พื้นที่ตอนกลางของญี่ปุ่นซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นาโกย่า เป็นที่อยู่ของสามวีรบุรุษที่อุทิศตนในการยุติยุคเซ็นโกคุหรือยุคแห่งสงครามภายใน เป็นช่วงเวลาของการรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่น กล่าวอีกนัยหนึ่งที่นี่คือบ้านเกิดของโอดะ โนบุนางะ, โตโยโตมิ ฮิเดโยชิ และโตกูกาวะ อิเอยะซึ และยังเป็นศูนย์กลางของยุคสงครามภายใน เนื่องด้วยพื้นที่ภูมิภาคชูบุเป็นพื้นที่เช่นนี้จึงมีปราสาทที่จัดเป็นสมบัติประจำชาติสามในห้าแห่งของประเทศญี่ปุ่นรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ แต่ละปราสาทมีลักษณะเฉพาะ และมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับปราสาทที่น่าสนใจอยู่มากมาย

ในบทความนี้ เราจะขอแนะนำปราสาท 13 แห่งในพื้นที่ภูมิภาคชูบุ และวิธีการเยี่ยมชมโดยรอบสำหรับผู้ที่ชื่นชมวัฒนธรรมซามูไรและสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่น

นาโกย่าและบริเวณโดยรอบ

ปราสาทนาโกย่า (เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ)

สถานที่แรกที่เราอยากจะแนะนำคือปราสาทนาโกย่า ปราสาทนาโกย่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้ว และเป็นศูนย์กลางของนาโกย่านับแต่นั้นเป็นต้นมา 「ชาจิโฮโกะสีทองหรือพยัคฆ์มัสยา 」ขนาดมหึมาที่วางอยู่บนยอดหอคอยปราสาทได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาโกย่า จากสถานีนาโกย่าคุณสามารถเดินทางมาที่นี้ได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที (สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ 「สถานีปราสาทนาโกย่า」)

ที่นี่ได้รับการยอมรับอย่างสูงและถูกเรียกขานในฐานะ「ปราสาทที่ขึ้นชื่อที่สุดสามแห่งของญี่ปุ่น」พร้อมกับปราสาทโอซาก้าและปราสาทคุมาโมโตะ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พระราชวังฮอมมารุซึ่งเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ ที่ห้องโอโมะเทะโชอิน (ห้องที่ผู้ปกครองแคว้นใช้รับรองแขกผู้มาเยือน) ถูกตกแต่งอย่างระยิบระยับเพิ่มจุดที่น่ามองจนชวนให้ตะลึงเพราะความงาม

ภายในปราสาท คุณจะได้พบกับนักแสดงที่แต่งตัวเป็นโอดะ โนบุนางะ, ฮัตโตริ ฮันโซ หรือบุคคลที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับปราสาทนาโกย่าทั้งเหล่าผู้นำทางการทหาร และนินจา (การแต่งกายและท่าทางของพวกเขาเหมือนกับของจริง!) พวกเขายินดีที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับคุณ

สมบัติประจำชาติ ปราสาทอินุยาม่า (เมืองอินุยามะ จังหวัดไอจิ)

จากนาโกย่าขึ้นมาทางทิศเหนือเล็กน้อย เราจะมุ่งหน้าสู่สถานีอินุยาม่า ด้วยรถไฟสายเมอิเท็ตสึ จากสถานีนาโกย่าใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากลงที่สถานีอินุยามะและผ่านถนนหลัก「ฮอนมะจิโดโอริ」ที่มีชีวิตชีวา คุณจะมาถึงปราสาทอินุยาม่าที่ได้รับการลงทะเบียนให้เป็นสมบัติประจำชาติ

ปราสาทอินุยาม่าถูกสร้างขึ้นในปี 1537 กล่าวกันว่าหอคอยที่นี่เป็นหอคอยปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มุมมองจากหอคอยปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำคิโซะนั้นงดงามอย่างแท้จริง สำหรับคนที่เป็นโรคกลัวความสูงอาจจะทำให้คุณก้าวขาไม่ออกเพราะความสูง! ?

