่นตา' ความเฉพาะตัวนี้ทำให้ทสึบาคุโระได้รับสมญานามว่า "ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ"

วิว 360 องศาที่ตรึงตาตรึงใจ

นอกจากภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของภูเขาทสึบาคุโระแล้ว ความงดงามของทิวทัศน์รอบ ๆ Enzanso ยิ่งเผยความสวยงามไปทุกทิศทุกทางอย่างแท้จริง คุณจะได้พบกับมุมกว้างของภูเขาที่ตั้งอยู่โดยรอบทั้งใกล้และไกล ตัวเมือง หมู่บ้าน และทุ่งนาด้านล่างที่ละสายตาไม่ได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักมองไปทางทิศตะวันตกที่มียอดเขาสูงตระหง่านที่ความสูง 3,000 ม.ของเทือกเขาโฮทากะเหนืออาคารหลักแห่งนี้เป็นหนึ่งในบริเวณที่โดดเด่นและน่าประทับใจที่สุดของญี่ปุ่น ภูเขายาริ สูง 3,180 ม. หรือที่รู้จักในชื่อ "เขามัทเทอร์ฮอร์นแห่งญี่ปุ่น" ซึ่งได้ชื่อนี้มาจากความโดดเด่นของหินที่แหลมคมซึ่งชมวิวที่สวยงามนี้ได้จาก Enzanso

พันธุ์พืชและสัตว์หายากบนภูเขาสูง

ความยิ่งใหญ่ของแอลป์ตอนเหนือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความงามที่สามารถสัมผัสได้จาก Enzanso กระท่อมแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่คุ้มครองพิเศษ โดยมีความพยายามที่จะอนุรักษ์พืชและสัตว์ที่หายากและมีเอกลักษณ์พิเศษบนเทือกเขาแอลป์

บริเวณรอบกระท่อม คุณจะได้พบกับดอกไม้อัลไพน์หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง แต่ที่พิเศษที่สุดคือโคมาคุสะ ดอกไม้ที่มีความละเอียดอ่อนและพบได้ยาก โดยจะมีเฉพาะถิ่นบนภูเขาของญี่ปุ่น และเติบโตได้ดีในดินทรายหินแกรนิตระหว่างกระท่อมและยอดเขาทสึบาคุโระช่วงกลางฤดูร้อน กลีบดอกมีสีชมพูสดใสลำต้นสีเขียวตัดกันอย่างสวยงามกับเฉดสีของดินสีน้ำตาลและเทา หากคุณโชคดี คุณอาจได้พบกับโคมาคุสะสีขาวที่หายากอีกด้วย!

สัตว์ป่าที่ได้รับความชื่นชอบที่สุด คือ นกไรโช หรือ Japanese Rock Ptarmigan นกไรโชเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า 雷鳥 และแปลตามตัวอักษรว่า "นกสายฟ้า" นกตัวนี้เป็นลูกหลานของประชากร ptarmigan ที่อพยพลงมาทางใต้มาถึงญี่ปุ่นในช่วงยุคน้ำแข็งสุดท้ายและตั้งรกรากถาวรในพื้นที่เทือกเขาแอลป์สูงทั่วภูมิภาคชูบุ (ภาคกลางของญี่ปุ่น) ที่เป็นแนวเทือกเขาหลักของประเทศ นักปีนเขามักตื่นเต้นเมื่อได้พบนกไรโชเพราะจำนวนของนกชนิดนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแทรกแซงของมนุษย์ และจำนวนผู้ล่าที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังพบเจอนกไรโชบางส่วนและทำรังอยู่ใกล้ ๆ Enzanso

จุดยุทธศาสตร์

เมื่อปีนขึ้นไปยัง Enzanso และภูเขาทสึบาคุโระนั้นถือเป็นการเดินเขาที่หนักวันนึงโดยเดินจากนาคาบุสะ ออนเซ็น บริเวณนี้มักเป็นจุดแวะพักค้างคืนก่อนเดินทางต่อในวันที่สอง นอกจากนี้ยังเป็นจุดพักให้นักปีนเขาที่ต้องการปีนเขาที่ใช้เวลาหลายวันในเจแปนแอลป์: โอโมเตะกินซ่า และพาโนรามากินซ่า ความที่บริเวณนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเขาสองเส้น ทำให้ Enzanso ประสบความสำเร็จอย่างมาก

