ถ้าพูดถึงซากุระดอกไม้แห่งฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงซากุระ ความรักของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อซากุระนั้นลึกซึ้งและพวกเขามักจะแสดงออกมาให้เห็นในเพลงญี่ปุ่น

ในเพลงป๊อปของญี่ปุ่น มีเพลงที่่ใช้คำว่าดอกซากุระในเพลงอยู่หลายเพลง นอกจากนี้เมื่อนานมาแล้วในสมัยยุคกลางมีกลอนสั้นที่เขียนว่า "หากโลกนี้ไม่มีดอกซากุระ ฉันคงจะใช้เวลาอย่างสงบในฤดูใบไม้ผลิได้” ถือเป็นการแสดงออกถึงหัวใจของคนญี่ปุ่นมีความสนใจเกี่ยวกับการบานของดอกซากุระ ถือเป็นผลงานที่น่าสนใจที่แสดงให้เห็นว่าความรักที่มีต่อดอกซากุระไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 1200 ปีที่แล้ว

คุณรู้หรือไม่ว่ามี "จุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง 3 แห่งในญี่ปุ่น" ที่คุณสามารถสัมผัสความงามของดอกซากุระได้อย่างเต็มอิ่ม
ภูเขาโยชิโนะ (จังหวัดนารา), สวนฮิโรซากิ (จังหวัดอาโอโมริ) และสวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ (จังหวัดนากาโนะ)

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ "สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ" ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของดอกซากุระซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะของทาคาโตมาจิ เมืองอินะ จังหวัดนากาโนะ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 ต้น ทิวทัศน์ของ"สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ"ที่สามารถชมได้แค่เฉพาะในญี่ปุ่นและยังเป็นที่เดียวในโลก ความงามของทิวทัศน์ที่สัมผัสไปยังหัวใจของผู้ที่มาเยี่ยมชม ด้วยเหตุนั้นที่นี่จึงได้รับขนานนามว่า "ซากุระอันดับหนึ่งของโลก" และเป็นที่รักของผู้คนทั้งหลาย

ปกติแล้วเวลาที่ชาวต่างชาตินึกถึงดอกซากุระ มักจะนึกถึงดอกซากุระในโตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฯลฯ ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่เนื่องจากจังหวัดนากาโน่อยู่บนที่ราบสูง ดอกซากุระจึงบานในช่วงต้นถึงปลายเดือนเมษายน ด้วยเหตุนี้การบานของดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะในจังหวัดนากาโนะจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้น ๆ โดยจะบานเต็มที่พร้อมชมในช่วงต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะได้ที่เว็บไซต์

"ซากปราสาททาคาโตะ" เป็นที่แบบไหน

ประวัติศาสตร์

คำว่า "โจชิ" หมายถึง "ซากปราสาท" ในภาษาญี่ปุ่น “ ซากปราสาททาคาโตะ” เป็นที่ตั้งของ“ ปราสาททาคาโตะ” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทซามูไร สันนิษฐานว่าเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 แต่ไม่ทราบปีที่สร้างที่แน่นอน

ในช่วงเซ็งโกะคุ (ประมาณศตวรรษที่ 16) อยู่ในเขตปกครองของทะเคะดะ ชินเก็น ผู้บัญชาการทหาร ปัจจุบันคือจังหวัดยามานาชิ ใน อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1582 ปราสาทแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันดุเดือดจากการถูกโจมตีโดยศัตรูอย่างโอดะ

หลังจากนั้นในช่วงยุคเอโดะที่สงบสุข (1603-1868) ครอบครัวซามูไร 3 คน (นายโฮชินะ นายโทริอิและนายไนโต) ได้สืบทอดและคอยดูแลรักษาปราสาทจากรุ่นสู่รุ่น

จากนั้นยุคเอโดะก็สิ้นสุดลงและญี่ปุ่นก็เริ่มเข้าสู่เส้นทางแห่งประเทศสมัยใหม่ ปราสาททาคาโตะก็ถูกทิ้งร้างในปี ค. ศ. 1872 ตั้งแต่อาคาร พระราชวัง ประตูไปจนถึงหินในสวนและต้นไม้ รวมไปถึงสิ่งของส่วนใหญ่ในปราสาทถูกขายให้กับภาคเอกชนและแทบไม่หลงเหลือแล้วในปัจจุบัน

วิธีไป

“สวนซากปราสาททาคาโตะ” ตั้งอยู่ในเมืองอินะจังหวัดนากาโนะ

◎จากสถานีนาโกย่าต่อรถไฟและรถประจำทางไปประมาณ 4 ชั่วโมง

นั่ง JR Chuo Line “Limited Express ชินาโนะ หมายเลข 7 ปลายทางสู่นากาโนะ” จากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีชิโอะจิริ
จากนั้นนั่งรถไฟ JR Chuo Main Line branch line "รถไฟ local ปลายทางทะทสึโนะ" สถานีชิโอะจิริไปยังสถานีทะทสึโนะ
จากนั้นขึ้นรถไฟสาย JR อิดะ "รถไฟ local ปลายทางเท็นริวเคียว " จากสถานีทะทสึโนะ - สถานีอินะคิตะ
จากนั้นขึ้นรถบัส “โนเกียวโคโค -อินะ -ทาคาโตะ- ทาคาโตะโคโค” มุ่งหน้าไปยังสถานีทาคาโตะ จากสถานีอินะชิ
จากสถานีทาคาโตะ เดินไปยังจุดหมายใช้เวลา 17 นาที

