| Centrip Editorial Board

ตื่นตาตื่นใจไปความสวยงามของทิวทัศน์ฤดูหนาวที่แสนวิเศษ ! ทาคายามะ・กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ

ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่น! และอยากที่จะหลบหนีไปจากความวุ่นวายพร้อมกับสนุกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งของญี่ปุ่น! ถ้าคุณคือผู้ที่ต้องการจะเพลิดเพลินไปกับทั้งสองสิ่ง「ทาคายามะ」คือสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะมาเยี่ยมชมเมื่อใด คุณก็สามารถชื่นชมความงามของแต่ละฤดูกาลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว หิมะที่กองทับถมจะทำให้ทิวทัศน์ของเมืองมีเสน่ห์ และทำให้ที่นี่กลายเป็นโลกที่มหัศจรรย์ไปยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้หากคุณเดินทางต่อไปอีกเพียงเล็กน้อยจากใจกลางเมือง ไม่เพียงแต่คุณจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือเท่านั้น แต่ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่ออนเซ็นและชมหิมะซึ่งเป็นความสุขสุดพิเศษที่มีเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น

ในครั้งนี้เราขอแนะนำทริปที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในพื้นที่ทาคายามะที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ ในเวลา 2 วัน 1 คืน

การเดินทางวันแรก

จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังทาคายามะ

จากหน้าต่างรถไฟ นอกจากทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะแล้ว คุณยังสามารถมองเห็นจุดชมวิวที่สวยงามที่เรียกว่า Japan Line ได้อีกด้วย

สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์คือสนามบินที่ใกล้กับทาคายามะที่สุด จากสนามบินมุ่งหน้าสู่สถานีทาคายามะกัน!

วิธีการเดินทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดคือนั่งรถไฟสาย Meitetsu μ-Sky จากสถานีชูบุเซ็นแทรร์อินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ตไปยังสถานีนาโกย่า จากนั้นขึ้นรถไฟ JR Wide View Hida (Limited Express Hida) จากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีทาคายามะ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ราคาค่าเดินทางไม่เกิน 7,000 เยน หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางจากสนามบินและการเดินทางอื่นๆ นอกเหนือจากรถไฟ โปรดดูบทความด้านล่าง

วิธีการเดินทางไปทาคายามะจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์

เดินเล่นในสถานที่ยอดนิยมของเมืองทาคายามะ

สะพานนาคาบาชิเหนือแม่น้ำมิยางาวะ

เมื่อมาถึงสถานีทาคายามะแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาสนุกไปกับการเที่ยวชมสถานที่ยอดนิยมกันเถอะ เริ่มจากมุ่งหน้าไปยัง 「ย่านเมืองเก่า」ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี

ถนนย่านเมืองเก่าของทาคายามะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิตเติ้ลเกียวโต

ทิวทัศน์เมืองที่ยังคงหลงเหลือภาพเงาในอดีตของสมัยเอโดะ (1603-1868) ไว้อย่างเหนียวแน่น ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามตามถนนเรียงรายไปด้วยโรงกลั่นสาเกและร้านค้าที่เปิดมายาวนานและทางน้ำไหลทั้งสองฝั่งของถนน และในฤดูหนาวหิมะที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้ายิ่งทำให้โลกนี้มหัศจรรย์ยิ่งขึ้นไปอีก

โกเฮโมจิ ถูกย่างอย่างพิถีพิถันที่หน้าร้าน
ซูชิหน้าเนื้อฮิดะ

ที่เมืองเก่าแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่เหมาะที่สุดในยามที่คุณกำลังหิว คุณสามารถลองชิมอาหารท้องถิ่นเลิศรสของทาคายามะได้อย่างเบิกบานใจ ไม่ว่าจะเป็น โคร็อกเกะที่ทำจากเนื้อฮิดะ, ซูชิ และโกเฮโมจิ

ทาคายามะ จินยะ

ลำดับต่อไป เราจะมุ่งหน้าไปยังทาคายามะ จินยะ ซึ่งอยู่ห่างจากย่านเมืองเก่าไปเพียงไม่กี่ก้าว จินยะเป็นคำเรียกทั่วไปสำหรับอาคารที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นใช้เป็นที่ทำงานหรือใช้เป็นที่อยู่อาศัยในสมัยเอโดะ ในอดีตเคยมีจินยะอยู่ประมาณ 60 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันทาคายามะจินยะเป็นเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ยังคงมีอาคารหลักหลงเหลืออยู่ เช่น ประตูหน้าและห้องโถงขนาดใหญ่ เมื่อคุณเดินผ่านประตูหลังคามุงจากอันโอ่อ่า คุณจะพบกับโลกเมื่อ 200 ปีที่แล้วรอต้อนรับอยู่เบื้องหน้าของคุณ