เส้นทางโอโมเตะกินซ่า

เส้นทางโอโมเตะกินซ่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามที่ทอดตัวจากภูเขาทสึบาคุโระไปถึงภูเขายาริ การเดินทางมักใช้เวลาประมาณ 4 วัน 3 คืน โดยค้างคืนที่ Enzanso, Hutte Nishi-Dake และ Yarigatake Sanso จริง ๆ แล้ว เส้นทางโอโมเตะกินซ่าเป็นเพียงเส้นทางเดียวที่ไปถึงภูเขายาริ เริ่มต้นที่จังหวัดนากาโนะ ความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของภูเขายารินั้นมีจุดเปลี่ยนในศตวรรษที่ 20 และมีความต้องการที่พักค้างคืนระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นที่มาของการก่อสร้าง Enzanso

เส้นทางพาโนรามากินซ่า

8 กิโลเมตรแรกของเส้นทางโอโมเตะกินซ่าและพาโนรามากินซ่านั้นอยู่บนเส้นทางเดียวกันโดยเริ่มจากนาคาบุสะ ออนเซ็นและผ่านไปยัง Enzanso ก่อนที่จะมุ่งหน้าลงทิศใต้ตามเทือกเขาโอเท็นโช เส้นทางจะแยกออกเป็นสองเส้นทางก่อนถึงจุดปีนเขาสุดท้ายของโอเท็นโช: เลี้ยวไปด้านขวาจะเป็นโอโมเตะกินซ่าและภูเขายาริ ส่วนทางซ้ายจะเป็นพาโนรามากินซ่าและภูเขาโช เส้นทางพาโนรามากินซ่าไม่ได้พาคุณไปยังยอดเขายาริ แต่คุณจะได้เดินเป็นเส้นขนานไปยังยอดเขาที่น่าประทับใจ

การบริการเป็นเลิศ

บรรยากาศสุดพิเศษและการจัดการที่พิเศษเป็นเอกลักษณ์ของกระท่อมภูเขาหลายแห่งในญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้ Enzanso ต่างจากที่อื่น คือ การบริการอีกระดับนั่นเอง

การบริการสุดประทับใจ

Enzanso เป็นกิจการของครอบครัวอะคะนุมะ โดยเจ้าของปัจจุบันเป็นเจ้าของรุ่นสาม แม้ว่าสำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองมัตสึโมโตะ แต่เจ้าของยังคงอาศัยในกระท่อมและต้อนรับลูกค้าเมื่อเดินทางมาเช็คอิน เล่น Alphorn ให้ฟัง หรือให้แนะนำและช่วยเหลือพนักงานของเขา คำขวัญของบริษัทคือ "明るく楽しい" ซึ่งแปลว่า "สดใสและสนุกสนาน" ซึ่งสรุปบรรยากาศได้อย่างลงตัว พนักงานได้รับการฝึกอบรมให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุดและให้ความสำคัญกับความสะอาดเป็นพิเศษ การอุทิศตนเพื่อการต้อนรับแขกนี้ทำให้ Enzanso เป็นเหมือนโรงแรมมากยิ่งขึ้น

อาหารแสนอร่อย

สิ่งสำคัญอย่างนึงของการบริการที่พัก คือ คุณภาพของอาหาร ฉันที่เคยพักที่ Enzanso มาหลายครั้งแล้ว สามารถพูดเลยว่าไม่มีเมนูไหนที่ฉันไม่ชื่นชอบเลย อาหารเย็นและอาหารเช้าแบบมาตรฐานนั้นอิ่มอร่อย อาหารกลางวันและของหวานก็ยอดเยี่ยม ชุดเค้กและกาแฟ Enzanso มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งลูกค้าเลือกเค้กได้หลากหลายแบบและจับคู่กับกาแฟร้อนหรือเย็น คนส่วนใหญ่บอกความสุขอย่างหนึ่งของการปีนภูเขา คือ อาหารรสชาติยอดเยี่ยมเมื่ออยู่บนเขา แต่เมื่อสิ่งนั้นคือชีสเค้กและกาแฟ คุณไม่อาจบรรยายความสุขนั้นออกมาเป็นคำพูดได้เลย

