400 ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นอยู่ในยุคที่เรียกว่ายุคเซ็งโคะคุ ไดเมียวหลายคนถูกส่งไปครองดินแดนเล็ก ๆ และต้องต่อสู้เพื่อชิงอำนาจสูงสุด วีรบุรุษสามคนที่กลายเป็นผู้ชนะในยุคนี้และนำพาญี่ปุ่นไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้แก่ โนบุนากะ โอดะ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิและโทคุกาวะ อิเอะยะสุ ซึ่งล้วนมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดไอจิ ที่เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติชูบุ โนบุนากะและฮิเดโยชิมาจากเขตโอวาริ ซึ่งในปัจจุบันคือเมืองนาโกย่า ขณะที่อิเอะยะสุมาจากเขตมิคาวะซึ่งในปัจจุบันคือเมืองโอคาซากิ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำเมืองโอคาซากิ บ้านเกิดของอิเอะยะสุให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

ประวัติความเป็นมาของโทะคุกะวะ อิเอะยะสึและเมืองโอคาซากิ

เมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นได้ย้ายจากเกียวโตไปยังเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ในปี 1603 โทะคุกะวะ อิเอะยะสึ ผู้ครองแผ่นดินคนสุดท้ายของยุคเซ็งโคะคุ และได้ขึ้นเป็นนายพล ซึ่งเป็นอำนาจที่ยาวนานถึง 265 ปีจนกระทั่งยุคเอโดะได้เริ่มขึ้น
โอคาซากิเป็นสถานที่ที่นายพลโทะคุกาวะได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1542 โอคาซากิเป็นสถานที่สำคัญสำหรับตระกูลโทะคุกาวะได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีตลอดยุคเอโดะ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองแห่งที่พักของโทไคโด ผู้คนในโอคาซากิก็ภาคภูมิใจเช่นกันที่โอคาซากิเป็นดินแดนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโทคุกาวะ
แม้ว่าปัจจุบันเมืองโอคาซากิจะมีชื่อเสียงในฐานะเมืองอุตสาหกรรม แต่ก็ยังมีอาคารหลายหลังที่มีเกี่ยวข้องกับตระกูลโทคุกาวะหลงเหลืออยู่ รวมไปถึงปราสาทโอคาซากิด้วย คุณจะได้เจอ “อาโออิโนะโกะมง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลโทคุกาวะอยู่ทุกหนทุกแห่ง เรียกได้ว่าโอคาซากิเป็นเมืองที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงตระกูลโทคุกาวะและประวัติศาสตร์ของตระกูลนี้ได้ทุกตารางเมตร

วิธีไปโอคาซากิ

จากนาโกย่าถึงโอคาซากิ

ขึ้นรถไฟสายเมเทะทสึ Main Line จากสถานีเมเทะทสึนาโกย่าไปยังสถานีฮิกาชิโอคาซากิ ราคา 680 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
คุณสามารถไปที่สถานีโอคาซากิด้วยสายโทไคโด จากสถานี JR นาโกย่า ซึ่งอยู่ติดกับสถานีเมเทะทสึ นาโกย่า แต่หากลองคิดจากเส้นทางการเที่ยวแล้ว เราขอแนะนำให้ไปที่สถานีฮิกาชิโอคาซากิ บนสายเมเทะทสึ เนื่องจากสถานีJRโอคาซากิและสถานีเมเทะทสึฮิกาชิโอคาซากินั้นอยู่ไกลกันมาก ทำให้ยากที่จะไปด้วยการเดิน
ปัจจุบันสถานีฮิกาชิโอคาซากิและบริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาอย่างกว้างขวาง โรงแรมใหม่ ๆ ก็ถูกสร้างขึ้น ทำให้มีความสะดวกมากขึ้น เพื่อให้สมกับในฐานะของเมืองแห่งการท่องเที่ยว