ด้วยความมีชีวิตชีวาของเมืองที่อยู่รอบๆ ปราสาทนั้น แม้แต่ในพื้นที่ภูมิภาคชูบุเมืองที่อยู่รอบๆ ปราสาทนั้น ก็สามารถแข่งขันได้ในฐานะเมืองอันดับ 1 หรือ 2 ร้านขนมหวานและร้านอาหารที่เหมาะกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมตั้งอยู่เรียงราย คุณยังสามารถลองนั่งรถลากและลองสวมชุดกิโมโนได้อีกด้วย และศาลเจ้าซังโกะอินาริศาลเจ้าที่เชิงปราสาทอินุยาม่าคุณสามารถเขียนคำอธิษฐานของคุณลงบนแผ่นขอพรรูปหัวใจสีชมพูสุดน่ารัก

ปราสาทกิฟุ

หากต้องการเดินทางไปยังปราสาทกิฟุ ให้ขึ้นรถไฟสาย JR โทไคโดหรือสายเมอิเท็ตสึจากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีกิฟุ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากสถานีกิฟุให้ขึ้นรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังปราสาท ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ปราสาทกิฟุเป็นปราสาทที่แข็งแกร่งซึ่งถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาคิงกะบนความสูง 329 เมตร โนบุนางะ โอดะได้ทำการเข้ายึดและกลายเป็นผู้ครองปราสาทแห่งนี้ โดยใช้ปราสาทกิฟุเป็นฐานในการรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่น เมื่อมองขึ้นไปที่หอคอยสูงตระหง่านของจากเชิงเขาจะเห็นได้ว่าที่นี่ยากแก่การเข้าโจมตี เส้นทางบนภูเขาสูงชันไปยังหอคอยปราสาทซึ่งโนบุนากะเคยเดินนั้นสามารถปีนขึ้นไปได้ภายในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณมั่นใจในความแข็งแกร่งของคุณ โปรดลองท้าทายตัวเองดู อย่างไรก็ตามหากคุณใช้กระเช้าลอยฟ้า คุณจะสามารถไปถึงยอดเขาได้ภายในเวลาประมาณ 4 นาที วิวจากหอคอยปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางที่ราบโนบินั้นงดงามมาก! โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกจะสวยงามเป็นพิเศษ

ตั๋วทัวร์ปราสาทเมอิเท็ตสึ 2 วัน ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 5,000 เยน ในตั๋วจะประกอบด้วยตั๋วที่ให้คุณเยี่ยมชมปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยาม่า และปราสาทกิฟุพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย (ตั๋วทัวร์ปราสาทเมอิเท็ตสึ 2 วัน คอร์ส D ทัศนศึกษา)

จากกิฟุขึ้นไปทางทิศเหนือ

ปราสาทกุโจฮาจิมัง (เมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ)

มุ่งหน้าไปทางเหนือประมาณหนึ่งชั่วโมงจากสถานีกิฟุโดยรถบัสหรือการเช่ารถขับเอง รอบบริเวณนี้สูงจากความสูงระดับน้ำทะเล และมีปราสาทบนยอดเขาที่มีชื่อเสียงหลายแห่งใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เป็นหุบเขานี้ ในบรรดาปราสาทเหล่านี้ปราสาทกุโจฮาจิมังเป็นปราสาทที่คุณควรไปเยี่ยมชมอย่างน้อยสักครั้ง นักประพันธ์ชาวญี่ปุ่นชื่อดังเรียวทาโร่ ชิบะ ได้กล่าวยกย่องให้ที่นี้เป็น「ปราสาทบนภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น」คุณสามารถสัมผัสความงดงามที่แตกต่างไปตามฤดูกาลที่คุณแวะเยี่ยมชม เช่น ในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาจะถูกย้อมเป็นสีแดงของใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวเมื่อภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

เมืองรอบๆปราสาทที่แผ่กระจายตัวออกไปด้านล่างของปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งน้ำแร่ที่สวยงาม เส้นโซบะที่ทำจากน้ำแร่ที่มีชื่อเสียง และอาหารอื่นๆ ก็อร่อยด้วยเช่นกัน ในฤดูร้อนจะมีงานเทศกาล 「กุโจโอโดริ」ที่ผู้คนจะออกมาเต้นรำตลอดทั้งคืน และที่นี่ยังมีงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมมากมาย เช่น งานย้อมสีผ้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลกุโจโอโดริ ซึ่งคุณสามารถซื้อเป็นของฝากและของที่ระลึกได้

ปราสาทเอจิเซ็น โอโนะ (เมืองโอโนะ จังหวัดกิฟุ)

หากคุณชื่นชอบขับรถท่องเที่ยว นี้อาจเป็นความคิดที่ดีหากจะขับรถไปจากกุโจฮาจิมังอีกเล็กน้อย ชื่นชมวิวทะเลสาบคุซูริวที่สวยงาม เมื่อไปตามทางหลวงมิโนะถนนหลวงสายเก่าจากสมัยเอโดะ (ปัจจุบันคือถนนหมายเลข 158) เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ คุณจะมาถึงเมืองเอจิเซ็นโอโนะในที่สุด

ปราสาทเอจิเซ็น โอโนะ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอจิเซ็น โอโนะ ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อนหนึ่งว่า 「ปราสาทลอยฟ้า」ตั้งแต่ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อสภาพอากาศเหมาะสม คุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของปราสาทลอยขึ้นเหนือทะเลเมฆ ในเมืองรอบๆ บริเวณปราสาทคุณสามารถเยี่ยมชมที่อยู่อาศัยของซามูไร เช่น 「ตระกูลอุชิยามะในอดีต」และ 「ตระกูลทามูระในอดีต」 และมีโรงกลั่นเหล้าสาเกและโรงกลั่นโชยุที่มีอยู่มากมายที่ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการชิมและสัมผัสประสบการณ์การทำโชยุได้ด้วยตัวเอง

จากนาโกย่าไปตามเส้นทางนากะเซ็นโดถึงมัตสึโมโตะ

ปราสาทอิวามูระ (เมืองเอนะ จังหวัดกิฟุ)

กรณีที่คุณมีวัตถุประสงค์ที่จะไปยัง Samurai Trail เส้นทางสายซามูไรยอดนิยม ให้คุณออกจากนาโกย่ามายังมาโกเมะจูกุ ซึ่งเป็นทางเข้านากาเซ็นโดะ คิโซจิ โดยจากสถานีนาโกย่าให้คุณนั่งรถไฟ JR สายชูโอ ไปยังสถานีนากะสึกาวะ แล้วขึ้นรถบัสหรือแท็กซี่ หากจุดประสงค์ของคุณคือการเที่ยวชมปราสาท ให้ลงที่สถานีเอนะ ซึ่งอยู่ก่อนถึงสถานีนากะสึกาวะสองสถานี และเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสายอะเคชิ ซึ่งเป็นรถไฟท้องถิ่นที่มีบรรยากาศน่าหลงใหลเพื่อมุ่งหน้าไปยังปราสาทอิวะมูระ

ในช่วงยุคยุคเซ็นโกคุกล่าวกันว่าปราสาทอิวามูระถูกปกครองโดยผู้หญิงที่มีนามว่า「 โอทสึยะ」ซึ่งเป็นป้าของโอดะ โนบุนางะ และเล่าขานกันว่าเธอได้จัดตั้งระบบการปกครองที่ดี (ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่กรณีที่มีผู้หญิงเป็นปกครองปราสาทนั้นมีน้อยมาก) แม้ว่าปัจจุบันจะเหลือเพียงซากกำแพงหิน แต่ซากกำแพงหินขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบนยอดเขาก็คุ้มค่าแก่การแวะมาเยี่ยมชม

ปราสาทนาเอะกิ (เมืองนะกะทสึกาวะ จังหวัดกิฟุ)

ปราสาทนาเอะกิอยู่ไม่ไกลจากปราสาทอิวามูระ มีระยะห่างเป็นทางตรงเพียงแค่ 10 กม.เท่านั้น เป็นปราสาทบนภูเขาที่สร้างขึ้นบนหินธรรมชาติขนาดมหึมา และมีจุดชมวิวที่สร้างโดยใช้ประโยชน์จากร่องรอยหลุมสำหรับตั้งเสาของปราสาทในยุคสมัยนั้น และได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาร้อนแรง เนื่องจากวิวทิวทัศน์และกำแพงหินได้สร้างลวดลายทำให้มีความคล้ายคลึงกับมาชูปิกชู มรดกโลก อีกทั้งยังได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียอีกด้วย

ปราสาทอิวามูระและปราสาทนาเอะกิยังอยู่ใกล้กับมาโกเมะจูกและเมืองที่เป็นจุดพักระหว่างทางบนเส้นทางนากะเซ็นโดะ การแวะเยี่ยมชมเมืองที่เป็นจุดพักระหว่างทางไปพร้อมๆ กับการเดินบนทางหลวงนั้นช่างน่าสนุกอย่างยิ่ง

สมบัติประจำชาติ ปราสาทมัตสึโมโต้ (เมืองมัตสึโมโต้ จังหวัดนากาโนะ)

ถ้าคุณขึ้นรถไฟ JR ชิราโนะเอ็กเพรสจากสถานีนาคัตสึกาวะ คุณจะมาถึงสถานีมัตสึโมโต้ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทมัตสึโมโต้ที่เป็นสมบัติประจำชาติ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที (และประมาณ 2 ชั่วโมงหากคุณเดินทางจากสถานีนาโกย่าโดยตรง)