สไตล์ที่แตกต่าง

ดีไซน์และการก่อสร้างที่สง่างาม

พูดง่าย ๆ Enzanso เป็นกระท่อมที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม ระหว่างการก่อสร้างอาคารปัจจุบันใหม่ในปี 1935 มีการปรึกษาสถาปนิกชั้นนำหลายคนในการวางแผนการก่อสร้าง ผลของความพยายามเหล่าคงอยู่เหนือกาลเวลา Enzanso ยังคงอยู่ในสภาพที่สวยงาม นอกจากนี้มีการสร้างบางส่วนเพิ่มเติมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยยังคงรักษาลักษณะเดิมโดยเฉพาะการออกแบบฉบับดั้งเดิม และการออกแบบนั้นยังผสมผสานกันอย่างลงตัวตั้งแต่เป็นห้องพักไปจนถึงห้องอาบแดดและจากห้องอาหารไปจนถึงโถงทางเดิน

ศิลปะนั้นมีเกินตัวอาคารไปมากและคุณจะเห็นได้ทั้งในงานศิลปะที่ประดับผนังและสินค้าของ Enzanso ที่วางจำหน่ายในกระท่อม สิ่งที่คุณได้สัมผัสและมีจำหน่าย คือ ผลงานของศิลปิน ชื่อว่า อุเมะทาโระ อะเซชิ ผู้ผลิตภาพพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สำคัญ ๆ ทั่วโลก อะเซชิเป็นนักปีนเขาและเขาได้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกระท่อมแห่งนี้ และภาพพิมพ์ที่เก่าแก่ของเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Enzanso

การเดินทางไป Enzanso

การเดินทางจากนาโกย่าไป Enzanso นั้นแบ่งออกเป็น 3 ช่วง: เดินทางไปยังเมืองอะซึมิโนะ เดินทางต่อไปยังนาคาบุสะ ออนเซ็น และการเดินเขาสู่ตัวกระท่อม

การเดินทางไปอะซึมิโนะ

เมื่อมุ่งหน้าไปยังอะซึมิโนะเพื่อปีนขึ้นไปยัง Enzanso และภูเขาทสึบาคุโระ จุดที่เดินทางไปแล้วสะดวกที่สุดคือ สถานี Hotaka วิธีการเดินทางที่เร็วและสะดวกที่สุดจากนาโกย่า คือ การนั่งรถไฟ Limited Express Wide-View Shinano บนสาย JR ไปยังสถานี Matsumoto และเปลี่ยนรถไฟเป็นขบวนที่มุ่งหน้า Shinao-Omachi บนสาย Oito ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงและค่าใช้จ่ายขาละประมาณ ¥7,000 นอกจากนี้ยังมีรถไฟขบวนที่ช้ากว่าหรือนั่งรถไฟร่วมกับรถบัสซึ่งค่าโดยสารจะถูกกว่า แต่ก็ใช้เวลามากกว่าเช่นกัน คุณออกเดินทางจากนาโกย่าได้เร็วที่สุด คือ 7:00 น.และจะถึงสถานี Hotaka ตอน 9:50 น.

การเดินทางไปคาบุสะ ออนเซ็น

คุณสามารถนั่งบัสหรือแท็กซีจากสถานี Hotaka ไปยังคาบุสะ ออนเซ็นได้ ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 21 กม. และใช้เวลาประมาณ 50 นาทีโดยรถยนต์ผ่านถนนเลาะภูเขาที่ยาวและมีลมพัดแรง ค่าโดยสารแท็กซีอยู่ที่ประมาณ ¥8,500 และค่าโดยสารรถบัสอยู่ที่ ¥1,800 จำนวนรถบัสและเวลาของรถขึ้นอยู่กับฤดูกาล เราแนะนำให้คุณหาตารางเวลาล่วงหน้า และเราได้แนบลิ้งค์ตารางเวลารถบัสปี 2021 (PDF) ให้คุณแล้ว

การปีนเขาสู่ Enzanso

การปีนเขาสู่ Enzanso เริ่มต้นที่ความสูง 1,450 ม. ที่นาคาบุสะ ออนเซ็นและความชันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 1,250 ม. ในระยะทาง 5 กม. ไปยังสันเขาและกระท่อม เส้นทางนั้นสูงชันแต่ได้รับการดูแลอย่างดี ทำให้ปราศจากอันตรายทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีม้านั่งสำหรับพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ ตลอดทาง และก็มีกระท่อมคัสเซ็น ห่างจากจุดเริ่มต้นประมาณ 3 กม. และห่างจาก Enzanso 2 กม. เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการหยุดพักและเป็นจุดเพิ่มอาหารและเครื่องดื่มหากจำเป็น แผนที่เดินป่าของยามาโตะโคเก็น บอกว่าเส้นทางนี้ใช้เวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมงครึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วจะใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 6 ชั่วโมง

Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information