• Spot Info

ทำไม“ ซากปราสาททาคาโตะ” จึงกลายเป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียง

ในปี ค.ศ. 1875 หลังจากที่ปราสาททาคาโตะถูกทำลายไป 3 ปี รัฐบาล ณ เวลานั้นได้ตอบสนองนโยบายการปรับปรุงใหม่ โดยตัดสินใจให้สร้างสวนสาธารณะขึ้น การตัดสินใจในครั้งนั้นทำให้ปราสาททาคาโตะกลายมาเป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงในวันนี้

ในปี ค.ศ. 1876 อดีตซามูไรในท้องถิ่นได้ขุดดอกซากุระจาก "ซากุระโนะบาบะ" และนำมาปลูกในสวนสาธารณะ "ซากุระโนะบาบะ" เป็นคอกม้าที่ตั้งอยู่ใต้ปราสาททาคาโตะ นี่คือสถานที่ที่ซามูไรใช้ฝึกม้าในช่วงสมัยเอโดะ คอกม้านั้นเรียงรายไปด้วยต้นซากุระขนาดใหญ่ที่เต็มสองข้างทางของ นำมาสู่การตัดสินใจในการปลูกซากุระในสวนสาธารณะ

ด้วยเหตุนี้ดอกซากุระที่นำปลูกในวันนั้นจึงกลายเป็นต้นกำเนิดของดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะในปัจจุบัน ปัจจุบันมีการปลูกต้นซากุระประมาณ 1,500 ต้นรอบ ๆ ซากปราสาท ในบรรดาต้นซากุระมีต้นที่มีอายุมากกว่า 140 ปี 20 ต้นและมี 500 ต้นที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

นอกจากนี้สาเหตุที่ดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะมีความพิเศษก็คือพันธุ์ของพวกมันนั่นเอง ดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะเป็นพืชเฉพาะถิ่นของ "ทาคะโตะโอะโคะฮิกันซากุระ" ในปีค. ศ. 1960 ที่นี่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติในจังหวัดนากาโน่ในนามว่า "ป่าทาคาโตะโคะฮิกันซากุระ"

“ ทาคาโตะโคะฮิกันซากุระ” มีลักษณะเด่นคือมีดอกสีแดงขนาดเล็กและมี ลำต้นที่คดเคี้ยวเหมือนกับมังกรอันทรงพลัง

วิธีชม "ซากุระที่ซากปราสาททาคาโตะ" ให้สนุก

หากต้องการชม "ซากุระที่ซากปราสาททาคาโตะ" เราขอแนะนำ 2 วิธีในการชมให้สนุก หนึ่งคือการชมดอกซากุระในบริเวณใกล้เคียงในสวนซากปราสาททาคาโตะ และสองคือมีจุดรอบ ๆ สวนซากปราสาททาคาโตะที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระได้

นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้คุณเช็คข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเวลาดอกซากุระบานล่าสุด ,วันและช่วงเวลาที่มีคนค่อนข้างน้อย อย่าลืมเช็คข้อมูลที่เราแนะนำด้วยล่ะ

เลือกชมไฮไลท์ของ "สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ"

สะพานซากุระอุงเคียว

สะพานซากุระอุงเคียวเป็นจุดไฮไลท์วิวสวยที่พลาดไม่ได้ของสวนซากปราสาททาคาโตะในช่วงฤดูซากุระบาน โดยชื่อของสะพานนี้มาจากความจริงที่ว่าเมื่อคุณมองไปยังดอกซากุระบานสะพรั่ง มันจะดูเหมือนเป็นกลุ่มก้อนเมฆ และเมื่อคุณข้ามสะพานไปก็จะพบดอกซากุระก็อยู่ไม่ไกล ความรู้สึกที่เหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในโลกของดอกซากุระนั้นถือเป็นสเน่ห์ของที่นี่

นอกจากนี้หากคุณถ่ายภาพจากใต้สะพานนี้ คุณจะสามารถถ่ายภาพท้องฟ้าที่ดูเหมือนรูปหัวใจโดยดอกซากุระได้ เป็นจุดภาพที่เป็นที่ฮือฮาใน SNS หากได้มีโอกาสมาที่นี่ล่ะก็ อย่าลืมมาแวะที่นี่ด้วย

ทาคาโตะกะคุ

ทาคาโตะกะคุสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1936 จากการบริจาคของอาสาสมัครในท้องถิ่น เป็นอาคารไม้สองชั้นหลังคาสไตล์เอเชียตะวันออกแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าอิริโมะยะ ดุคุริ ผู้ออกแบบคือคุณอิโตะ บุนชิโระจากจังหวัดนากาโนะ ผู้ออกแบบโรงแรมอิมพีเรียลและสำนักงานใหญ่ NYK และในปี 2002 ทาคาโตะกะคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ระดับชาติ