จากสนามบินนานาชาติชูบุถึงโอคาซากิ

วิธีที่สะดวกที่สุดคือ เดินทางจากสถานีสนามบินนานาชาติชูบุไปยังสถานีคานายามะด้วยเมเทะทสึ จากนั้นเปลี่ยนรถไปยังเมเทะทสึ Main Line และไปยังสถานีฮิกาชิโอคาซากิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงและค่าโดยสารอยู่ที่ 1270 เยน

จุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับโทคุกาวะ

ปราสาทโอคาซากิและสวนโอคาซากิ

เมื่อออกจากทางออกทิศเหนือของสถานีฮิกาชิโอคาซากิคุณจะเจอแม่น้ำโอโตกาวะ จากนั้นข้ามสะพานแล้วเดินตามแม่น้ำไปทางซ้าย เพียงอึดใจคุณก็จะเห็นปราสาทโอคาซากิ บริเวณทั้งหมดรวมถึงปราสาท โอคาซากินั้นได้รับการปรับปรุงรักษาให้กลายเป็นสวนสาธารณะโอคาซากิ หอคอยปราสาทได้รับการบูรณะให้เป็นรูปแบบดั้งเดิม จากหอคอยสูงตระหง่านสามารถมองเห็นแม่น้ำที่สวยงามได้ ที่นี่ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ปราสาทโอคาซากิและสวนสาธารณะมีชื่อเสียงในด้านของการเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ดอกวิสทีเรียสีม่วงที่บานหลังจากดอกซากุระร่วงและใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี

ที่ฝังสายสะดือ

บ่อน้ำสำหรับเด็กแรกเกิด

เนื่องจากที่นี่เป็นปราสาทที่โทคุกาวะ อิเอะยะสึได้ถือกำเนิดขึ้น บ่อน้ำที่เห็นเป็นบ่อน้ำที่จะถูกใช้เมื่อเด็กในตระกูลอิเอะยะสึเกิด ส่วนกองหินที่เห็นนั้นมีสายสะดือของอิเอะยะสึฝังอยู่

โจนันเท

รูปปั้นของอิเอะยะสึนั่งขมวดคิ้ว

ที่นี่มีรูปปั้นมากมายของอิเอะยะสุตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ ในบรรดารูปปั้นเหล่านี้ มี"รูปปั้นชิคามิ (หมายเหตุ: รูปปั้นขมวดคิ้ว)" ที่ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ ครั้งหนึ่งอิเอะยะสึพ่ายแพ้ในการต่อสู้และสูญเสียลูกน้องไปหลายคน เขาได้ให้ศิลปินวาดภาพหน้าตาที่ขมวดคิ้วของตัวเอง จริง ๆ แล้วไม่มีใครที่อยากจะเก็บใบหน้าเมื่อพ่ายแพ้ในสงครามเก็บไว้ แต่เขาต้องการเก็บไว้เพื่อเตือนความทรงจำในความพ่ายแพ้และความภาคภูมิใจในตัวเองเพื่อนำไปสู่ความเป็นหนึ่งในอนาคต

ที่ปราสาทโอคาซากิ มีการแสดงในช่วงสุดสัปดาห์โดยเป็นการแสดงที่มีตัวละครเป็น โทคุกาวะ อิเอะยะสึ และเหล่าขุนศึกข้างกายที่ได้รับขนานนามว่า “ชิเท็นโน (สี่มหาราช)”

นอกจากนี้ในสวนโอคาซากิที่โจนันเท มีคอร์สใส่ชุดกิโมโนพร้อมกับเดินเล่นรอบสวนพร้อมเพลิดเพลินไปกับอาหารกลางวันสไตล์ญี่ปุ่นที่ Okazaki New Grand Hotel ที่อยู่ข้าง ๆกัน

• Spot Info

ศาลเจ้าทะสึกิ

ประตูโทริิอิ

บ่อล้างมือที่มีรูปปั้นมังกร

ด้านล่างหอคอยของปราสาทโอกาซากิ มีศาลเจ้าที่เรียกว่าศาลเจ้าทะสึกิ แม้ว่าจะไม่ใช่ศาลเจ้าใหญ่มากนัก แต่ก็มีตำนานเล่าขานกันว่า ในเช้าของวันที่อิเอะยะสึได้ถือกำเนิด มีมังกรทองปรากฏขึ้นและมีน้ำพุ่งจากปราสาทขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่นี่จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนจำนวนมากเข้ามาเพื่อขอพรให้โชคดี

• Spot Info

ศาลเจ้าโระคุโชะ

ศาลเจ้าโระคุโชะตั้งอยู่ห่างทางออกทิศใต้ของสถานีเมเทะทสึฮิกาชิโอคาซากิ(ตรงข้ามปราสาทโอคาซากิ) ประมาณ 2 นาที ว่ากันว่าปู่ของโทะคุกาวะ อิเอะยะสึหรือ มัทสึไดระ คิโยะยะสึเป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งตระกูลอิเอะยาสึได้ดูแลรักษามาเป็นอย่างดี ในปัจจุบันก็ยังถือเป็นที่ ๆ ผู้คนมารวมตัวการเพื่อบูชาสักการะเทพเจ้า
เมื่อคุณผ่านประตูโทริอิข้างหน้าสุด และเดินตรงไปที่ศาลเจ้าจะพบกับบ่อน้ำหน้าศาลเจ้าที่มีไว้เพื่อทำความสะอาดมือของคุณก่อนที่จะเข้าไปนมัสการเทพเจ้า และรูปปั้นม้าที่มียอดหงอนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลโทคุกาวะ ทางด้านซ้ายมือมีบันไดหินสูงชันและมีประตูยะมะมงสีแดงตั้งอยู่ด้านหน้าบันไดหิน
บันไดหินนี้ ในอดีตมีเพียงแค่ไดเมียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ปีนขึ้นไปได้ ตอนนี้ทุกคนสามารถปีนขึ้นบันไดหินและเดินขึ้นไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ได้ ประตูยะมะมงสีแดง สีของอาคารศาลเจ้าและรูปแกะสลักต่าง ๆ ถูกระบายเป็นสีแดงเหมือนกับประตูยะมะมงเพื่อให้มีสภาพเหมือนในสมัยเอโดะ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก อาคารศาลเจ้าหลักและประตูยะมะมงได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศและมีคุณค่าสูงทางสถาปัตยกรรม

ทางเดินสู่ศาลเจ้าโระคุโชะ

อาคารศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าโระคุโชะ

• Spot Info

ศาลเจ้าอิกะฮาจิมัง

ศาลเจ้าอิกะฮาจิมังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าผู้พิทักษ์ตระกูลโทคุกาวะ และได้รับการอนุรักษ์มาเป็นอย่างดี มีกันว่าก่อนจะออกรบครั้งสำคัญ โทคุกาวะ อิเอะยะสุมักจะมาไหว้ขอพรก่อนเสมอ หลานชายของอิเอะยะสึ อิเอะมิสึได้ทำการขยายศาลเจ้าอิกะฮาจิมังและบูชาอิเอะยะสึประดุจดั่งเทพเจ้า

บ่อน้ำกว้างใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าประตูและภาพเงาสะท้อนของสะพานอิชิบาชิทำให้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความงามของญี่ปุ่น ที่นี่สวยงามเสมอไม่ว่าคุณจะมาในฤดูกาลใดก็ตาม แต่จะสวยงามอย่างมากในเดือนกรกฎาคม เพราะทั่วทั้งบ่อจะเต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพู ซึ่งจะเป็นวิวที่สวยงามจนไม่รู้ลืม
นอกจากนี้ที่นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนอิเอะยะสุในงานอีเวนท์ที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี และยังมีการจัดพิธีให้กับเหล่าผู้บัญชาการทหารที่ต้องเดินทางไปประจำการแบบสมัยก่อนให้ได้ชมอีกด้วย

บรรยากาศภายในเขตศาลเจ้า

อะโออิโนะโกะมง(ตราสัญลักษณ์)

• Spot Info

วัดไดจูจิ

ปิดท้ายจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับโทคุกาวะ เพราะหากเดินทางโดยรถบัสเมเทะทสีจากสถานีฮิกาชิโอคาซากิก็จะเป็นป้ายสุดท้ายพอดี
ที่นี่เป็นที่ตั้งของป้ายหลุมศพเจ้าบ้านเจ้าเมืองและนายพลต่าง ๆ ความพิเศษอยู่ที่ผ้ายหลุมศพที่ถูกสร้างให้มีความสูงเท่ากับความสูงของบุคคลเหล่านั้น ซึ่งถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เช่น ป้ายหลุมศพของโทะคุกาวะ อิเอะยะสึมีความสูง 159 ซม.
เมื่อโทคุกาวะ อิเอะยะสึยังเป็นเด็ก เขาได้หนีไปที่วัดแห่งนี้เมื่อเขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้และพยายามฆ่าตัวตาย ในเวลานั้นนักบวชได้เกลี้ยกล่อมให้เขาหยุดความคิดในการที่จะคว้านท้องและเขาก็ได้กลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติเช่นรูปปั้นไม้ของ โทคุกาวะ อิเอะยะสึอีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อคุณมองไปที่ประตูยามะมงจากบริเวณวัด คุณสามารถมองเห็นปราสาทโอคาซากิในแนวตรงห่างจากจุดที่คุณอยู่ 3 กิโลเมตร เรียกว่ามุมมอง Vista Line และได้รับการรักษามาเป็นอย่างดีกว่า 370 ปี เล่ามาจนถึงตอนนี้ทุกคนก็น่าจะเข้าใจแล้ว่าวัดไดจูจิ มีความสำคัญต่อที่นี่และตระกูลโทคุกาวะอย่างไร

ประตูยามะมง

หอระฆัง

• Spot Info

วัฒนธรรมอาหารของโอคาซากิที่โทคุกาวะ อิเอะยะสึีรัก

มะรุยะ ฮัทโจ มิโสะ

คะคุคิว ฮัจโจ มิโสะ

ในสมัยของโทคุกาวะ อิเอะยะสึ ผู้คนมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 37- 38 ปีเท่านั้น แต่อิเอะยะสึมีอายุยืนยาวกว่า 75 ปี ว่ากันว่าความลับของสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนของเขาคือข้าวบาร์เลย์และมิโซะ มิโสะของโอคาซากิเรียกว่า ฮัทโจ มิโสะ เพราะถูกผลิตขึ้นในฮัทโจที่อยู่ไม่ห่างจากปราสาทโอคาซากินัก (ประมาณ 870 เมตร) ในปัจจุบันผู้ผลิตมิโซะทั้งสองเจ้าก็ยังคงทำมิโซะโดยใช้สูตรดั้งเดิม และคุณสามารถเที่ยวชมโรงงานการทำมิโซะได้ฟรี

นอกจากนี้ยังมีเวิร์คชอปที่คุณสามารถเข้าเยี่ยมชมร้านมิโซะแล้ว ยังสาเกให้ลองชิมและยังสามารถลองชิมอาหารแบบเดียวกับที่อิเอะยะสุเคยรับประทานอย่างเมนูที่ใช้เนื้อไก่ที่เลี้ยงในท้องที่ราดด้วยมิโสะฮัทโจได้อีกด้วย

สรุป

เพียง 30 นาทีจากนาโกย่าก็จะไปถึงเมืองโอคาซากิ ดอกซากุระฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้ไฟในฤดูร้อนของ โอคาซากิ เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่มีความงดงามที่สุดของญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ไปค้นหาความสวยงามนั้น ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ทุกท่านลองไปเที่ยวในเวลาอันแสนพิเศษแบบนั้นเหมือนกัน แต่ในช่วงที่เงียบสงบ ที่นี่ก็เหมาะแก่การมาเที่ยวเพื่อตามรอยประวัติศาสตร์ของโทคุกาวะไม่แพ้กัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีไกด์ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนะคะ