เมืองโคมากาเนะในจังหวัดนากาโนะ เป็นที่ตั้งของวิวสุดตระการตาของเทือกเขาแอลป์ตอนกลาง และอาหารรวมถึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยขุนเขา แม้เมืองนี้จะมีชื่อเสียงจากเส้นทางเดินเขาเซ็นโจจิกิ เซอร์ก (Senjojiki Cirque) ซึ่งงดงามตระการตาในทุกฤดูกาล แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การเดินป่าบนที่ราบสูงโคมากาเนะ วัดโคเซนจิอันเก่าแก่ และเมนูขึ้นชื่ออย่างคัตสึด้ง นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม 2567 โรงกลั่นสุราคุราสุวะ โนะ โมริ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงผลิตเหล้ายาดองสุราโยเมชูก็จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ บทความนี้จะแนะนำแผนการเดินทางตัวอย่างที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในย่านโคมากาเนะได้อย่างเต็มที่

โคมากาเนะฟาร์มส์: จุดเริ่มต้นสำหรับการท่องเที่ยวในโคมากาเนะ・เซ็นโจจิกิเซิร์ก

จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวโคมากาเนะคือโคมากาเนะฟาร์มส์ ข้างๆ โคมากาเนะฟาร์มส์มีศูนย์รถบัสสึงะโนะไดซึ่งมุ่งหน้าไปยังกระเช้าลอยฟ้าคะเกะโคมากาเนะ ตั้งแต่เช้าตรู่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยนักปีนเขาและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

โคมากาเนะฟาร์มส์เป็นศูนย์รวมที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถรับแผนที่และโบรชัวร์ของพื้นที่โดยรอบ และยังสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้ออาหารท้องถิ่นและของฝากขึ้นชื่อได้อีกด้วย ที่นี่มีที่จอดรถกว้างขวาง และเดินทางต่อไปยังกระเช้าลอยฟ้าโคมากาเนะ พื้นที่ที่ราบสูง หรือแหล่งออนเซ็นได้อย่างสะดวก

ทางด้านเหนือของโคมากาเนะฟาร์มส์มีแม่น้ำโอตากิริ ซึ่งมีน้ำหลากจากหิมะที่ละลายจากเทือกเขาแอลป์ตอนกลางไหลผ่านอยู่

ตลอดแนวแม่น้ำโอตากิริมีเส้นทางเดินป่าหลายสายที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี หากเดินขึ้นไปจาก「สะพานโคมาคุสะ」 ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่อยู่ติดกับฟาร์มโคมากาเนะ จะพบเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เรียงรายไปด้วยต้นเมเปิลราว 1,000 ต้น ส่วนทางปลายน้ำจะเป็นสวนที่ดูแลอย่างดี เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าและพืชพรรณธรรมชาติ

โรงกลั่นมารุสึ โคมากาทาเกะ: วิสกี้ญี่ปุ่นที่ผลิตด้วยน้ำเลื่องชื่อของเทือกเขาแอลป์ตอนกลาง

หากเดินลงไปตามทางเดินเล่นจากสะพานโคมะคุสะประมาณ 15 นาที จะมองเห็นโรงกลั่นมารุสึ โคมากาทาเกะซึ่งมีคำว่า “SINGLE MALT KOMAGATAKE” เขียนอยู่ริมแม่น้ำปรากฏให้เห็น

อากาศที่บริสุทธิ์ น้ำคุณภาพดี และภูมิอากาศเย็นสบาย เป็นเงื่อนไขที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการบ่มวิสกี้ โดยวิสกี้ชื่อดังอย่างซิงเกิลมอลต์โคมากาทาเกะได้รับการยอมรับอย่างสูงในระดับโลก และคว้ารางวัลมากมายจากเวทีประกวดนานาชาติ

ที่โรงกลั่น คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตวิสกี้ พร้อมกับเดินชมเครื่องกลั่นและโกดังบ่มวิสกี้ โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า จึงแวะมาเยี่ยมชมได้อย่างสะดวก (ต้องลงทะเบียนที่จุดต้อนรับ)

ที่บาร์เลานจ์ภายในพื้นที่ คุณสามารถเปรียบเทียบรสชาติวิสกี้หลากหลายชนิดได้ ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของวิสกี้ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อนแตกต่างกันไปตามชนิดของถังที่ใช้บ่ม ที่ร้านค้าซึ่งอยู่ติดกันมีจำหน่ายทั้งวิสกี้ชื่อดังและคราฟต์เบียร์ด้วยเช่นกัน