อาคารหลังคาสีแดงที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลนั้นถือเป็นจุดเด่นของซากปราสาท ในฤดูใบไม้ผลิ สีที่ตัดกันระหว่างความแตกต่างระหว่างทาคาโตะกะคุและต้นซากุระนั้นสวยงามมาก จนทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม

โฮโดอินคุรุวะ

“โฮโดอินคุรุวะ” ตั้งอยู่ใกล้ประตูทางทิศใต้ของสวนซากปราสาททาคาโตะ ในช่วงเซ็งโกะคุ (ประมาณศตวรรษที่ 16) ที่นี่มีวัดชื่อว่า "โฮโดอิน"

"คุรุวะ" เป็นชื่อของพื้นที่ที่แบ่งตามแนวคันดิน กำแพง หินคูเมือง ฯลฯ ทุกวันนี้ซากของคุรุวะเป็นเหมือนเนินเขา สามารถนั่งชมซากุระบานไปทั่วบริเวณจากตรงนั้นได้ การถูกรายล้อมด้วยกลีบดอกซากุระจะทำให้คุณรู้สึกสงบและสบาย

จุดไฮไลท์ในการชมซากุระรอบ ๆ สวนซากปราสาททาคาโตะ

“คะทสึมะ ยะคุชิโด” ต้นซากุระเก่าแก่อายุ 140 ปี ที่ให้บรรยากาศอันสูงส่ง

"คะทสึมะ ยะคุชิโด" อยู่ห่างจากสวนซากปราสาททาคาโตะ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที จะเจอกับต้นซากุระเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง 2 ต้นมีอายุประมาณ 140 ปี ต้นซากุระมีกิ่งก้านห้อยย้อยลงมาและดอกซากุระบนต้นนั้นพลิ้วไหวไปตามสายลมอย่างสง่างาม ดอกซากุระในสวนซากปราสาททาคาโตะจะบานประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากบานได้เต็มที่ ดังนั้นต้องคอยเช็คเรื่องเวลาให้ดี
จากคะทสึมะ ยะคุชิโดคุณสามารถมองเห็นสวนซากปราสาททาคาโตะและยังสามารถมองเห็นทะเลสาบทาคาโตะและเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ได้อีกด้วย

ข้อมูลแนะนำ

จากข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดอกซากุระในสวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะจะบานโดยเฉลี่ยประมาณวันที่ 6 เมษายน อย่างไรก็ตามการบานของดอกซากุระนั้นมักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้และหลายครั้งก็ไม่เป็นไปตามที่คำนวณไว้ โดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิในขณะนั้น ตรวจสอบพยากรณ์การบานของดอกซากุระล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของ "เทศกาลชินชูอินะทาคาโตะซากุระ"

อีกทั้งในช่วงฤดูซากุระ ที่นั่นจะเต็มไปด้วยผู้คน เราขอแนะนำให้ไปชมในวันธรรมดาที่มีคนค่อนข้างน้อย ช่วงเวลาทีมีผู้คนน้อยคือในตอนเช้าและตอนกลางคืน หากคุณอยู่ใกล้สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระในตอนเช้าหรือไม่ก็ในตอนกลางคืน

สรุป

ดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่บานสะพรั่งในชั่วพริบตาและร่วงหล่นในเวลาอันสั้น ช่างเหมาะกับคำว่า "ชั่วคราว" เสียจริง ฉันคิดว่ามีคนญี่ปุ่นจำนวนมากที่คิดว่าดอกซากุระคล้ายกับการเวียนว่ายตายเกิดและยุคสมัย

ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 19 ญี่ปุ่นเริ่มมุ่งเป้าหมายไปยังการเป็นชาติสมัยใหม่แบบตะวันตกเพื่อพยายามไล่ตามประเทศแถบตะวันตก สังคมที่มีซามูไรเป็นศูนย์กลางจนถึง ณ เวลานั้นก็ได้สิ้นสุดลง เหล่าซามูไรได้วางมือจากปราสาทและดาบที่น่าภาคภูมิใจรวมถึงตัวตนของพวกเขาด้วย

อดีตซามูไรที่หายตัวไปท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ พวกเขาได้ปลูกดอกซากุระไว้บนที่ตั้งของปราสาทที่บรรพบุรุษของพวกเขาปกป้องมาหลายชั่วอายุคน นั่นคือดอกซากุระที่ซากปราสาททาคาโตะ อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเขาปลูกซากุระด้วยความรู้สึกอย่างไรกัน

ซากุระที่คุณรู้ประวัติศาสตร์และไปชมนั้น จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งมากขึ้น ดอกซากุระในบริเวณปราสาททาคาโตะนั้นอาจจะไปชมได้ยากเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม หากมาญี่ปุ่นแล้วห้ามพลาดมาแวะที่นี่

Click here to get the latest information on Central Japan.Centrip Japan - Nagoya and Chubu Information