เมื่อคุณเหน็ดเหนื่อยจากการเดินก็ได้เวลาพักทานอาหารกลางวัน

ชุดสุกี้ยากี้เนื้อฮิดะ

ในเขตเมืองเก่าและรอบ ๆ ทาคายามะจินยะมีร้านอาหารอยู่มากมาย ในหมู่นักท่องเที่ยวเนื้อฮิดะได้รับความนิยมเป็นพิเศษในฐานะอาหารท้องถิ่นเลิศรส และมีลักษณะพิเศษคือเป็นเนื้อที่ให้สัมผัสนุ่ม มีความสมดุลระหว่างเนื้อส่วนที่ไม่ติดมันและส่วนที่ติดมัน มาลองรับประทานเนื้อฮิดะในสไตล์ที่คุณชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น สุกี้ยากี้ สเต็ก หรือแฮมเบอร์เกอร์

หากคุณสนใจลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเลิศรสที่เป็นเอกลักษณ์ของทาคายามะ เราอยากให้ลองโฮบะมิโซะและสเต็กผักดอง หรือถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารท้องถิ่นเลิศรสของทาคายามะ โปรดอ่านบทความที่นี่

ตู้กดสาเกญี่ปุ่นที่ตั้งแถวเรียงราย ที่ผู้ชื่นชอบสาเกไม่อาจต้านทานได้!

สาเกญี่ปุ่นถูกเทลงในถ้วยมาสึจนเต็มปรี่

ทาคายามะได้รับพรจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและน้ำใต้ดินของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ จึงมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตสาเกที่ดีที่สุด มีโรงกลั่นเหล้าสาเก 7 แห่งอยู่ในเมือง และทุกแห่งมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี

สาเกมากกว่า 10 ชนิด มีตั้งแต่แบบหวานไปจนถึงแบบเข้มข้น และสาเกตามฤดูกาล ฯลฯ
คุณสามารถสุ่มตัวอย่างของสาเกได้โดยการหยอดโทเค็นที่แลกซื้อมา

ในเขตเมืองเก่านั้นมี「โรงกลั่นเหล้าฟุนาซากะ」ที่มีตู้หยอดเหรียญสาเกญี่ปุ่น (!) ที่คุณสามารถลองดื่มสาเกหลากหลายชนิดได้อย่างละเล็กอย่างละน้อย ยิ่งไปกว่านั้นสาเกที่นำมาเสิร์ฟยังสดใหม่ เป็นสาเกที่กลั่นใหม่จากโรงกลั่นสาเกที่อยู่ติดกัน ถือเป็นสถานที่ในฝันสำหรับผู้ชื่นชอบสาเกญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

บริการรถรับ-ส่งจากใจกลางเมืองทาคายามะไปยังโอคุฮิดะออนเซ็นโก

ทัศนียภาพจากรถบัส

หลังจากสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมกันแล้ว ให้คุณมุ่งหน้าไปยังโอคุฮิดะออนเซ็นโก ด้วยบริการรถบัสจากใจกลางเมือง โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รถบัสที่จะเดินทางไปยังโอคุฮิดะออนเซ็นโกสามารถขึ้นได้จากจุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น 「ย่านเมืองเก่า」หรือจากศูนย์รถบัสโนฮิที่อยู่ถัดจากสถานีทาคายามะ ระหว่างทางอย่าพลาดชมทัศนียภาพอันงดงามที่มองเห็นได้จากภายในรถ

มาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางด้วยน้ำพุร้อน

「โคจินโนะยุ」ในโอคุฮิดะออนเซ็นโก

ทาคายามะคือขุมทรัพย์แห่งบ่อน้ำพุร้อน ถือเป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ในโอคุฮิดะออนเซ็นโกประกอบไปด้วย บ่อน้ำพุร้อน 5 แห่ง ได้แก่ 「ฮิรายุ」「ฟุคุจ」「ชินฮิรายุ」「โทจิโอะ」 และ「ชินโฮตากะ」ในฤดูหนาวคุณสามารถการแช่ตัวอย่างเพลิดเพลินพร้อมๆ กับการชมหิมะและเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่กระจายตัวอยู่เบื้องหน้าหน้าของคุณ

หลังจากเอร็ดอร่อยไปกับอาหารท้องถิ่นและสาเกญี่ปุ่นแล้ว ก็ได้เวลามาแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดเพื่อบำบัดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและเตรียมพร้อมสำหรับวันถัดไป

การเดินทางวันที่สอง

เดินทางจากโอคุฮิดะออนเซ็นโกไปยังกระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ

รถบัสของกระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะและกระเช้าลอยฟ้าจะออกเดินทางจากที่นี่และจะกลับมาที่ตรงนี้

ในวันที่สองของการเดินทาง เราจะมุ่งหน้าไปยังกระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะก่อน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ โดยจะนั่งรถบัสจากโอคุฮิดะออนเซ็นโกประมาณ 40 นาที นอกจากนี้คุณยังสามารถขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งฮิรายุหรือจากรีสอร์ทน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ๆ ที่อื่นๆได้ด้วย โปรด คลิกที่นี่ เพื่อตรวจสอบตารางเวลาโดยละเอียด

ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสองชั้นไปสู่โลกเหนือเมฆที่ระดับความสูง 2,000 เมตร

ท้องฟ้าสีครามที่ตัดกับท้องฟ้าสีขาวอย่างสวยงาม!

เมื่อคุณลงจากรถบัสที่ป้ายสุดท้าย 「HO65 กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ」คุณจะเห็นชานชาลาของกระเช้าลอยฟ้า 「สถานีชินโฮตากะออนเซ็น」ถ้าหากคุณซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋ว คุณจะสามารถไปถึงโลกเหนือเมฆที่ความสูง 2,000 เมตร ได้ในเวลาประมาณ 25 นาที

ทิวทัศน์จากกระเช้าลอยฟ้า
ตัวเมืองทาคายามะตะอยู่ทางด้านหลังขวามือ

ในการจะขึ้นไปถึงยอดเขาคุณจะต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้า 2 สาย สายแรกคือจาก「สถานีชินโฮทากะออนเซ็น」ไปยัง「สถานีนาเบไดระโคเก็น」 และสายที่สองคือจาก「สถานีชิระคาบะไดระ」ไปยัง「สถานีนิชิโฮตากากูจิ」ที่อยู่บนยอดเขา แต่ละสถานีมีสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ มากมาย แต่ก่อนอื่นเราจะแวะตรงไปที่สถานีนิชิโฮตากากูจิบนยอดเขากันก่อน! ในภายหลังเราจะอธิบายเพิ่มเติมว่าทำไม...

เพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศาอันแสนตระการตา

จุดชมวิวบนยอดเขา ด้านหน้าคือภูขาคาซางะทาเกะที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,898 เมตร

เมื่อคุณขึ้นมาถึง「สถานีนิชิโฮตากากูจิ」ลำดับแรกให้ไปที่จุดชมวิวบนชั้นดาดฟ้า ทันทีที่คุณขึ้นบันไดและผ่านประตูออกไป จะได้พบกับวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศาที่จะแผ่กระจายออกไปต่อหน้าคุณ! ภูเขาระดับ 3,000 เมตรของ เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือนั้นสวยงามจนแทบหยุดหายใจ ทันทีที่กระเช้าลอยฟ้ามาถึงในช่วงแรกจะมีผู้คนหนาแน่น แต่ถ้าคุณอดทนต่อความหนาวเย็นและรอสักครู่คุณอาจจะได้เอกสิทธิ์ในการชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

วิวทิวทัศน์ที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ไม่ว่าจะถ่ายจากมุมใด
คุณสามารถถ่ายภาพกับตุ๊กตาหิมะนิชิโฮะคุงโดยมีภูเขานิชิโฮทากะเป็นฉากหลังที่ระดับความสูง 2,908.8 เมตรได้

น่าจะมีหลายๆ ท่านที่ต้องการจะถ่ายภาพหิมะทับถมเรียงรายเป็นแนวยาวและเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่สูงตระหง่านท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม อย่างไรก็ตามสภาพอากาศบนภูเขานั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ล่วงหน้าว่าวันไหนจะเป็นวันที่เหมาะที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีเวลาจำกัดในการเดินทาง แม้จะเป็นเช่นนั้นเมื่อฉันได้ถามพนักงาน พวกเขาบอกว่าหากเป็นช่วงแรกของตอนเช้ามีโอกาสสูงที่คุณจะพบกับสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งแจ่มใส ฉันเชื่อในสิ่งที่พนักงานบอกจึงมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเที่ยวแรกในเวลา 09:00 น. (※เวลาทำการแตกต่างกันไปตามฤดูกาล) ฉันไปที่จุดชมวิวเป็นอย่างแรกและสิ่งที่ได้เห็นคือเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือภายใต้ท้องฟ้าสีคราม (※แน่นอนว่าเราไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีอากาศแจ่มใส ดังนั้นโปรดใช้ข้อมูลนี้เพื่อเป็นเกณฑ์อ้างอิงคร่าวๆ เท่านั้น)

ตู้จดหมายยามาบิโกะที่ตั้งอยู่ด้านนอกในวันที่อากาศแจ่มใส
โปสการ์ดไม้ฮะกาคิที่เป็นที่นิยม

เมื่อมาถึงที่นี้ทั้งที่ เราอยากแนะนำให้คุณส่งโปสการ์ดถึงเพื่อนๆ หรือส่งถึงตัวคุณเองที่「ตู้จดหมายยามาบิโกะ」ซึ่งเป็นตู้จดหมายที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเพื่อเป็นที่ระลึกในการเดินทางของคุณ โปสการ์ดไม้ฮะกาคิและแสตมป์สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของฝากซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 สถานีนิชิโฮตากากูจิ

แวะพักสักครู่ในขณะชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

แกงกะหรี่สีขาวหน้าคัตสึหมูฮิดะ
อิทาดะคิชูโรส

หลังจากเพลิดเพลินจากการชมวิวที่จุดชมวิวแล้ว มาแวะพักสักครู่ที่คาเฟ่ 「เมาท์วิว」ชั้น 4 เพื่อเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมต่อไป คุณสามารถดื่มกาแฟ ทานขนมหวาน และอาหารว่าง เช่น แกงกะหรี่และราเมนที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นไปพร้อมๆ กับการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ และเมื่อร่างกายที่หนาวเย็นของคุณอบอุ่นขึ้นเพียงพอแล้ว มาลองออกไปสัมผัสหิมะอย่างใกล้ชิดกันเถอะ!

พบกับหิมะสุดลูกหูลูกตา! สู่โลกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

วิวทิวทัศน์ของป่าด้านบนที่มองจากคาเฟ่

เมื่อคุณออกจากคาเฟ่ 「เมาท์วิว」ที่ชั้น 4 จะพบกับบริเวณที่เรียกว่า 「 Itadaki-no-Mori」(※หมายเหตุบรรณาธิการ: Itadaki no Mori) ที่พึ่งเพิ่งเปิดให้บริการในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนืออย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ที่นี่มีทางเดินสำหรับเดินเล่นในป่าไม้ผลัดใบชิราบิโซะ และในฤดูหนาวคุณจะเห็นทางเดินกลางหิมะที่สูงถึง 3 เมตร ได้โปรดมาเพลินเพลินจนจุใจไปกับโลกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนเหมือนเขาวงกตราวกับโลกแห่งความฝันกันนะคะ

เมื่อฤดูหนาวคืบคลานเข้ามา ทางเดินจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นตามร่องดิน
ทิวทัศน์ที่สวยงามจะทำให้คุณลืมความหนาวเย็นไปเลย
ปุยหิมะเมื่อต้องแสงอาทิตย์ช่างสวยงาม!

แม้ว่าจะปิดทำการในฤดูหนาวเมื่อมีหิมะทับถมเป็นจำนวนมาก แต่ที่ปลายสุดของทางเดินมีจุดชมวิวรูปครึ่งวงกลมที่เรียกว่า 「ทางเดินแห่งยาริ」คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามโดดเด่นแตกต่างจากมุมมองที่จุดชมวิว

นอกจากนี้พื้นที่ด้านบนของสถานีนิชิโฮตากากูจิมักจะมีหิมะตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ดังนั้นแม้แต่ผู้ที่เดินทางในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิก็ยังมีโอกาสได้เห็นหิมะ

ผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้าที่ระดับความสูง 1,300 ม

ภายในสถานีชิราคาบะไดระ

หลังจากเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือจนเต็มอิ่มแล้ว ให้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าลงมายัง「สถานีชิราคาบาไดระ」 ทันทีที่มาถึงสถานีน่าจะมีหลายๆ คนที่ถูกเชิญชวนด้วยกลิ่นหอม ภายในบริเวณสถานีมีร้านเบเกอรี่ยอดนิยม 「ร้านขนมปังแอลป์」ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับขนมปังอบสดใหม่ในระหว่างที่ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่พื้นที่ชมวิวนี้มีที่นั่งอยู่มากมายและมีเครื่องทำความร้อนอยู่ครบครัน เราจึงขอแนะนำสำหรับผู้ที่ยังต้องการเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อย่างช้าๆ

พักผ่อนหย่อนใจสบายๆ บนโซฟา
วิวจากพื้นที่จุดชมวิว
พื้นที่ที่จะทำให้คุณลืมเวลา

หากคุณยังมีเวลาเหลือก่อนถึงเวลานั่งกระเช้าลอยฟ้ารอบถัดไป มาลองออกไปที่ด้านนอกสถานีชิรากาบะไดระกัน ที่จริงแล้วที่ด้านนอกสถานีนี้มีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าอยู่ด้วย! ด้วยคุณภาพของบ่อน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยกำมะถัน เพียงแค่คุณเอาเท้าลงไปแช่สักห้านาทีคุณจะรู้สึกได้ว่าร่างกายของคุณค่อยๆ อุ่นขึ้นอย่างแน่นอน และจากบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้า คุณยังสามารถมองเห็นภูเขาที่สวยงามและกระเช้าลอยฟ้าที่กำลังขึ้นลงได้อีกด้วย

บ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้า
จากบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าคุณสามารถมองเห็นกระเช้าลอยฟ้าที่กำลังขึ้นลงได้

อำลาด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางกลับบ้าน

หลังจากดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่สวยงามจนเสร็จสิ้นแล้วก็ได้เวลาบอกลา เดินประมาณ 3 นาทีไปจาก「สถานีชิระคาบะไดระ」ไปยัง「สถานีนาเบไดระโคเก็น」แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่「สถานีชินโฮทากะออนเซ็น」มาชื่นชมวิวทิวทัศน์ช่วงสุดท้ายประมาณ 4 นาทีจากกระเช้าลอยฟ้าและเก็บความงดงามไว้ในความทรงจำของคุณ

วิวทิวทัศน์จากกระเช้าลอยฟ้า

การแต่งกาย

ที่นี้คุณไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการปีนเขา แต่อุณหภูมิจะต่ำกว่าในเมืองทาคายามะ ดังนั้นอย่าลืมสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เช่น หมวก ถุงมือ เสื้อโค้ทหนา และแจ็กเก็ตขนเป็ด หากคุณเตรียมตัวไม่ทันหรือพบว่าอากาศหนาวกว่าที่คิด คุณสามารถซื้อแจ็กเก็ตขนเป็ดแบบบางได้ที่ 「สถานีชินโฮทากะออนเซ็น」 หรือ 「สถานีนิชิโฮตากากูจิ」ที่อยู่บนยอดเขา

ข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทาง

ถ้าหากคุณมีสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย คุณสามารถนำสัมภาระไปฝากไว้ที่สถานีรถบัสของกระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ หรือฝากไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญที่「สถานีชินโฮทากะออนเซ็น」นอกจากนี้ภายในสถานียังมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่จำหน่ายตั๋วรถบัสสำหรับเดินทางไปยังสถานีทาคายามะ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วขากลับ

นอกจากนี้ ที่นี้ยังสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่าง คือลิฟต์ที่ได้รับการจัดการให้สามารถไปถึงจุดชมวิวด้านบนสุด เพื่อให้ผู้ที่ใช้รถเข็นและผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวสามารถเพลิดเพลินไปด้วยได้ อันที่จริงในตอนที่ฉันเดินทางมาเยี่ยมชมเพื่อเขียนบทความนี้ ฉันได้เห็นหลายครอบครัวที่เดินทางไปด้วยกันทั้งสามรุ่นอย่างมีความสุข

บทส่งท้าย

ในบทความนี้เราได้แนะนำแผนการเดินทางที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ของทาคายามะในเวลา 2 วัน 1 คืน หากคุณมีเวลาสักสองวันจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ โปรดลองใช้ข้อมูลอ้างอิงที่เรานำเสนอเพื่อวางแผนสำหรับการเดินทางในฤดูหนาวแล้วคุณจะได้พบกับทิวทัศน์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครดูนะคะ

Related Articles Related Articles