ร้านเมจิเท สาขาโทซังกุจิ: ร้านชื่อดังของโคมากาเนะที่ขึ้นชื่อเรื่องซอสคัตสึด้งเมนูท้องถิ่น

หลังจากการเดินป่า มาลิ้มลองอาหารกลางวันขึ้นชื่อของท้องถิ่นอย่างคัตสึด้งซอสโคมากาเนะ เมนูนี้ได้รับการนิยามไว้อย่างชัดเจนภายใต้กฎของสมาคมโคมากาเนะซอสคัตสึด้ง และมีให้บริการตามร้านอาหารและเรียวกังในเมืองโคมากาเนะ คัตสึด้งจานนี้ประกอบด้วยหมูชิ้นหนาทอดจนกรอบ ชุบซอสรสหวานเค็มสูตรพิเศษ แล้วจัดเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีซอยจนเต็มชาม เป็นเมนูที่อัดแน่นด้วยความอร่อยอย่างแท้จริง

ร้านเมจิเท สาขาโทซังกุจิ เป็นหนึ่งในร้านอาหารเก่าแก่ที่เสิร์ฟคัตสึด้งซอสโคมากาเนะ และผลิตซอสสูตรเฉพาะของร้านในโรงงานที่ตั้งอยู่ติดกัน ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้กับโคมากาเนะฟาร์มส์และศูนย์รถบัส ทำให้ร้านนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นอกจากคัตสึด้งซอสโคมากาเนะสูตรดั้งเดิมแล้ว เมนูต้นตำรับอย่างขนมปังไส้ทงคัตสึชุบซอส「ดนมัน」 ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน หากคุณยังมีท้องว่างหลังจากลิ้มลองคัตสึด้งซอสโคมากาเนะรสเข้มข้นแล้ว ขอแนะนำ “ซูซูรันซอฟต์” ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ขนาดจุใจที่วางจำหน่ายที่ร้านซูซูรันเฮาส์ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโคมากาเนะฟาร์มส์

เดินทางไปยังวัดโคเซ็นจิ โดยผ่านสระโคมากะอิเกะ

หลังอาหารกลางวัน มุ่งหน้าไปยังวัดโคเซ็นจิ วัดในพุทธศาสนานิกายเทนไดอันเก่าแก่ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 9 จากโคมากาเนะฟาร์มส์ไปยังวัดโคเซ็นจิมีระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที ระหว่างทางคุณสามารถชมแนวเทือกเขาแอลป์ตอนกลางที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำของ สระโคมากาอิเคะ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ชนบทอันงดงามตามแบบฉบับหมู่บ้านภูเขาของญี่ปุ่น ที่มี นาขั้นบันไดเรียงรายไปตามแนวเขา

วัดโคเซ็นจิมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับสุนัขศักดิ์สิทธิ์ “ฮายาทาโร่” ผู้ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ ฮายาทาโร่ได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนอย่างดุเดือด และแม้จะสามารถกำจัดมันได้ แต่ตัวเขาเองก็ได้รับบาดแผลสาหัสและสิ้นใจที่วัดโคเซ็นจิ วีรกรรมอันกล้าหาญและการเสียสละของเขาทำให้ฮายาทาโร่ได้รับการเคารพบูชาในฐานะวีรบุรุษ และได้รับการสถิตไว้ที่วัดโคเซ็นจิอย่างเคารพนับถือเสมอมา

เมื่อก้าวผ่านประตูวัดเข้าไป จะพบกับทางเดินสู่ศาลเจ้าทอดยาวตรงไปท่ามกลางแนวต้นสนซีดาร์ยักษ์ที่เรียงรายอย่างสง่างาม สีเขียวสดใสของมอสที่ปกคลุมกำแพงหินทั้งสองข้างทางนั้นงดงามจับใจ วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์หลากหลายตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นซากุระพันธุ์ชิดาเระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยียในต้นฤดูร้อน หรือใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

มื่อเดินผ่านซังมงเข้าไป จะมองเห็นห้องโถงหลักของวัด และทางด้านซ้ายของห้องโถงหลักมีเจดีย์สามชั้นตั้งอยู่ท่ามกลางต้นสนซีดาร์ เจดีย์สามชั้นหลังนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ (ต้นศตวรรษที่ 19) โดยมีรูปปั้นฮายาทาโร่ยืนอยู่เงียบ ๆ ราวกับกำลังเฝ้าดูแลเจดีย์แห่งนั้นอยู่

คุระสึวะโนะโมริ: สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความสนใจ เปิดอย่างเป็นทางการในปี 2024

‘คุระสึวะ โนะ โมริ’ สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2024 ตั้งอยู่ห่างจากวัดโคเซ็นจิไปทางใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร ในช่วงเวลาจำกัด (4 กรกฎาคม ถึง 1 ธันวาคม 2025) นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ “รถบัสซันซัน” ที่ออกเดินทางจากโคมากาเนะฟาร์มส์ เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองโคมากาเนะ เช่น วัดโคเซ็นจิ และคุระสึวะ โนะ โมริ ได้อย่างสะดวก

คุระสึวะ โนะ โมริ เป็นคอมเพล็กซ์แห่งประสบการณ์ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “อร่อย สนุก และสุขภาพดี” ดำเนินการโดยบริษัทผู้ผลิตยาโยเมชู ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาดองสุราชื่อดังของญี่ปุ่น โครงสร้างเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ 「ฟอเรสต์ริง」 วงแหวนรูปโดนัทขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 80 เมตร ภายในประกอบด้วยคาเฟ่ เบเกอรี่ มาร์เช่ (ตลาดสินค้าท้องถิ่น) และพื้นที่กิจกรรมอีกมากมาย

นอกเหนือจาก “ฟอเรสต์ริง” แล้วยังมีร้านค้าและร้านอาหารที่ย้ายและปรับปรุงมาจากโกดังเก่าอันมีประวัติศาสตร์ กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ หากต้องการเดินชมอย่างทั่วถึง การใช้เวลาเพียง 1–2 ชั่วโมงอาจไม่เพียงพอเลยทีเดียว ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ การเดินชมสถานที่ที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นอันแสนประณีตก็เป็นช่วงเวลาอันเพลิดเพลิน อีกทั้งสถานที่นี้ยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่พาสุนัขมาด้วย

ลึกเข้าไปในคุระสึวะ โนะ โมริ ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี มีหอคอยไม้ทรงแปดเหลี่ยมตั้งตระหง่าน ราวกับหลุดออกมาจากโลกอนิเมะ สถานที่แห่งนี้คือ “ห้องสมุดกลางป่า” ภายในจัดแสดงหนังสือราว 1,000 เล่ม ที่คัดสรรอย่างสอดคล้องกับแนวคิดของห้องสมุด เมื่อก้าวเข้าไปจะได้กลิ่นหอมของไม้ลอยอบอวล และทุกมุมของอาคารก็สวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพ เป็นพื้นที่ที่อบอุ่นจนชวนให้อยากใช้เวลาพักผ่อนให้นานขึ้นอีกนิด

โรงงานโยเมชู โคมากาเนะ: ถ่ายทอดเรื่องราวของยาดองสุราที่ได้รับความนิยมมายาวนานในญี่ปุ่น

ภายในพื้นที่ของคุระสึวะ โนะ โมริ ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตโยเมชูอีกด้วย โยเมชูคือยาดองสุราที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมายาวนานนับหลายร้อยปี ปัจจุบันยังคงผลิตโดยใช้กรรมวิธีดั้งเดิมในการหมักสมุนไพรหลากชนิดลงในสุรา ใช้เวลาประมาณสองเดือนในการผลิตที่โรงงานแห่งนี้

โรงงานโคมากาเนะเป็นโรงงานแห่งเดียวของโยเมชู ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1972 ณ สถานที่แห่งนี้ เพื่อตามหาอากาศและแหล่งน้ำบริสุทธิ์ที่จำเป็นต่อการผลิตยาดองสุรา ภายในบริเวณโรงงานยังคงมีผืนป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และมีธารน้ำใสไหลผ่าน

การเข้าชมโรงงานไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า หลังจากรับชมวิดีโอเกี่ยวกับโยเมชูในโรงภาพยนตร์ที่มีบรรยากาศราวกับหอแสดงดนตรีคลาสสิกแล้ว ผู้เข้าชมสามารถเดินชมภายในอาคารอย่างอิสระ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของโยเมชูและสมุนไพรที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
ในบางจุดยังสามารถชมสายการผลิตผ่านกระจกได้อีกด้วย การได้เห็นกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วโดยเครื่องจักรนั้น ชวนให้เพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ

แหล่งออนเซ็นฮายาทาโระ: บ่อน้ำพุร้อนชื่อดังที่ช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินป่า

การปิดท้ายวันที่โคมากาเนะโคเก็งอย่างสมบูรณ์แบบ ต้องไม่พลาดการแช่น้ำพุร้อนที่แหล่งออนเซ็นฮายาทาโระ ออนเซ็นแห่งนี้ตั้งชื่อตามฮายาทาโระ สุนัขศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการสักการะอยู่ที่วัดโคเซ็นจิ และขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพน้ำพุร้อนที่ให้สัมผัสลื่นละมุนเป็นพิเศษ จนได้รับสมญานามว่า 「บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผิวสวย」

แหล่งออนเซ็นฮายาทาโระ มีเรียวกังหลายแห่งที่ให้บริการน้ำพุร้อนพร้อมเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอันหลากหลาย รวมถึงมีสถานที่อาบน้ำแร่แบบไปเช้าเย็นกลับที่ไม่ต้องค้างคืนด้วย “โคะมะคุสะ โนะ ยู” ตั้งอยู่ห่างจากโคมากาเนะฟาร์มส์เพียงประมาณ 10 นาทีโดยการเดิน เป็นสถานที่ยอดนิยมให้แวะพักหลังจากเดินเล่นในที่ราบสูงโคมากาเนะหรือเส้นทางเดินเขาเซ็นโจจิกิ เซอร์ก
วิวของเทือกเขาแอลป์ตอนกลางที่มองเห็นได้จากบ่อออนเซ็นกลางแจ้งนั้น สวยงามน่าประทับใจยิ่งนัก

เส้นทางเดินเขาเซ็นโจจิกิ เซอร์ก: หนึ่งในจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น

เส้นทางเดินเขาเซ็นโจจิกิ เซอร์ก เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้น หากต้องการชมทัศนียภาพอันงดงามของเซอร์กซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงราว 2,600 เมตร ควรไปเยือนในช่วงเช้า ซึ่งมีโอกาสเห็นเพราะเมฆจะปกคลุมน้อยกว่า

เนื่องจากถนนที่มุ่งหน้าไปยังจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลสัญจรผ่าน นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องโดยสารรถบัสประจำทางจาก ศูนย์รถบัสสึงะโนะได ไปยัง สถานีชิระบิไดระ จากนั้นจึงต่อกระเช้าลอยฟ้าไปยัง สถานีเซ็นโจจิกิ ในบางฤดูกาล คุณอาจประหลาดใจที่เห็นนักปีนเขาต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอซื้อตั๋วรถบัสตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอแนะนำให้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมโคมากาเนะในวันก่อนหน้า พักค้างคืนที่ ฮายาทาโระออนเซ็น และขึ้นรถบัสเที่ยวแรกในเช้าวันรุ่งขึ้น

ที่สถานีเซ็นโจจิกิ มีโรงแรมเซ็นโจจิกิตั้งอยู่ภายในอาคารเดียวกัน โรงแรมแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่สุดของญี่ปุ่น หลังจากเดินเล่นตามเส้นทางเดินชมธรรมชาติรอบวงแอ่งภูเขาน้ำแข็ง (เซอร์ก) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 40–50 นาที ขอแนะนำให้แวะพักที่ร้าน “คาเฟ่ 2612” ภายในโรงแรม เพื่อเพลิดเพลินกับมื้อกลางวันหรือขนมหวาน พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของเซ็นโจจิกิ เซอร์ก

ภูเขาคิโสะโคมากาทาเกะที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าวงแอ่งภูเขาน้ำแข็ง (เซอร์ก) เซ็นโจจิกิ เป็นหนึ่งในภูเขาร้อยยอดที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ด้วยความที่สามารถเข้าถึงจากระดับความสูงได้โดยใช้กระเช้าลอยฟ้า จึงถือเป็นเส้นทางปีนเขาแถบเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (ยกเว้นฤดูหนาว) อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้เป็นเส้นทางปีนเขาอย่างแท้จริง จึงอย่าลืมเตรียมรองเท้าปีนเขา เสื้อกันฝน และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม

สรุป

จากเมืองนาโกย่า ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีก็จะถึงทางลงโคมากาเนะ IC บนทางด่วนจูโอ จากนั้นขับต่ออีกไม่กี่นาทีก็จะถึงโคมากาเนะฟาร์มส์ พื้นที่โคมากาเนะมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่รอบศูนย์รถบัสสุกะโนะได ซึ่งเป็นทางเข้าสู่เส้นทางไปยังเซ็นโจจิกิ เซอร์ก และโคมากาเนะฟาร์มส์ที่อยู่ติดกัน จึงสามารถวางแผนเที่ยวแบบครึ่งวันถึงหนึ่งวันได้อย่างสะดวก ทำไมไม่ลองเพิ่มโคมากาเนะไว้ในจุดหมายของทริปขับรถครั้งต่อไปของคุณดูล่ะ?