หากจะกล่าวถึงสัญลักษณ์ของปราสาทญี่ปุ่น สิ่งนั้น คือ 「หอคอยปราสาท」 แต่มีเพียง 12 ปราสาทเท่านั้นที่ยังมีหอคอยปราสาทหลงเหลืออยู่ ในหมู่ของปราสาทเหล่านี้มีเพียงปราสาทฮิเมจิและปราสาทมัตสึโมโตะแห่งนี้เท่านั้นที่มีหอคอยปราสาทห้าชั้นอันงดงาม นอกจากนี้ปราสาทมัตสึโมโต้ยังเป็นปราสาทที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใครด้วยผนังสีดำและขาวที่ตัดกัน และเป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบปราสาท หากคุณโชคดีคุณอาจได้พบกับซามูไรและนินจา หรือเจ้าหญิง

ปราสาทมัตสึโมโตะได้รับความนิยมในทุกฤดูกาล แต่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระบานสะพรั่ง และมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะ ในฤดูหนาวยังมีการทำ Projection Mapping โดยมีกำแพงของปราสาทมัตสึโมโตะเป็นเขตอีกด้วย

จากนาโกย่าไปทางทิศตะวันตก

ปราสาทอิงะอุเอโนะ (จังหวัดมิเอะ)

มีปราสาทที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนาโกย่า อันดับแรกเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองอิงะ ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะเมืองนินจา เนื่องจากการเดินทางด้วยรถไฟไปยังเมืองอิงะใช้เวลานาน การเช่ารถขับไปหรือใช้บริการรถบัสด่วน (รถบัสสาย Iga Ninja Liner) จากศูนย์รถบัสที่สถานีนาโกย่าจึงสะดวกกว่า

ปราสาทอิงะอุเอโนะ เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียง ถูกสร้างขึ้นโดยโทโด ทาคาโทระ ผู้บัญชาการทหารในสมัยเซ็นโกคุ ​​ ผู้ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นปรมาจารย์ในด้านการก่อสร้างปราสาท กำแพงหินแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 「Kagemusha」ของอากิระ คุโรซาว่าอีกด้วย และพิพิธภัณฑ์นินจาอิงะริวก็ตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทอิงะอุเอโนะ ที่นี่เป็นฐานที่สำหรับการท่องเที่ยวเกี่ยวกับนินจา เราอยากให้คุณลองมาเยี่ยมชมพร้อมกับทัวร์หมู่บ้านนินจาอิงะและหมู่บ้านนินจาโคกะ

สมบัติประจำชาติ ปราสาทฮิโกเนะ (เมืองมัตสึโมโต้ จังหวัดนากาโน่)

ปราสาทฮิโกเนะซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบบิวะซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และอยู่ใกล้กับนาโกย่า หากคุณใช้บริการขนส่งสาธารณะ คุณสามารถไปถึงสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีฮิโกเนะได้ภายในเวลาประมาณ 35 นาที ด้วยรถไฟไทไคโดชินคันเซนไปยังสถานีไมบาระ แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่นสายโทไคโดอีกหนึ่งป้ายไปยังสถานีฮิโคะเนะ (ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมงจากหมู่บ้านนินจา เมืองโคกะ)

ปราสาทฮิโกเนะมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เริ่มจากหอคอยปราสาทที่เป็นสมบัติประจำชาติซึ่งเป็นหนึ่งในหอคอยปราสาทที่มีอยู่ทั้งหมด 12 แห่ง หอคอยปราสาทนี้มีจุดเด่นหลายอย่าง เช่น ประตูสุดท้ายหน้าหอยคอยปราสาทเรียกว่าประตูกลองหรือไทโคมงยากุระที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ และแวดล้อมไปด้วยคูน้ำที่ทอดยาวรอบด้าน เราขอแนะนำเรือยากาตะบุเนะซึ่งล่องอยู่เป็นประจำตามคูน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำจากทะเลสาบบิวะเนื่องจากคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของปราสาทจากมุมที่แตกต่างไปจากปกติ และที่นี่ยังมีตัวละครมาสคอตของปราสาทฮิโกเนะที่ได้รับความนิยมอย่าง 「ฮิโคเนียว」 และมี「สวนเก็นคิวเอ็น」สวนขนาดใหญ่ที่ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย

จากนาโกย่าไปทางทิศตะวันออก

ปราสาทโอคาซากิ (เมืองโอคาซากิ จังหวัดไอจิ)

ทางทิศตะวันออกของนาโกย่ามีปราสาทโอคาซากิที่เกี่ยวข้องกับอิเอยาสึ โทคุงาวะ ผู้ก่อตั้งยุคสมัยเอโดะ และในปี 2023 อิเอยาสึ โทคุงาวะ ได้รับความสนใจอย่างมากในญี่ปุ่นในฐานะตัวละครหลักของซีรีส์แนวย้อนยุคเรื่องใหม่ของทาง NHK ที่มีชื่อว่า 「Dousuru Ieyasu」สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องจะได้รับการปรับปรุงใหม่ไปพร้อมๆ กับการเปิดตัวของละคร

มาเริ่มกันที่ปราสาทโอคาซากิ อิเอยาสึ โทคุงาวะถือกำเนิดที่ปราสาทโอคาซากิ ขึ้นในปี 1543 ในปี 1959 ศูนย์กลางของหอคอยปราสาทถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นสามชั้น และได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นสวนสาธารณะ และในเดือนมกราคม 2023 ได้มีการซ่อมบำรุงอีกครั้ง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่อยู่รอบๆ ปราสาทและปราสาทในอดีตผ่านการจัดแสดงที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดอย่างเต็มที่ เช่น Digital Signage สื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบดิจิตอล และบริเวณรอบๆ ปราสาทโอกาซากิยังเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภูมิภาคชูบุ

ปราสาทฮามามัตสึ (เมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ)

ลำดับถัดไปคือปราสาทฮามามัตสึ ซึ่งอิเอยาสึ โทคุงาวะ ได้ทำการย้ายเข้ามาเพื่อตั้งฐานที่มั่นในปี 1570 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบกับศัตรูที่น่าเกรงขามได้แก่ ตระกูลทาเคดะ ชื่อสถานที่ 「ฮามามัตสึ」ก็ถูกตั้งชื่อโดยอิเอยาสึเช่นกัน

อิเอยาสึได้พ่ายแพ้ต่อตระกูลทาเคดะอย่างเจ็บปวดที่นี่ ว่ากันว่าอิเอยาสึผู้พ่ายแพ้ได้สั่งให้จิตรกรวาดภาพเหมือนของเขาทันทีหลังจากที่พ่ายแพ้เพื่อเตือนสติตัวเอง ปราสาทฮามามัตสึได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมด้วย「รูปปั้นชิกามิ」ที่ปั้นขึ้นจากภาพวาดอันโด่งดังของเขา นอกจากนี้หลังจากเริ่มยุคเอโดะยังมีโครงสร้างอาคารโบราณในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 จำนวนมากที่ได้รับการบำรุงรักษา และมีไฮไลท์อื่นๆมากมาย

ปราสาทซุนปุ (เมืองชิซูโอกะ จังหวัดชิซูโอกะ)

และลำดับสุดท้าย มุ่งหน้าไปยังปราสาทซุนปุในเมืองชิซึโอกะ อิเอยาสึผู้ยุติสงครามภายในและก่อตั้งระบบรัฐบาลโชกุนเอโดะ ภายหลังจากมอบตำแหน่งโชกุนให้ฮิเดทาดะ ลูกชายของเขา อิเอยาสึก็ได้ทำการย้ายฐานทัพมายังปราสาทซุนปุแห่งนี้ และใช้ชีวิตช่วงบั่นปลายที่นี้อยู่เป็นเวลาสิบปีจนกระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตในปี ค.ศ.1616

พื้นที่รอบๆ ปราสาทซันปุได้รับการพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะปราสาทซันปุ นอกเหนือจากการบูรณะประตูและป้อมปราการนิโนะมารุที่อยู่รอบนอกแล้ว ในปีต่อมายังมีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของอิเอยาสึ และในวันที่อากาศแจ่มใสจากพื้นที่เปิดโล่งภายในปราสาท คุณจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอันงดงามได้ ไม่แน่ว่าในช่วงบั้นปลายชีวิตอิเอยาสึอาจมองวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิจากมุมนี้ทุกๆ ปี

บทส่งท้าย

ปราสาทญี่ปุ่นทุกแห่งอาจจะดูคล้ายๆ กัน แต่ปราสาทแต่ละแห่งก็มีบุคลิกของตัวเอง และแต่ละแห่งก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป มีเสน่ห์มากมายที่คุณจะสามารถพบเห็นได้จากการไปเยี่ยมชมปราสาทหลายๆ แห่งแล้วลองมาเปรียบเทียบกัน เราอยากให้คุณได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยการท่องเที่ยวพื้นที่ภูมิภาคชูบุซึ่งเป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมซามูไร